เตาทำอาหารกับเทคนิคดีๆในการเลือกให้เข้ากับครัว
23 February 2560
กฎทั่วไปของคอนโดโดยส่วนใหญ่ คือการห้ามนำเตาแก๊สมาใช้งานในครัวของคอนโด ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการเกิดประกายไฟซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ ในการเลือกเตาสำหรับใช้ทำอาหาร จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนประเภทเตาจากเตาแก๊สมาใช้เตาชนิดอื่นอย่างการนำเตาไฟฟ้าที่ไม่มีประกายไฟมาใช้ทดแทน บทความนี้จะกล่าวถึงการเลือกเตาทำอาหารกับเทคนิคดี ๆ ในการเลือกให้เข้ากับครัวคอนโด ตลอดจนวิธีการใช้งานให้ท่านผู้อ่านได้นำไปประกอบการตัดสินใจเพื่อเลือกซื้อ
เตาไฟฟ้าที่นิยมขายกันอยู่ในท้องตลาด มีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท คือเตาไฟฟ้าแบบ Solid plate เตาไฟฟ้าแบบเซรามิค และ เตาแม่เหล็กไฟฟ้า
1.เตาไฟฟ้าแบบ Solid plate หรือ เพลทร้อน
เริ่มกันที่เตาชนิดแรก เตาประเภทแรกที่จะกล่าวถึงนี้มีชื่อเรียกว่าเตาไฟฟ้าแบบ Solid plate หรือ เตาเพลทร้อน เตาชนิดนี้มีลักษณะที่เห็นได้เด่นชัดคือตัวเตาจะมีแผ่นเพลทกลมทำจากแผ่นโลหะอยู่ด้านบน แผ่นโลหะกลมนี้เองจะมีขดลวดสำหรับให้ความร้อนติดตั้งอยู่ โดยหลักการทำงานให้ความร้อน จะต้องผ่านตัวให้ความร้อนคือขดลวด ผ่านเพลตร้อนจนมาถึงตัวภาชนะที่อยู่บนเตา ลักษณะเตาเช่นนี้เมื่อเลิกใช้งานและปิดเตาแล้วจะยังมีความร้อนหลงเหลืออยู่ที่หัวเตา ต้องระมัดระวังไม่ให้ผิวเนื้อสัมผัสโดน
ข้อดี : มีราคาถูกกว่าเตาไฟฟ้าชนิดอื่น
ข้อเสีย : กินไฟมากและให้ความร้อนช้า ต้องรอเป็นระยะเวลานานกว่าที่ภาชนะใส่อาหารจะค่อย ๆ ร้อนขึ้น หรือเมื่อปิดเตาแล้วก็ยังมีความร้อนหลงเหลืออยู่อาจเป็นอันตรายได้หากไปสัมผัสโดน
2. เตาไฟฟ้าแบบเซรามิค
เตาไฟฟ้าแบบที่สองเรียกว่าเตาไฟฟ้าแบบเซรามิค เตาชนิดนี้มีความคล้ายคลึงกับเตาแม่เหล็กไฟฟ้ามาก แต่มีความแตกต่างตรงการทำงานจะเป็นกลไกของขดลวดไฟฟ้าหรือใช้หลอดอินฟาเรดเป็นตัวให้ความร้อน พื้นผิวของเตาข้างบนจะเป็นกระจกหรือเซรามิกสีดำเข้ม เมื่อเปิดเตาขึ้นมาจะขึ้นเป็นแสงสีแดงเพื่อส่งสัญญาณบอกว่าเตากำลังร้อนอยู่และกำลังทำงาน
ข้อดี : ดีไซน์สวย ดูดี ทนการกระแทกและทนอุณหภูมิสูงได้ดีสามารถใช้กับภาชนะแบบใดก็ได้ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้องหรือสแตนเลส
ข้อเสีย : กินไฟพอ ๆ กับเตาแบบเพลทร้อน อุณหภูมิเพิ่มขึ้นช้า หรือเมื่อปิดเตาแล้วก็ยังมีความร้อนเหลืออยู่ตรงพื้นผิวหน้าเตา
3. เตาแม่เหล็กไฟฟ้า
เตาแบบสุดท้ายมีชื่อเรียกว่าเตาแม่เหล็กไฟฟ้า เตาประเภทนี้จัดได้ว่าเป็นเตาที่มีความปลอดภัยมากที่สุดก็ว่าได้ ด้วยหลักการการทำงานที่ใช้ขดลวดสนามแม่เหล็กในการส่งสัญญาณ เมื่อใช้คู่กับภาชนะที่เป็นโลหะก็จะทำให้เกิดความร้อนขึ้น เตาประเภทนี้มีความแตกต่างจากเตาสองประเภทแรกที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ตรงที่มีข้อจำกัดว่าสามารถใช้ได้กับภาชนะที่ทำจากโลหะหรือสแตนเลสเท่านั้น วัสดุอื่นไม่สามารถใช้กับเตาประเภทนี้ได้
เตาแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถแยกย่อยออกได้ตามรูปแบบเป็น 2 ประเภทคือ
3.1 เตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบติดกับเคาเตอร์หรือแบบบิ้วท์อิน เตาแบบบิ้วท์อินจะทำการติดตั้งลงบนตัวเคาน์เตอร์ครัวไปเลยคอนโดสมัยใหม่บางโครงการอาจติดตั้งเตาไฟฟ้าแบบนี้มากับเคาน์เตอร์ห้องครัวเลยเป็นของแถม หากติดตั้งฝังลงไปกับเคาน์เตอร์ครัวก็จะช่วยให้ภาพรวมของห้องครัวดูเรียบร้อย สวยงาม ทันสมัย น่าใช้งานมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังทำความสะอาดง่ายแต่ก็มีข้อเสียอยู่ตรงที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายที่ไปไหน
3.2 เตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบเคลื่อนย้ายได้ สำหรับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบเคลื่อนย้ายได้นี้มีขายทั่วไปตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำในแผนกเครื่องครัว เตาประเภทนี้มีราคาแพงน้อยลงกว่าแบบบิ้วท์อิน เคลื่อนย้ายได้สะดวก เมื่ออยากเปลี่ยนบรรยากาศก็อาจย้ายที่ทำอาหารเปลี่ยนมาทำตรงระเบียง เมื่อตัวเตาเสียหายก็สามารถซื้อมาเปลี่ยนใหม่ได้สะดวก แต่ด้วยลักษณะเตาที่ไม่แนบสนิทไปกับเคาน์เตอร์ก็อาจทำให้ดูระเกะระกะสายตาบ้างเล็กน้อย
ข้อดี : ด้วยกลไกการทำงานความร้อนจะเกิดกับตัวภาชนะเลยตัวเตาจึงไม่มีความร้อนสามารถจับต้องได้แม้กำลังทำงาน เมื่อปิดเตาแล้วก็ไม่มีความร้อนหลงเหลืออยู่ ช่วยประหยัดไฟเพราะใช้กำลังไฟต่ำ
ข้อเสีย : มีราคาแพง เตาประเภทนี้มีราคาสูงกว่าเตาแบบเพลทร้อนและเตาแบบเซรามิค และมีข้อจำกัดตรงที่สามารถใช้ได้กับภาชนะที่เป็นสแตนเลสเท่านั้น ไม่สามารถใช้กับภาชนะที่ทำจากวัสดุอื่น อย่างไรก็ตามภาชนะโลหะบางรุ่นก็ไม่รองรับการใช้งานกับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าซึ่งข้อนี้ผู้ใช้งานต้องคอยสังเกตสัญลักษณ์ที่ติดไว้กับตัวภาชนะก่อนซื้อ
สำหรับการตัดสินใจเลือกซื้อเตามาใช้งานนั้น ต้องพิจารณาถึงองค์ประกอบหลาย ๆ องค์ประกอบทั้ง วัสดุ ดีไซน์ ความสวยงาม งบประมาณในการซื้อ ไปจนตลอดการใช้งานของผู้ที่อยู่อาศัยภายในคอนโดด้วย หากผู้ใช้งานไม่ได้เป็นผู้ที่ชอบเข้าครัวหรือไม่ได้ชอบทำอาหารรับประทานบ่อย ๆ การเลือกใช้เตาอย่างเตาเพลทร้อน หรือเตาเซรามิคก็อาจมีความเพียงพอแล้ว แต่หากผู้ใช้เป็นผู้ที่ชอบเข้าครัวและนิยมทำอาหารรับประทานกันภายในครอบครัว หรือมีบุตรหลานเป็นเด็กเล็กด้วยแล้ว เตาแม่เหล็กไฟฟ้าน่าจะช่วยตอบโจทย์ได้ดีกว่าเตาประเภทอื่น แม้จะมีราคาแพงกว่าแต่เมื่อเทียบกับการใช้งาน ที่ช่วยในเรื่องการประหยัดไฟแล้ว ก็นับว่าคุ้มค่าคุ้มราคา นอกจากนี้เตาแม่เหล็กไฟฟ้ายังมีความปลอดภัยต่อบุตรหลานของท่านอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.tehnikagalerii.ee/images/product/voa01RT.jpg