เปรียบเทียบ Mi TV Stick กับ Mi Box S ต่างกันยังไง ซื้ออะไรดี?

20 August 2563

ในยุคนี้ แค่คำว่า TV มันไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะเราได้ก้าวเข้าสู่ยุคของ Smart TV ที่นอกจากจะดูรายการจากช่องฟรีทีวีได้แบบเรียลไทม์แล้ว ยังสามารถดูรายการย้อนหลัง ภาพยนตร์ รวมถึงรายการวาไรตี้ทั้งในและนอกประเทศเมื่อไหร่ก็ได้ตามต้องการ นอจากนี้ยังสามารถใช้เล่นเกมได้อีกด้วย...ในบทความนี้ Esto จะมาแนะนำอุปกรณ์ที่สามารถเปลี่ยน TV ธรรมดาให้กลายเป็น Smart TV ได้ง่าย ๆ ด้วย Mi TV Stick และ Mi Box S โดยไม่ต้องหาซื้อ Smart TV ราคาแพงกันให้กระเป๋าฉีกอีกต่อไป

เปรียบเทียบองค์ประกอบโดยรวมของ Mi TV Stick และ Mi Box S

‘ราคา’ ระหว่าง Mi TV Stick และ Mi Box S

ทั้งสองรุ่นมีราคาที่ต่างกันไม่มากนัก โดย Mi TV Stick เปิดตัวที่ ราคา 1,699 บาท และเนื่องจากเปิดตัวไปไม่นานนอกจากร้าน Official แล้ว เราอาจยังเห็นผู้ขายรุ่นนี้ยังไม่มากนัก ต่างจาก Mi Box S ที่เปิดตัวที่ราคา 2,690 บาท และสามารถหาผู้ขายที่ขายในราคาต่ำกว่านี้ได้ แต่ทั้งนี้ต้องดูเรื่องของแท้ของปลอมกันอีกที

‘ขนาดของตัวอุปกรณ์’ ระหว่าง Mi TV Stick และ Mi Box S

ทั้งสองรุ่นมีขนาดที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดย Mi TV Stick มีลักษณะคล้ายกับ Flashdrive ที่ใช้งานด้วยการเสียบเข้ากับ Port HDMI และจำเป็นต้องต่อสาย USB เข้ากับตัว Stick แยกเพื่อจ่ายไฟ สำหรับ TV ของใครที่ Port HDMI อยู่ด้านหลังและเป็นแบบติดผนัง อาจมีปัญหาได้เพราะ ตัว Stick ต้องการพื้นที่ประมาณ 5-10 เซนติเมตร แต่หากใครที่ Port HDMI อยู่ด้านข้างตัวเครื่อง หรือเป็น TV ตั้งโต๊ะและมีพื้นที่สำหรับตัว Stick รวมถึงมี Port USB อยู่ใกล้ ๆ กัน ก็หมดปัญหาไปหนึ่งขั้นตอน และต้องบอกเลยว่าหากทีวีไม่มี Port HDMI หมดสิทธิ์ใช้งาน ทั้งสองรุ่นไปโดยปริยาย

ส่วนตัว Mi Box S ติดตั้งคล้ายกับกล่องสัญญาณ Digital TV ทั่วไป คือไม่จำเป็นต้องติดไว้ตรงตัว TV แบบ Mi TV Stick เพียงต่อตัวเครื่องเข้ากับ Port HDMI ด้วยสายที่แถมมาให้กับตัวเครื่อง ก็สามารถใช้งานได้ตามปกติ ส่วนเรื่องการจ่ายไฟใช้เป็น Adapter ที่สามารถต่อเข้ากับปลั๊กไฟปกติได้เลย

‘คุณภาพของภาพ’ ระหว่าง Mi TV Stick และ Mi Box S

ทั้งสองรุ่นให้ความละเอียดของภาพต่างกัน โดย Mi TV Stick ให้ความละเอียดของภาพที่ 1920 x 1080 หรือขนาด Full HD ส่วน Mi Box S ให้ความละเอียดภาพจัดเต็ม มาที่ 4K กันเลยทีเดียว ทั้งนี้คุณภาพของภาพนั้นขึ้นอยู่กับหน้าจอของเราด้วย ว่าสามารถรองรับได้ถึงระดับไหน หากจอของเรารองรับสูงสุดที่ Full HD แม้จะใช้ Mi Box S ก็ได้ความละเอียดที่ Full HD เท่านั้น

‘การเชื่อมต่อ’ ระหว่าง Mi TV Stick และ Mi Box S

ทั้ง Mi TV Stick และ Mi Box S จะใช้การเชื่อมต่อสัญญาณ Wi-Fi เป็นหลัก ตั้งแต่ Set up ไปจนถึงการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ด้วยระบบ Chromecast จาก google ที่สามารถฉายภาพจากจอโทรศัพท์ขึ้นจอ TV ได้

เปรียบเทียบประสิทธิภาพการใช้งานของ Mi TV Stick และ Mi Box S

‘ประสิทธิภาพการใช้แอปพลิเคชัน’ ระหว่าง Mi TV Stick และ Mi Box S

เนื่องจากตัว Mi TV Stick ใส่ตัวประมวลผลที่ขนาดเล็กกว่า รวมถึงให้ RAM มาน้อยกว่า ทำให้การเรียกดู Media Content และการ Browse โดยรวมทำได้ช้าและหน่วงกว่า Mi Box S เล็กน้อย โดยจะรู้สึกได้ว่าต้องรอชั่วอึดใจนึง Content ที่ต้องการจึงจะขึ้นมาให้กดใช้งานได้ แต่เรื่องการเข้าถึงแอปพลิเคชันของทั้งสองรุ่นไม่แตกต่างกัน และสามารถ Download เพิ่มเติมได้จาก Google Play Store

‘ประสิทธิภาพการดูภาพยนตร์ รายการทีวีต่าง ๆ’ ระหว่าง Mi TV Stick และ Mi Box S

‘ประสิทธิภาพการดูภาพยนตร์หรือรายการทีวีต่าง ๆ’ ระหว่าง Mi TV Stick และ Mi Box S

แม้ว่าในตอน Browse หรือการเรียกดู Content ของ Mi TV Stick จะมีอาการหน่วงให้เห็นบ้าง แต่ไม่ปรากฎเลยระหว่างการรับชม Content ไม่ว่าเป็นภาพยนตร์ รายการทีวี หรือรายการทีวีแบบเรียลไทม์ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสัญญาณ Wi-Fi ด้วย ถ้าสัญญาณอินเตอร์เน็ตมีปัญหาอาจส่งผลต่อการรับชมได้

‘ประสิทธิภาพการเล่นเกม’ ระหว่าง Mi TV Stick และ Mi Box S

เป็นเรื่องดีที่ทาง Mi TV Stick และ Mi Box S ได้เปิดให้ดาวน์โหลดเกมบางเกมจาก Google Play Store มาเล่นได้ โดยสามารถเลือกเล่นเกมบนรีโมท หรือเล่นเกมผ่าน joystick ก็ได้ และต้องเป็นจอยที่เชื่อมต่อด้วยระบบ Bluetooth เท่านั้น โดยทั้งสองรุ่นให้ประสิทธิภาพการเล่นเกมที่ไม่แตกต่างกันมาก เพราะส่วนใหญ่เป็นเกมขนาดเล็กที่ไม่ต้องใช้การทำงานของตัวประมวลผลสูงมาก

‘ประสิทธิภาพการเชื่อมต่อ’ ระหว่าง Mi TV Stick และ Mi Box S

เพราะทั้ง Mi TV Stick และ Mi Box S ใช้การเชื่อมต่อผ่านสัญญาณ Wi-Fi เรียกว่าเป็นหัวใจของการทำงานเลยก็ว่าได้ หากสัญญาณ Wi-Fi ไม่มีปัญหา การทำงานของทั้งสองรุ่นเป็นไปโดยราบรื่นเพราะทั้งสองรุ่นสามารถจับสัญญาณได้เสถียรดีอยู่แล้ว

ในเรื่องการเชื่อมต่อ Bluetooth จากการทดสอบโดย Youtuber ท่านหนึ่งพบว่า Mi TV Stick ไม่สามารถจับสัญญาณอุปกรณ์เสริม เช่น คีย์บอร์ด ได้ สามารถจับสัญญาณได้แต่เพียงรีโมทที่มาพร้อมกับตัวเครื่องเท่านั้น ส่วน Mi Box S นั้นไม่มีปัญหาใด ๆ สามารถเชื่อมต่อคีย์บอร์ดไว้สำหรับพิมพ์ชื่อหนังที่ต้องการได้ โดยไม่ต้องใช้การพิมพ์ผ่านรีโมท

จากการรีวิวเปรียบเทียบทั้ง Mi TV Stick และ Mi Box S เห็นได้ว่ามีความแตกต่างกันบางเรื่อง เช่น ราคา ขนาด และการเชื่อมต่อ Port เล็กน้อย ส่วนเรื่องประสิทธิภาพารใช้งานนั้น Mi TV Stick มีอาการหน่วงระหว่าง Browse Content เล็กน้อย และประสิทธิภาพการรับชมนั้นทำได้ดีมากตามสเปคความละเอียดของทั้งสองรุ่น หากใครที่กำลังลังเลว่าจะซื้อรุ่นไหนดี หวังว่าบทความนี้จะมีคำตอบให้สำหรับการตัดสินใจ

*ส่วนลด ณ วันที่ 19/8/2563 ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้