ออกแบบแปลนห้องครัวให้มีสไตล์ ด้วยการเลือกชุดครัว 4 แบบ
10 April 2563
ห้องครัวเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่มีความสำคัญที่สุดในบ้าน บวกกับปัจจุบันกับเทรนด์การออกแบบภายในที่พักอาศัยได้มีการออกแบบให้ “ห้องครัวกลายเป็นพื้นที่ครัว” โดยเป็นศูนย์กลางของตัวบ้านรวมไปกับห้องนั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหาร เพื่อลดการแบ่งแยกการใช้งานด้วยผนังฉากกั้น และให้ง่ายต่อการใช้งานยิ่งขึ้น
วันนี้ Esto เลยอยากจะพาไปทำความรู้จักกับการ ออกแบบแปลนห้องครัว ให้มีสไตล์ด้วยการเลือกชุดครัว 4 แบบ...ชุดครัวแบบไหนจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเพื่อน ๆ ตามพวกเราเข้ามาได้เลย
จัดแบบแปลนห้องครัวในพื้นที่จำกัดด้วย ชุดครัว I-Shape
มาเริ่มกันที่แบบแปลนแรกกับการเลือก ชุดครัว I-Shape โดยปกติแล้วแบบแปลนประเภทนี้ เหมาะสำหรับคอนโดมิเนียม หรือบ้านพักอาศัยขนาดเล็ก โดยรูปแบบของการจัดชุดครัวคือการวางชุดครัวให้ติดผนังด้านใดด้านหนึ่งของพื้นที่
สำหรับชุดครัวแบบ I-Shape สามารถซื้อแบบสำเร็จรูปที่ผลิตเป็นเซ็ท หรือเลือก Built-in ตามแบบที่เราต้องการได้ โดยเทคนิคการจัดสรรชุดครัวประเภทนี้ให้เหมาะกับแบบแปลน คือการให้ชุดครัวอยู่ชิดผนังเป็นเส้นตรง
ส่วนอุปกรณ์ เช่น เตา, อ่างล้างจาน และ ตู้เย็น เลือกจัดวางเป็นแบบแถวเดียวชิดผนังทั้งหมด โดยแบ่งแยกฟังก์ชันส่วนเตรียมอาหารออก เพื่อให้ง่ายต่อการเตรียมอาหารเสร็จเรียบร้อย ก็สามารถนำมาวางบนที่วางพักอาหารเพื่อรอเสิร์ฟได้เลย
เพิ่มฟังก์การใช้งานด้วย ชุดครัว L-Shape
ต่อกันที่ชุดครัว L-Shape ซึ่งเป็นชุดครัวที่ได้รับความนิยมในบ้านเรา เพราะด้วยสัดส่วนของพื้นที่บริเวณห้องครัวภายในบ้านพักอาศัย สามารถจัดวางชุดครัวประเภทนี้ได้อย่างพอดิบพอดี โดยเฉลี่ยแล้วควรมีขนาดห้องครัวประมาณ 2.50 x 3.00 เมตร เพื่อการจัดวางอุปกรณ์ทำครัวได้ง่าย
นอกจากนั้นแล้วชุดครัว L-Shape ยังสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้หลากหลาย และเหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหาร หรือแม่บ้านที่ต้องคอยทำอาหารให้กับลูกและสามี โดยส่วนมากแล้วจะติดตั้งชุดครัวประเภทนี้ในลักษณะ Built-in เพราะสามารถคำนวณการใช้งานได้ตรงกับขนาดของพื้นที่
สำหรับการจัดวางฟังก์ชันให้อยู่ในจุดสามมุม ได้แก่ เตา, อ่าง และตู้เย็น และเลือกจัดวางให้ชุดครัวเข้ามุมแนบกับผนังล้อไปกับระยะทางสัญจร และที่สำคัญควรลำดับความสำคัญ การใช้งานให้เหมาะสม
เอาใจคนรักทำอาหารด้วยการเลือก ชุดครัว U-Shape
การจัดแบบแปลนโดยเลือกชุดครัวแบบ U-Shape มีลักษณะคล้ายกับชุดครัวแบบ L-Shape แต่จะมีความต่างกันอยู่พอสมควร เรื่องแรกคือขนาดของพื้นที่ภายในห้องครัวเฉลี่ยอยู่ที่ มีขนาดประมาณ 3.00 x 3.00 เมตร
ตำแหน่งการจัดวางอุปกรณ์ทำครัว ให้วางแบบจุดสามมุม ได้แก่ เตา, อ่างล้างจาน และตู้เย็น โดยอาจติดพัดลมระบายอาการ หรือเปิดช่องแสงบริเวณผนังด้านที่ติดตั้งอ่างล้างจาน เพื่อให้เกิดการระบายกลิ่นอับ หรือจะเลือกติดเครื่องดูดฝุ่นก็จะช่วยลดปัญหาเรื่องกลิ่นและควันได้ดี
สำหรับชุดครัวประเภทนี้นิยม Built-in Furniture 2 แบบด้วยกัน
- แบบที่ 1 : คือการ Built-in และจัดวางชุดครัวเข้ามุมผนังทั้ง 3 ด้าน โดยเหลือพื้นที่ตรงกลางเอาไว้สำหรับทางสัญจร
- แบบที่ 2 : เน้นการ Built-in ชุดครัวเป็นรูปตัว L ติดผนัง 2 ด้าน และเพิ่มออฟชั่นเสริมเป็นเคาน์เตอร์ หรือมิติบาร์เข้าไป สำหรับเตรียมหรือนั่งรับประทานอาหาร
สร้างสรรค์พื้นที่ให้ใช้งานง่ายด้วย ชุดครัว Island
ความจริงแล้วการจัดแบบแปลนกับ ชุดครัวแบบ Island สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงคงหนีไม่พ้นขนาดของพื้นที่ ซึ่งการสร้าง Island หรือเคาน์เตอร์กลางแยกออกมาจากชุดครัว ต้องมีการคำนวณและเว้นระยะทางเดินเอาไว้ในลักษณะวงกลม เฉลี่ย 0.80-1.20 เมตร โดยประมาณ
ซึ่งการออกแบบ ชุดครัวแบบ Island เป็นการดีไซน์แบบไร้กรอบ เพื่อต้องการเชื่อมพื้นที่บริเวณ Common Area อย่าง ห้องนั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหาร ให้กลายเป็นพื้นที่เดียวกันที่สามารถใช้งานได้แบบ All in one Function หรือการใช้งานแบบเชื่อมต่อกันทั้งหมดนั่นเอง
ซึ่งการดีไซน์ชุดครัวจะเลือกจัดแบบแปลนโดยใช้ชุดครัว I-Shape, L-Shape หรือ U-Shape ก็ได้ โดยสิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาคือเคาน์เตอร์กลาง และพื้นที่สัญจร
หวังว่าไอเดียการ ออกแบบแปลนห้องครัวให้มีสไตล์ ด้วยการเลือกชุดครัว 4 แบบ จะช่วยให้เพื่อนๆที่กำลังลังเลใจในการเลือกชุดครัว ให้เหมาะกับขนาดพื้นที่ห้องครัวภายในบ้านของตัวเอง ได้มองเห็นภาพชัดขึ้นในการนำไปประยุกต์ใช้งาน