เฟอร์นิเจอร์แต่งห้องรับแขกคอนโด ควรเลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน

จากบทความที่แล้วเกี่ยวกับประเภทของเฟอร์นิเจอร์ ก็พอจะทำให้คุณทราบถึงหลักในการะเลือกเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งคอนโดไปบ้างแล้ว ในบทความนี้เราจะมาขยายและเจาะลึกไปในแต่ละห้อง พร้อมคำแนะนำ ให้คุณเลือกเฟอร์นิเจอรืได้เหมาะสมกับการใช้งานสำหรับคอนโด โดยแยกกันไปในแต่ละห้อง ทั้งห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ ห้องครัว และห้องนอน

สำหรับคอนโด จะมีการขายอยู่ 2 แบบ นั่นคือ Fully furnish และ fully fitted แต่งครบและแต่งให้บางส่วน หากคุณเลือกซื้อแบบแต่งครบ คุณก็อาจจะต้องพิจารณาในเรื่องของเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งของทางโครงการด้วย แต่ถ้าคุณเลือกแบบแต่งให้บางส่วน คอนโดเหล่านี้จะบิ้วท์อินเฟอร์นิเจอร์มาให้บางส่วน ส่วนเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวต่างๆ คุณต้องไปหาซื้อมาใส่เอาเอง

ข้อแนะนำในการเลือกเฟอร์นิเจอร์แต่งห้องรับแขกคอนโด

ห้องรับแขกคอนโดในยุคนี้ขนาดไม่ใหญ่มาก การเลือกเฟอร์นิเจอร์ จึงควรเลือกที่ไม่ใหญ่ไป และได้ใช้จริงเท่านั้น ไม่เช่นนั่นห้องจะดูแคบเกินไป แขกไปใครมาก็อาจจะรู้สึกอึดอัดได้

หากรูปร่างหรือแปลนห้องรับแขกมีแปลนห้องแปลก ๆ ไม่สามารถวางเฟอร์นิเจอร์แบบทั่วไปได้อย่างลงตัว คุณอาจจะต้องสั่งทำเฟอร์นเจอร์แบบพิเศษขึ้นมา หรืออาจจะต้องทำเฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อินเพื่อจักการกับพื้นที่แปลก ๆ เหล่านั้น แต่อย่างไรก็ตามเรื่องของความโปร่งโล่งสบาย ควรจะมาเป็นอันดับแรก

1. โซนนั่งเล่น

ในโซนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นที่วางทีวี ทีวี และโซฟา และโต๊ะกลางเป็นหลัก อาจจะมีชั้นวางของบ้าง

ภาพห้องตัวอย่างจากโครงการ The Tempo Grand วุฒากาศ

1.1 โซฟา

ควรเลือกโซฟาโดยดูจากขนาดของห้องเป็นหลัก หากในห้องนี้ไม่ได้กว้างมากอาจจะเลือกโซฟาขนาดเล็กหน่อย แต่ถ้ากว้างพอใช้ได้ คุณก็อาจจะสามารถวางโซฟารูปตัว L ได้ ที่สำคัญต้องคำนึงถึงระยะห่างระหว่างชั้นวางทีวี และทางเดิน ไม่ควรให้ช่องทางเดินแคบเกินไป เพราะคุณอาจจะเตะชั้นวางทีวีจนเจ็บตัวได้

แต่ถ้าหากคุณอยากได้ความสบายแบบโซฟารูปตัว L ที่สามารถนอนเหยียดขาดูทีวีได้ แนะนำให้คุณลองมองหา โซฟาเบดแบบพับหรือเลื่อนออกได้มาใช้งาน เพราะคุณจะสามารถนอนเหยียดขาดูทีวีได้ไม่ต่างกัน และยังสามารถพับเก็บเพื่อเพิ่มพื้นที่ได้ นอกจากนี้หากเพื่อน ๆ มาเยี่ยมคุณก็สามารถใช้เป็นที่นอนได้ด้วยเช่นกัน

ภาพจากห้องตัวอย่างของโครงการ Supalai Loft ตลาดพลู (อ่านรีวิวเพิ่มเติม)

1.2 ชั้นวางทีวี

หากโซนนั่งเล่นดูทีวีของคุณไม่กว้างมาก แนะนำให้ใช้ชั้นวางทีวีที่เป็น Built-in แบบแขวนผนังจะดีกว่า เพราะประหยัดเนื้อที่ได้มากกว่าแบบลอยตัว ทำให้มีทางเดินเหลือมากกว่า และหากเป็นไปได้แนะนำให้คุณติดทีวีแบบแขวนติดผนังไปเลย จะทำให้ห้องของคุณดูกว้างมากขึ้น

อย่างไรก็ตามสิ่งที่คุณต้องคำนึงในโซนนี้คือชั้นวางของแบบติดผนัง ไม่ว่าจะด้านบนด้านข้าง คุณควรเว้นระยะสำหรับวางทีวีเอาไว้ให้เยอะหน่อย แม้ว่าในวันนี้คุณจะใช้ทีวีขนาดเล็กแต่ก็ไม่แน่ว่าวันข้างหน้าคุณอาจจะใช้ทีวีที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และถ้าพื้นที่ในการวางทีวีไม่พอเพราะติดพวกชั้นวางของ มันหมายถึงการรื้อถอนที่ค่อนข้างยุ่งยากเลย

 โต๊ะกลางของโครงการ Supalai loft ตลาดพลู มีการแยกส่วนของการวางของแห้ง และของเปียกเอาไว้ 

1.3 โต๊ะกลาง

โต๊ะกลางคือโต๊ะเล็ก ๆ สำหรับวางของหน้าโซฟา เช่นแก้วน้ำ หรือยังสือ บางครั้งก็วางด้านข้างโซฟาเพื่อไม่ให้เกะกะทางเดิน สำหรับห้องที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก คุณควรเลือกโต๊ะกลางที่มีความกว้างไม่มาก จะได้ขวางทางเดินเข้าออก

ในกรณีที่คุณเป็นคนที่ชอบทานอาหารหน้าทีวี ทั้งมือเล็กและมื้อใหญ่ หรือแม้กระทั้งทำงานบนโต๊ะกลางหน้าโซฟา คุณน่าจะลองมองหาโต๊ะกลางที่สามารถปรับระดับเป็นโต๊ะทำงานได้สักตัว เป็นเฟอร์นิเจอร์แบบมัลติฟังก์ชั่น ซึ่งหลายโครงการก็นิยมแถมใส่เอาไว้ให้ในห้องที่ขายแบบ fully furinish

2. โซนทานอาหาร

สำหรับห้องรับแขกส่วนใหญ่จะมีโซนสำหรับทานอาหารด้วย เว้นแต่ว่าในบางห้องไม่มีที่ว่างพอ โซนทานอาหารก็จะไปอยู่ในครัวแทน หากโซนทานอาหารของคุณอยู่ในห้องรับแขก แนะนำให้ใช้โต๊ะทานอาหารแบบลอยตัวจะดีกว่า เพราะสามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก

หากคุณทำโต๊ะทานอาหารแบบ Built in โดยที่มันไม่ใช่เฟอร์นิเจอร์แบบพับเก็บได้ การทำโต๊ะทานอาหารแบบบิ้วท์อินก็ถือว่าไม่เกิดประโยชน์ ซ้ำยังทำให้ที่นั่งทานอาหารลดลงอีก เพราะจะมีด้านหนึ่งที่ถูกยึดติดกับผนัง

http://tinyhouseinteriors.net/product/furinno-fnaj-11068-boyate-folding-multifunction-table-walnut

สำหรับเฟอร์นิเจอร์แบบมัลติฟังก์ชั่น โต๊ะทานอาหารที่มีการพับได้ คุณควรคำนึงถึงความแข็งแรงเป็นหลัก หากเป็นแบบที่มีบานพับ โดยเฉพาะการพับท็อปจากล่างขึ้นบน จะทำให้ตัวท็อปรับน้ำหนักได้ไม่ค่อยดี ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไร ควรเลือกท็อปที่เป็นลักษณะของการ slide จะดีกว่า 

http://www.arredamentisartori.it/wp-content/uploads/2013/05/Trendy_3.jpg

อีกตัวเลือกหนึ่ง หากคุณแน่ใจว่าไม่ได้ใช้โต๊ะอาหารแบบจริงจัง คุณอาจจเลือกที่จะไม่มีโต๊ะอาหารในห้องของคุณเลยก็ได้ แล้วเลือกโต๊ะกลางที่สามารถปรับความสูงได้ สำหรับนั่งทานอาหารด้วยโซฟาแทน 

นอกจากนี้ สำหรับห้องรับแขก หากคุณต้องการที่จะทำชั้นวางของ หรือตู้ใส่ของ Built - in ในห้องนี้ แนะนำว่าให้ใช้วัสดุที่เป็นกระจก หรือผิวเป็นกระจก หรือไม่ก็เป็นชั้นแบบโล่งไม่มีฝาปิด เพราะจะทำให้ห้องดูโปร่งโล่งกว่าแบบทึบ ทำให้แขกที่แวะเวียนเข้ามาไม่รู้สึกอึดอัด การทำปูผนังเป็นกระจกก็อาจจะช่วยได้ แต่คุณต้องมั่นใจด้วยว่ามุมนั้นคุณจะไม่เพิ่มชั้นวางของใด ๆ เข้าไป

บทความที่เกี่ยวข้อง   ประเภทของเฟอร์นิเจอร์มีอะไรบ้าง ควรเลือกอย่างไร