ผ่อนคลาย สบายอารมณ์ ด้วยการแต่งแสงไฟในห้องคอนโด
15 June 2560
เรามักใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับแสงไฟและเปลี่ยนอารมณ์ไปตามสีไฟโดยแทบไม่รู้ตัว เพราะเมื่อใดที่เราเปิดไฟก็มักคิดว่าให้เพียงความสว่างเท่านั้น
เชื่อหรือไม่ว่า “แสงไฟ” ที่หลายคนใช้แต่งคอนโดสามารถเป็นสื่อกลางของอารมณ์ต่างๆ ในมนุษย์ได้ แล้วเคยไหมที่เวลาเราเดินเข้าสู่ห้องพักในโรงแรมดังแล้วรู้สึกอยากจะเปิดผ้าม่านให้กว้างๆ แล้วนอนมองวิวแบบชิลล์ๆ บนเตียงไปตลอดทั้งวัน หรือเมื่อลงแช่ในอ่างจากุชชี่ที่บ้านพร้อมด้วยแสงไฟที่ทำให้บรรยากาศภายในห้องถูกปกคลุมไปด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย ถ้าเคยก็แสดงว่าคุณกำลังตกอยู่ในมนต์เสน่ห์ของแสงไฟ
แต่งคอนโดด้วยแสงไฟอย่างไรให้น่าอยู่
การแต่งคอนโดด้วยแสงไฟหลากสี ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ห้องดูอบอุ่น ผ่อนคลาย และให้อารมณ์ของความสบายได้มากยิ่งขึ้น เพราะถ้าเราใช้ไฟเดิมภายในห้องคอนโดที่อาจจะเป็นสีขาวสปอร์ตไลท์ที่ให้ความรู้สึกธรรมดา และทำให้ตื่นตัวมากเกินไป หรือใช้เป็นไฟส้มเพียงโทนเดียวก็อาจทำให้บรรยากาศภายในห้องดูร้อนเกินกว่าจะอบอุ่น ก็คงอยู่แบบไม่ค่อยมีความสุขแน่นอน ยิ่งถ้าเป็นคอนโดขนาดใหญ่ที่แบ่งโซนได้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องทำงาน และห้องรับแขก ก็ยิ่งต้องพึ่งพาการใช้แสงไฟเพื่อให้ห้องดูสวยกลมกลืนไปกับเหล่าาเฟอร์นิเจอร์ แต่งคอนโด หรือเน้นจุดที่ต้องการให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น และไม่ใช่เพียงห้องคอนโดขนาดใหญ่เท่านั้นจะจัดไฟได้ ห้องคอนโดขนาดเล็กก็สามารถจัดไฟได้เช่นกัน ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังสนใจการแต่งห้องคอนโดให้เด่นมากขึ้นด้วยการเพิ่มลูกเล่นไฟแต่งคอนโด มาดูทางนี้ได้เลยค่ะ
1. ลูกเล่นจากดีไซน์ของโคมไฟ
โคมไฟตกแต่งคอนโดมีอยู่ด้วยกันหลากหลายรูปแบบ ซึ่งแบบที่เราจะพูดถึงนี้คือแบบโคมไฟติดเพดาน เพียงติดตั้งก็ถือว่าเรียบร้อยได้ไฟดีไซน์สวยเก๋อย่างที่ตั้งใจไว้ โดยไม่จำเป็นต้องมีไฟหลุมหรือไฟฝังฝ้าเพิ่ม และเพื่อโชว์ความสวยของตัวโคมโดยเฉพาะ ซึ่งโคมไฟลักษณะนี้ที่พบเห็นมักจะอยู่ในห้องรับประทานอาหาร หรือห้องรับแขก ซึ่งสีที่ใช้ในโคมไฟก็ควรเป็นส้มและเหลือง เพื่อช่วยเน้นให้อาหารน่ารับประทาน หรือทำให้ห้องรับแขกมีบรรยากาศสบายๆ และผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น
2. ลูกเล่นจากไฟดาวน์ไลท์
ไฟดาวน์ไลท์หรือไฟเพดาน มีทั้งแบบเป็นหลุมฝังเข้าไปในฝ้าเพดาน, แบบเป็นราง และแบบติดลอยหรือมีก้าน ให้แสงนวลๆ ที่ส่องสว่างจากบนลงล่าง โดยการบังคับให้แสงเน้นอยู่เพียงจุดเดียวแต่ไปกระจายออกที่ส่วนปลายแสง สามารถที่จะนำไปติดตั้งไว้ในห้องรับแขก, ห้องนั่งเล่น, ห้องนอน และห้องน้ำ ไฟฝังฝ้าส่วนใหญ่จะให้แสงสีเหลืองอ่อนหรือสีขาวสว่าง และมีหลายบ้านที่ใช้ไฟทั้งเหลืองอ่อนและสีขาวผสมผสานกัน ด้วยการใช้ไฟดาวน์ไลท์ฝังฝ้าและไฟดาวน์ไลท์แบบมีก้านมาตัดแสงกันเองในระยะใกล้ๆ เพื่อเป็นการเพิ่มมิติให้กับผนังห้อง ซึ่งไฟชนิดนี้จะให้อารมณ์ที่หรูหราและทันสมัย จึงมักจะไปติดอยู่ในห้องคอนโดสไตล์โมเดิร์นเสียส่วนใหญ่
3.ลูกเล่นจากไฟอัพไลท์
ไฟอัพไลท์คือไฟที่ฝังอยู่ในพื้น ส่วนใหญ่มักใช้ในสวนของบ้านหลังใหญ่ เพื่อเน้นให้เห็นความสวยงามของต้นไม้หรือเน้นที่รูปปั้นและงานสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น แต่ก็สามารถนำเอามาตกแต่งคอนโดได้ โดยจะติดตั้งที่พื้นแล้วส่องแสงจากด้านล่างกระจายออกสู่ด้านบน และมักจะติดตั้งที่พื้นติดกับผนัง เพื่อให้แสงกระทบผนังแล้วกระจายออกไปอย่างสวยงาม ไฟอัพไลท์จึงถือว่าเป็นไฟเพื่อการตกแต่งตัวจริง
4.ลูกเล่นจากไฟหลืบหรือไฟซ่อน
ไฟหลืบหรือไฟซ่อนมักจะไปติดตั้งอยู่ตามจุดแอบต่างๆ ไม่ว่าจะหัวเตียง เฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อินคอนโดตามผนัง หรือใต้บันได เป็นต้น ไฟชนิดนี้เป็นอีกหนึ่งไฟตกแต่งที่จะทำให้ห้องคอนโดของคุณดูน่าสนใจเป็นพิเศษ และไฟชนิดนี้มักจะติดไว้เพื่อส่องเน้นจุดใด จุดหนึ่งของห้อง โดยใช้แสงไฟสีเหลืองอมส้มที่ช่วยให้บรรยากาศดูโดดเด่นมากกว่าเดิม ซึ่งไฟชนิดนี้นอกจากสวยแล้วยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในยามค่ำคืนได้อีกด้วย
5. โคมไฟตั้งโต๊ะ
ที่เลือกโคมไฟตั้งโต๊ะเพราะด้วยขนาดของคอนโด ของใช้หรือของตกแต่งอะไรที่มีขนาดกะทัดรัดได้หรือช่วยเรื่อง Save พื้นที่ก็ควรทำ โคมไฟตั้งโต๊ะเป็นอีกหนึ่งแสงสว่างส่องเฉพาะจุด แต่เป็นแสงแบบใกล้ๆ กระจายแสงแค่จุดเดียว ส่วนใหญ่มักจะนำไปใช้งานบนโต๊ะอ่านหนังสือ โต๊ะทำงาน หรือเป็นของตกแต่งที่สามารถใช้งานได้จริง
แสงไฟเปลี่ยนอารมณ์ได้อย่างไร
ถ้าเป็นนักออกแบบและช่างติดตั้งที่มีความชำนาญ เพียงใช้สายตามองก็จะรู้ทันทีว่าติดตั้งตรงไหน แล้วแสงไฟจะไปตกกระทบตรงใด เพื่อให้เกิดประโยชน์การใช้งานและตัวแสงไฟก็ควรเลือกให้เหมาะสมกับบรรยากาศของการแต่งคอนโดที่สำคัญควรเลือกติดตั้งระบบการหรี่ไฟไว้ด้วย เพื่อให้ภายในห้องได้รับบรรยากาศที่ต้องการและประหยัดค่าไฟได้มากขึ้นอีกด้วย ซึ่งการเลือกใช้แสงไฟเพื่อให้กลืมกลืนไปกับบรรยากาศห้องนอน ควรเลือกดังนี้
2. แสงไฟภายในห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขกควรเลือกใช้ไฟสีส้มตัดสีขาว โดยใช้เป็นเพียงดาวน์ไลท์หรือโคมไฟสวยๆ ที่เน้นเพียงบางจุดของห้องเท่านั้น แต่แสงไฟจะชัดเจนมากกว่าห้องนอนและเป็นการตัดกันของ 2 สี ที่ให้ทั้งความผ่อนคลายและกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวเมื่อยามนอนดูภาพยนต์เพลินๆ หรือทำกิจกรรมใดๆ ภายในห้องไปพร้อมกัน
3. แสงไฟห้องทำงาน ควรเป็นสีขาว ซึ่งเป็นสีธรรมชาติจะช่วยให้รู้สึกสบายตา และสามารถสิ่งต่างๆ ได้อย่างชัดเจน
4.แสงไฟภายในห้องน้ำและห้องครัวจะใช้เหมือนกัน คือแสงไฟที่ชัดเจน เลือกเป็นสีขาวนวลเพื่อไม่ให้ห้องดูกระด้างมากจนเกินไปแต่ก็ต้องส่องเห็นพื้นที่ได้อย่างชัดเจน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้งาน การใช้แสงไฟของทั้ง 2 ห้องนี้จึงจำเป็นที่จะต้องสว่างที่สุด
เรามักใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับแสงไฟและเปลี่ยนอารมณ์ไปตามสีไฟโดยแทบไม่รู้ตัว เพราะเมื่อใดที่เราเปิดไฟก็มักคิดว่าให้เพียงความสว่างเท่านั้น แต่เคยลองสังเกตกันไหมคะว่าเมื่อใดที่เรากลับถึงคอนโด เปิดไฟโซนห้องนั่งเล่น แล้วมองไปที่โซฟาก็มักจะรู้สึกอยากเอนตัวลงไปนั่ง จากนั้นก็ให้อารมณ์เคลิ้มๆ อย่างผ่อนคลาย จนรู้สึกอยากนอนเสียตรงนี้ให้ได้ แต่พอลุกเพื่อเข้าห้องน้ำอารมณ์ก็จะตัดไปที่ความสว่างที่โดดขึ้นมา จนทำให้ความผ่อนคลายกลายเป็นความตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้ง ถ้าคุณเคยรู้สึกแบบนี้แล้วล่ะก็ นั่นก็หมายความว่าคุณใช้ชีวิตท่ามกลางอิทธิพลของแสงไฟแล้วนั่นเอง