ดู Netflix เพลินๆ ด้วยการจัดวางตำแหน่งลำโพงในห้อง Home Theater
25 October 2563
Netflix เป็นอีกหนึ่งแอปพลิเคชั่นที่ใครหลายคนมีไว้ติดเครื่องไม่ว่าจะใน Smartphone หรือ Smart TV (อ่านบทความ Smart TV ราคาไม่เกิน 15,000.- คลิก) ซึ่งจะได้อรรถรสมากขึ้นเมื่อเราดู Netflix พร้อมกับลำโพง Home Theater ดีๆ ที่จัดวางอย่างถูกตำแหน่ง วันนี้ Estopolis จึงขออาสาพาทุกคนไปทำความรู้จักกับการจัดวางลำโพง Home Theater ในรูปแบบต่างๆ เพื่อเป็นไอเดียให้เพื่อนๆนำไปปรับใช้ให้เข้ากับห้องของตัวเอง
ระบบ 5.1 Surround Sound
มาเริ่มกันที่ระบบ 5.1 Surround Sound กันก่อน ซึ่งระบบนี้เองถือเป็นการจัดวางลำโพงแบบมาตรฐานและนิยมจัดในรูปแบบนี้มาที่สุดภายในห้อง Home Theater เนื่องจากใช้ลำโพงไม่เยอะ บวกกับสามารถเข้ากับขนาดพื้นที่ภายในห้องได้ในระดับมาตรฐาน
สามารถแบ่งการจัดวางได้ดังนี้
- ลำโพงกลาง (C+SW) ควรตั้งอยู่ตำแหน่งเดียวกับทีวี จะตั้งไว้ด้านล่างหรือด้านบนก็ได้
- ลำโพงคู่หน้า (FL-FR) ควรวางตำแหน่งขนาบกับทีวี เว้นระยะห่างประมาณ 10-15 ซม.
- ลำโพงคู่ Surround (SL) ควรวางตำแหน่งตั้งขนาบซ้ายขวาจากโซฟาที่นั่ง โดยปรับหันเข้าหาจุดกึ่งกลางของทีวีประมาณ 45 องศา
ระบบ 7.1 Surround Sound (Front Wide)
ในส่วนของระบบ 7.1 Surround sound (front wide) กันก่อน เป็นระบบที่ถูกพัฒนาช่องทางเดินเสียงเอฟเฟ็กซ์และเพิ่มบรรยากาศเสียงแบบ 3D ทำให้บรรยากาศของเสียงมีมิติขึ้นมาจากระบบ 5.1 Surround Sound
สามารถแบ่งการจัดวางได้ดังนี้
- ลำโพงกลาง (C+SW) ตำแหน่งเดียวกับทีวี จะตั้งไว้ด้านล่างหรือด้านบนก็ได้
- ลำโพงคู่หน้า (FL-FR) ตำแหน่งขนานกับทีวี เว้นระยะห่างประมาณ 10-15 ซม.
- ลำโพงคู่ Surround (SL) ตำแหน่งขนาบซ้ายขวาจากโซฟาที่นั่ง โดยปรับหันเข้าหาจุดกึ่งกลางของทีวีประมาณ 45 องศา
- ลำโพงคู่ Front Wide (FWL-FWL) จัดตำแหน่งไว้ทางด้านหน้าและเข้าหาโซฟา ให้อยู่ในตำแหน่งและปรับมุมองศาเดียวกับลำโพง ลำโพงคู่ Surround (SL)
ระบบ 7.1 Surround Sound (Back)
ระบบ 7.1 Surround Sound (Back) เป็นระบบเดียวกับ 7.1 Surround sound (front wide) แต่จะมีการจัดวางตำแหน่งของลำโพงที่เสริมเข้ามาจากเดิมที่ไว้ทางด้านหน้า ตำแหน่งของลำโพงจะถูกย้ายไปไว้ทางด้านหลังแทน
สามารถแบ่งการจัดวางได้ดังนี้
- ลำโพงกลาง (C+SW) ตำแหน่งเดียวกับทีวี จะตั้งไว้ด้านล่างหรือด้านบนก็ได้
- ลำโพงคู่หน้า (FL-FR) ตำแหน่งงขนานกับทีวี เว้นระยะห่างประมาณ 10-15 ซม.
- ลำโพงคู่ Surround (SL) ตำแหน่งขนาบซ้ายขวาจากโซฟาที่นั่ง โดยปรับหันเข้าหาจุดกึ่งกลางของทีวีประมาณ 45 องศา
- ลำโพงคู่ Front Back (SBL-SBR) ย้ายตำแหน่งลำโพงจากด้านหน้าที่หันเข้าหาโซฟา ย้ายไปอยู่ด้านหลังสุด และปรับองศาให้หันไปในทิศเดียวกับ ลำโพงคู่ Surround (SL)
ระบบ 9.1 Surround Sound
สำหรับ ระบบ 9.1 Surround Sound เป็นการรวมลำโพงทั้งหมดจากระบบที่กล่าวมาข้างต้นให้อยู่ในพื้นที่ โดยเพิ่มอีกหนึ่งลำโพงคู่หน้าติดกับผนังกำแพงเพื่อให้สามารถกระจายเสียงได้รอบทิศทางมากขึ้น โดยระบบนี้จะเหมาะกับห้อง Home Theater ขนาดใหญ่
สามารถแบ่งการจัดวางได้ดังนี้
- ลำโพงกลาง (C+SW) ตำแหน่งลำโพงเดียวกับทีวี จะตั้งไว้ด้านล่างหรือด้านบนก็ได้
- ลำโพงคู่หน้า (FL-FR) ตำแหน่งลำโพงขนานกับทีวี เว้นระยะห่างประมาณ 10-15 ซม.
- ลำโพงคู่ Surround (SL) ตำแหน่งลำโพงขนาบซ้ายขวาจากโซฟาที่นั่ง โดยปรับหันเข้าหาจุดกึ่งกลางของทีวีประมาณ 45 องศา
- ลำโพงคู่ Front Back (SBL-SBR) ตำแหน่งลำโพงจากด้านหน้าที่หันเข้าหาโซฟา ย้ายไปอยู่ด้านหลังสุด และปรับองศาให้หันไปในทิศเดียวกับ ลำโพงคู่ Surround (SL)
- ลำโพงคู่ Front Back (SBL-SBR) ตำแหน่งลำโพงจากด้านหน้าที่หันเข้าหาโซฟา ย้ายไปอยู่ด้านหลังสุด และปรับองศาให้หันไปในทิศเดียวกับ ลำโพงคู่ Surround (SL)
- ลำโพงคู่ Front Hight (FHL-FHR) เพิ่มตำแหน่งคู่ลำโพงติดกับผนังหลังทีวี โดยให้ตำแหน่งอยู่ตรงหรือเยื้องจาก ลำโพงคู่หน้า (FL-FR)
การจัดวางตำแหน่งลำโพงภายในห้อง Home Theater ควรเลือกระบบที่เหมาะกับขนาดห้องเป็นหลัก เพื่อเราจะได้หนังดูหนัง นอนดู Netflix เพลินๆได้อย่างมีความสุข แต่ต้องขอบอกอีกนิดว่าก่อนติดตั้งระบบเครื่องเสียงประเภทต่างๆเพื่อนๆอาจจะต้องอาศัยความชำนาญจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- 5 รายการทาง NETFLIX ดูเพลินๆ แถมทริคการแต่งห้องคอนโด
- เรียนลงทุนกันเพลินๆ ลองเข้า Netflix มาดูเรื่องนี้สิ
- แชร์ไอเดียแต่งห้อง Home Theater 5 แบบ 5 สไตล์
- เลือกให้ถูก! กับระบบที่ควรรู้ภายในห้อง Home Theater