3 เรื่องที่ควรรู้ กับการใช้งานระบบ Internet of things (IOT) ที่ช่วยให้ชีวิตลงตัว
21 November 2562
หากพูดถึงระบบ Internet of things (IOT) หลายคนอาจเคยผ่านตากันมาบ้าง เกี่ยวกับระบบเชื่อมโยงเครือข่ายการใช้งานด้วยอินเทอร์เน็ตแบบครบวงจร แต่จะมีใครรู้บ้างว่าจริงๆแล้วระบบนี้ สามารถนำมาใช้งานให้เข้ากับวิถีชีวิตในยุค 4.0 ได้ยังไง ซึ่งวันนี้ Esto ขออาสาพาเพื่อนๆไปทำความรู้จักกับ “3 เรื่องที่ควรรู้ กับการใช้งานระบบ Internet of things (IOT) ที่จะช่วยให้ชีวิตลงตัวมากยิ่งขึ้น”
สร้างอุปกรณ์ภายในที่พักด้วยระบบ AI
ที่มา: Credit : cnet, condos, control4, unlimitedintegration, welt.de, greennetworkthailand
ถ้าให้เปรียบเทียบกันง่ายๆ หากระบบ Internet of things (IOT) เป็นร่างกาย ระบบ AI ก็คือสมอง ที่ต้องทำงานให้สอดคล้องกัน
ซึ่งระบบ Internet of things (IOT) มีจุดประสงค์หลักในการเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันโดยการผสานอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ เช่น กล้องวงจรปิด, ไมโครเวฟ, เครื่องซักผ้า เป็นต้นฯ ก่อนเข้าสู่ระบบประมวลผลการใช้งานด้วยระบบ AI
ในส่วนของรูปแบบการทำงานของทั้ง 2 ระบบ ที่จะเข้ามาช่วยเติมเต็มให้ชีวิตประจำวันของเราสะดวกสบายมากขึ้นนั้น มีกระบวนการทำงานของระบบแยกย่อยอีก 4 ประเภท
- ตัวตรวจจับรับสัญญาณด้วยเซนเซอร์ (Sense)
- ตัวรับส่งข้อมูลกับเครือข่าย (Transmit)
- การเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล (Store-Analyze)
- การประมวลผลดำเนินการทำงาน (Act)
เชื่อมต่อระบบ Internet of things (IOT) เข้ากับอุปกรณ์ภายในที่พัก
เรารู้จักตู้ ATM สำหรับกดเงินรึเปล่า ถ้ารู้จักรูปแบบการทำงานของมันขับเคลื่อนด้วย ระบบ Internet of things (IOT) โดยการเชื่อมโยงและโอนถ่ายข้อมูลในลักษณะขององค์กร แต่ในปัจจุบันระบบได้ถูกพัฒนามาไกลกว่าเมื่อก่อน จึงถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลาย ทั้งองค์กรสำนักงาน ระบบอุตสาหกรรม รวมไปถึงที่พักอาศัย
ที่มา: Credit : cnet, condos, control4, unlimitedintegration, welt.de, greennetworkthailand
แล้วระบบ Internet of things (IOT) สามารถนำมาประยุกต์ในที่อยู่อาศัยได้อย่างไร ?
นี่อาจเป็นคำถามของใครหลายคน แน่นอนว่าระบบนี้เรียกง่ายๆว่า ระบบการเชื่อมต่อด้วยอินเทอร์เน็ต ที่สามารถเชื่อมโยงเครือข่ายเข้ากับอุปกรณ์ที่ใช้อินเทอร์เน็ต
ดังนั้นอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือระบบที่อยู่อาศัยในปัจจุบันแบบ Smart Home และการสั่งงานด้วยระบบ Home Automation จึงทำให้ระบบ Internet of things (IOT) เชื่อมต่อได้อย่างสมบูรณ์ โดยทำหน้าที่เชื่อมโยงเข้ากับอุปกรณ์เช่น โทรศัพท์มือถือ, กล้องวงจรปิด, นาฬิกาอัจฉริยะ (Smart Watch) รวมไปถึง Smart Furniture เป็นต้น
ใช้ระบบ Internet of things (IOT) เพื่อประหยัดพลังงานไฟฟ้า
ที่มา: Credit : cnet, condos, control4, unlimitedintegration, welt.de, greennetworkthailand
คุณสมบัติที่โดเด่นที่สุดของระบบ Internet of things (IOT) คือการปลดล็อคและควบคุมการใช้พลังงานไฟฟ้าโดยไม่จำเป็น ซึ่งสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่ารูปแบบของ ประหยัดพลังงานเบอร์ 5 ในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เรารู้จักกัน
โดยระบบนี้ทำหน้าที่ได้ทั้งการควบคุมค่าพลังงานไฟฟ้าภายในบ้าน ซึ่งจะทำหน้าที่สอดคล้องกับระบบ Smart Home หรือจะใช้งานเข้ากับ โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid) ซึ่งเป็นการเป็นการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาบริหารจัดการควบคุมการผลิตพลังงานไฟฟ้า
หรือถ้าหากมองภาพใหญ่ขึ้นมาอีกระบบนี้ยังช่วยจัดการเมืองหรือประเทศได้ด้วย เมืองอัจฉริยะ (Smart City) โดยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น เช่น การจัดการพลังงานไฟฟ้า ระบบจัดการน้ำ และระบบจัดการขยะ ฯลฯ
ที่มา: Credit : cnet, condos, control4, unlimitedintegration, welt.de, greennetworkthailand
เพื่อนๆพอจะมองเห็นข้อดีของระบบ Internet of things (IOT) กันบ้างรึยัง เกี่ยวกับรูปแบบการใช้งาน รวมไปถึงการนำมาประยุกต์ใช้เพื่อให้เข้ากับประเภทของงานใช้งานต่างๆที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ไหนที่พักอาศัยเท่านั้น
บทความ Smart Life ที่น่าสนใจ
เปลี่ยนชีวิตให้สมาร์ทด้วยระบบ Home Automation
ใช้ชีวิตให้ Smart กว่าที่เคย ทำความรู้จักระบบ Smart Home กับเทคโนโลยีแห่งอนาคต
อยู่ไกลแค่ไหนก็หายห่วง ด้วยการควบคุมผ่านระบบ Home Automation
Smart Life : Smart Lighting เมื่อหลอดไฟไม่ได้ทำหน้าที่แค่ให้แสงสว่าง
Smart Furniture สร้างมุมมองใหม่ แทนการใช้เฟอร์นิเจอร์แบบเดิม