ทำความรู้จัก IOT นวัตกรรมล้ำสมัยที่ช่วยให้ชีวิตเราง่ายขึ้น
4 June 2562
ในปัจจุบัน ในโลกที่เต็มไปด้วยการทำงานที่ต้องแข่งขันกัน ทำให้เราต้องทำงานมากขึ้น เหนื่อยขึ้น มีเวลาให้กับตัวเองน้อยลง จัดการเวลาได้ยากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากตารางงานที่แน่น จึงมีผู้ที่ต้องการตอบโจทย์ถึงปัญหานี้ และพยายามคิดค้นเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมา เพื่อช่วยให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้น อำนวยความสะดวกให้เรา เสมือนเป็นผู้ช่วยอยู่ข้างๆ ตัว คอยช่วยงานเพื่อร่นระยะเวลาในการทำกิจกรรมต่างๆ ได้
สำหรับ IOT หลายๆ คน คงเคยได้ยินคำนี้ผ่านหูกันมาบ้าง ในปัจจุบันถือว่ามีบทบาทมากในชีวิตประจำวันของเรา Internet of things (IOT) คือ การที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ สามารถเชื่อมโยงหรือส่งข้อมูลถึงกันได้ด้วยอินเทอร์เน็ต ทำให้เราสามารถควบคุมการทำงานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ได้ ผ่านอินเทอร์เน็ต โดยที่ไม่ต้องเดินไปกดปุ่มคำสั่งถึงตัวเครื่องเลย ทำให้สะดวกสบายมากขึ้น และในปัจจุบันมีการผลิตอุปกรณ์เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ โดยใช้ระบบ IOT กันขึ้นมามากมาย
หลักการทำงานของ IOT
อย่างที่เกริ่นไปในข้างต้น IOT ทำงานผ่านอินเทอร์เน็ต ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นตัวกลาง เชื่อมต่อระหว่างเราและเครื่องใช้อิเล็กทรกนิกส์ ในส่วนนี้เราอาจจะใช้กระบวนการที่เรียกว่า Wireless Sensor Network (WSN) เป็นการตรวจจับ ค่าแสงหรืออุณหภูมิต่างๆ เพื่อประมวลผลกลายเป็นการทำงานในขั้นต่อไป ส่งผ่านค่าพวกนี้ผ่าน Dateway Sensor Nodes เพื่อเชื่อมต่อสู่อินเทอร์เน็ตให้กระจายคำสั่งได้ ไม่ว่าผู้ออกคำสั่งจะอยู่ที่ไหน ไม่มีข้อจำกัดเรื่องระยะห่าง ทำให้สะดวกมากยิ่งขึ้น
ข้อดีของการใช้ IOT
- สะดวกสบาย สามารถสั่งงานหรือตรวจเช็คสถานะการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
- มีความปลอดภัยมากขึ้น เพราะอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ผ่านการคิดคำนวณมาอย่างแม่นยำแล้ว เช่น เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ ปิดแอร์แบบอัตโนมัติ
- พักผ่อนได้เต็มอิ่มมากขึ้น เพราะสามารถเตรียมพร้อมอุปกรณ์ต่างๆ หรือสั่งได้โดยไม่ต้องเสียเวลา เช่นการเปิดเครื่องปรับอากาศก่อนถึงห้องคอนโด เพื่อให้อากาศเย็นต้อนรับการกลับมาของเรา
ข้อเสียของการใช้ IOT
- ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อกลางในการสั่งงาน ถ้าอินเทอร์เน็ตเสีย ก็อาจจะทำให้มีปัญหาได้
- เครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ระบบ IOT มีราคาค่อนข้างแพง
- ยังอยู่ในช่วงที่กำลังทดลองพัฒนาระบบอยู่ ระบบอาจจะยังไม่มีเสถียรภาพ อาจยังทำงานได้ไม่คล่องแคล่ว
Internet of things (IOT) เกี่ยวข้องกับคอนโดมิเนียมยังไง?
คอนโดซึ่งเป็นที่พักอาศัยของเรา มีเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ที่จำเป็น และแน่นอนว่าต้องมีเครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ อยู่ในคอนโด ไม่ว่าจะเป็นทีวี พัดลม แอร์ เครื่องซักผ้า เครื่องดูดฝุ่น กล้องวงจรปิด เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่นิยมนำ IOT มาปรับใช้ ในปี 2018 ที่ผ่านมา หลายแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปิดตัวสินค้าใหม่พร้อมกับระบบ IOT เรามาดูกันดีกว่าว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าพวกนี้ จะนำ IOT มาใช้อย่างไร เริ่มอุปกรณ์ AI ที่รับคำสั่งผ่านทางเสียงกันก่อนเลย
Homepod จาก Apple
Apple แบรนด์โทรศัพท์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชื่อดังกันก่อนเลย Apple มีสินค้าหลักคือ Smartphone และมักจะมีการผลิตอุปกรณ์อัจฉริยะที่ส่งเสริมการทำงานของโทรศัพท์ Homepod เป็นลำโพงขนาดกระทัดรัดที่สามารถใช้เพลงจาก Apple music ทางแบรนด์ตั้งใจให้สินค้าตัวนี้เป็น Smart Specker ที่คอยรองรับคำสั่งผ่านทางเสียง โดยผ่านทาง Siri ที่จะใช้ส่งผ่านคำสั่งไปยัง Homekit คอยควบคุมการทำงานของระบบไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น การเปิด-ปิดไฟ, ล็อกบ้าน หรือควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ
Amazon Alexa
มาดูกันที่า Amazon บริษัทเทรโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลกกันบ้าง Amazon เริ่มแนวคิด IOT จาก Alexa เจ้าสิ่งนี้คือ อุปกรณ์ซอฟต์แวร์ที่รับคำสั่งผ่านทางเสียงเช่นกัน Alexa มีการพัฒนาการเชื่อมต่อในหลายๆ ด้าน แต่ถ้าพูดถึงในแง่ของที่พักอาศัย ก็ต้องเป็น Alexo Smart home ซึ่งมี Partnership เป็น GE Appliances บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านมากมาย เช่น ตู้เย็น เตาอบหรือเครื่องชงกาแฟ เราสามารถเชื่อมต่อ Wifi และสั่งงานผ่าน Alexa ได้ เช่น สั่งให้ชงกาแฟหรือเปิดเพลง สะดวกสบาย ไม่ต้องเดินหรือออกแรงแต่อย่างใด
Google Home
AI จากอีกแบรนด์อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เจ้าใหญ่ รับคำสั่งผ่านทางเสียงเช่นกัน เราสามารถเชื่อมเข้ากับ Smart TV ได้ สั่งการว่าอยากให้ทำอะไร ฟังเพลงหรือเล่นหนังผ่าน Chromecast และจะสั่งอาหารกับร้านที่เป็น Partnership ของ Google ก็ได้ หรือจะใช้เป็นผู้ช่วยประจำตัว เป็นนาฬิกาปลุกหรือคอยรายงานข่าวสารหรือสภาพอากาศของวันนั้น ในส่วนของการควบคุมอุปกรณ์ภายในบ้านก็ทำได้เช่นกัน เช่น การเปิด-ปิดหลอดไฟ และในอนาคต คาดหวังทาง Google จะมีการพัฒนาความสามารถของ Google home ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
นอกจากนี้ เราลองไปดูเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะของแบรนด์อื่นๆ กันบ้างดีกว่า ช่วงหลังมานี้ มีหลายบริษัทที่พยายามจะบุกตลาด AI กันมากขึ้น มีการพัฒนาเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิดเลยทีเดียว
- โทรทัศน์ : เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดแรกๆ ที่เริ่มนำ IOT เข้ามาใช้ มีหลายบริษัทแบรนด์ดังที่ผลิตทีวีโดยนำ IOT เข้ามาประยุกต์ใช้ เรียกว่า Smart TV โดยเราจะสามารถควบคุมการทำงานของทีวีได้ โดยการสั่งงานผ่านแอพพลิเคชั่น สามารถเปลี่ยนช่องทีวีหรือปรับลดเสียงได้ และในบางรุ่นสามารถเล่นวิดีโอบนเว็บไซต์ Youtube และเล่นอินเทอร์เน็ตได้อีกด้วย สามารถใช้งานได้เสมือนเล่นบนมือถือจริงๆ
- เครื่องซักผ้า : กำลังอยู่อยู่ในช่วงที่พัฒนานำ IOT เข้ามาปรับใช้ แต่ก็มีสินค้ารุ่นใหม่ที่เริ่มออกมาวางจำหน่ายบ้างแล้ว อย่างแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้อดัง LG ก็ผลิตเครื่องซักผ้ารุ่น Twin wash ที่ใช้เทคโนโลยี SmartThinQ เป็นการสั่งการทำงานของเครื่องผ่าน Wifi เราสามารถควบคุมการทำงานได้ แม้ว่าเราจะอยู่นอกบ้าน สะดวกสบายมากๆ
- ตู้เย็น : เริ่มต้นในปีนี้ Samsung แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดังอีกเจ้าก็เปิดตัวตู้เย็นที่ใช้ระบบ IOT โดยเริ่มจากบนฝาประตูเปิด-ปิดของตู้เย็นจะมีจออัฉริยะที่สามารถมองลอดเห็นถึงภายในตู้เย็น เราสามารถดูจอนี้ผ่านแอพพลิเคชั่นในมือถือได้อีกด้วย หรือจะโหลดแอพพลิเคชั่น SmartThings เพื่อใช้สั่งงานอุปกรณ์อื่นๆ ในบ้าน เช่น ทีวี เครื่องซักผ้า หรือเวลาเบื่อๆ เราก็สามารถใช้เจ้าจอนี้ดูหนังฟังเพลงเช่นเดียวกับที่ทำบนมือถือเลย มีฟังก์ชันหลากหลายให้เลือกใช้กันเลย
อุปกรณ์ AI ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ล้วนแต่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้เราๆ มากยิ่งขึ้น ซึ่งถ้าดูจากความสามารถที่อุปกรณ์เหล่านี้ทำได้ก็นับว่าเป็นประโยชน์อย่างมากทีเดียว ช่วยผ่อนแรงเราได้มาก ประหยัดทั้งแรงและเวลา อยากจะดื่มกาแฟก็สั่งให้เครื่องชงเองได้หรืออยากจะซักผ้า แม้ว่าตัวจะนอกบ้าน ก็สั่งให้เครื่องทำงานได้ผ่านทางแอพ สะดวกสบายมากๆ แถมฟังก์ชั่นบางอย่างก็ช่วยให้เราทำงานง่ายขึ้นด้วยซ้ำ
ถึงแม้ในตอนนี้ จะยังมีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ระบบ IOT ไม่มากนักและราคาค่อนข้างสูง ถ้าเทียบกับเครื่องใช้ไฟฟ้าระบบปกติ แต่ในอนาคต แบรนด์ต่างๆ จะต้องมีการพัฒนาระบบให้หลากหลายน่าใช้และอำนวยความสะดวกให้เราได้มากขึ้น รวมทั้งราคาที่จะเป็นมิตรกับกระเป๋าเรามากขึ้นอย่างแน่นอน ในตอนนี้เราก็ควรที่จะศึกษาระบบ IOT เอาไว้ ระบบนี้จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตเรามากขึ้น ควรที่จะศึกษาระบบพวกนี้เอาไว้ก่อน จะเป็นประโยชน์กับเราในอนาคต จะได้ใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรดนิกส์ได้อย่างคล่องแคล่วและใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
บทความที่เกี่ยวข้อง
เคล็ดเลือกซื้อที่อยู่อาศัยให้ไม่ตกเทรนด์ ด้วย 4 นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมเหล่านี้
รวมนวัตกรรมคอนโด ล้ำสมัยกับเทคโนโลยีในวันนี้ของแสนสิริ รู้ยังเขามีอะไรบ้าง
อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยการปิดไฟ 1 ชั่วโมง ...ช่วยโลกได้อย่างไรบ้าง ?
เตาอบ VS เตาไมโครเวฟ ต่างกันยังไง แบบไหนเหมาะกับเรา?
รวมนวัตกรรมคอนโดที่ช่วยให้การเลี้ยงสัตว์เป็นเรื่องง่าย