ทริคการใช้แสงช่วยสร้างมิติใหม่ให้ห้องสวย

การจัดแสง ถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบหนึ่งที่ทำให้ ห้องของคุณนั้นสวยงาม เพราะเราต้องใช้เวลาอยู่ในนั้นทั้งกลางวันและกลางคืน การให้แสงสว่างแก่ห้องจึงนับเป็นเรื่องสำคัญ

การให้แสงสว่างในห้องนั้นมีทั้งแบบเป็นแสงส่องเพื่อให้ความสว่าง กับเป็นการส่องสว่างเพื่อศิลปะการตกแต่ง โดยห้องไหนจะจัดไฟให้แสงสว่างอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของห้องนั้นๆ

การจัดไฟแต่งห้อง แบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ แสงเพื่อการใช้งาน แสงเพื่อสร้างบรรยากาศ

และการจัดแสงตกแต่งภายในห้องก็มีเทคนิคหลายแบบ เพื่อให้เหมาะกับพื้นที่ห้องหรือหรือเพื่อประโยชน์ใช้สอยที่เจ้าของห้องต้องการ บทความนี้เลยมีเทคนิดหรือทริกง่ายๆมานำเสนอให้ได้ลองนำไปปรับใช้กัน

แสงเพื่อการใช้งาน คือ ติดเพื่อ การใช้งานทั่วไป ให้ความสว่างแบบกระจายทั่วพื้นที่ห้อง ส่องไปในบริเวณที่ต้องการ หรือจะเป็นแสงเพื่อการใช้งานเฉพาะจุดช่วยให้ทำกิจกรรมต่างๆได้สะดวก และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น อ่านหนังสือ ทำงาน ทานอาหาร เราควรเลือกหลอดไฟและโคมไฟที่เน้นการให้แสงเป็นลำส่องตรงเฉพาะจุดไม่กว้างมาก

อีกประโยชน์ของการจัดแสงตกแต่งห้อง คือ จัดแสงเพื่อสร้างบรรยากาศ เป็นการจัดแสงในห้องเพื่อศิลปะการตกแต่ง เพื่อสร้างบรรยากาศให้น่าสนใจ หรือกำหนดจุดที่ต้องการให้ความสนใจเป็นพิเศษ

จัดแสงไฟแบบฝังฝ้า

การจัดแสงแบบนี้ทำให้แสงไฟที่ดูมีเลเยอร์ ห้องดูดีมีสไตล์ขึ้นโดยไฟประเภทฝังลงในฝ้าเหมาะแก่การใช้สำหรับการนำสายตา เช่นใช้ในการเน้นให้ภาพศิลปะติดผนังดูโดดเด่น ส่องสว่างตามทางเดิน หรือ สำหรับห้องที่ต้องการแสงสว่างภายในที่ค่อนข้างขรึม ให้ความรู้สึกนิ่ง เป็นการจัดไฟเป็นจุดส่องลงจากเพดาน เน้นให้สว่างบางจุดและครึ้มบางจุดเพื่อ มีเงาตกกระทบตามวัตถุ ทำให้เกิดมิติใช้แสงไฟช่วยให้มีน้ำหนักแตกต่างกันในแต่ละระนาบของพื้นผิว 

ไฟแบบหลุมฝ้าเพดานเริ่มที่เป็นที่นิยมในบ้านเรือนทั่วไปกันมากขึ้น เพราะนอกจากความสวยงามแล้ว ยังช่วยเพิ่มความสว่างบริเวณส่วนกลางของห้องได้ดี ห้องดูกว้างขึ้นมีมิติน่าสนใจโดยที่คุณภาพแสงไม่ทำลายสุขภาพตา เพราะเป็นแสงที่เกิดจากการสะท้อนแสงจากหลอดไฟ ส่องกระทบไปบนพื้นที่ระนาบให้ต้องการมีการส่องสว่างจึงสามารถกระจายแสงได้อย่างสม่ำเสมอ

จัดแสงไฟส่องเฉพาะจุด

เทคนิคการใช้ไฟส่องเฉพาะจุด นิยมใช้หลอด LED ซ่อนไว้ในจุดดังกล่าว ซึ่งจะได้แสงสว่างแบบนวลตา และจะไม่ส่งผลกระทบกับส่วนข้าง ๆ อย่างเช่น จุดสำคัญต่าง ๆ ที่ใช้แสงสว่างเป็นครั้งคราว แทนที่จะเปิดไฟทั้งห้องให้เลือกเปิดเฉพาะจุด

หรือใช้จัดแสงสำหรับใต้ตู้ ชั้นวางของ แสงไฟใต้ตู้ ใช้สีนวลตาจะช่วยสร้างบรรยากาศความอบอุ่นให้มุมนั้นๆได้ ไฟประเภทนี้ใช้เพื่อสร้างอารมณ์ของห้อง มุมที่นิยม เช่น ใต้ชั้นลอยติดผนังในห้องรับแขก ใต้ตู้แขวนในครัว หรือเคาท์เตอร์ในครัว เพราะไฟสีนุ่มๆช่วยเพิ่มสีสันของอาหารให้ดูน่าทานได้อีกด้วย

ติดตั้งแสงหลังทีวี เพื่อถนอมสายตา

ทีวีมักจะอยู่ตามห้องต่างๆ และหลายคนขณะดูทีวีก็ชอบจะปิดไฟในห้อง เพื่อให้สายตาโฟกัสไปยังจอทีวีเพียงที่เดียว เพราะถ้าเปิดทั้งห้องก็จะรู้สึกว่าสว่างเกินไป ซึ่งแสงสว่างจากหน้าจอที่สว่างจ้าในขณะที่ภายในห้องมืด เป็นสาเหตุให้สายตาเสียอย่าง ดังนั้นการติดตั้ง Backlight ไว้หลังทีวี จะช่วยลดความเปรียบต่างระหว่างความมืดและสว่างได้ดี ช่วยให้การดูทีวีผ่อนคลายสบายตายิ่งขึ้น

การจัดแสงด้วยระบบเซนเซอร์ เปิด-ปิดอัตโนมัติ

เป็นเทคโนโลยีแสงไฟใหม่ติดตั้งบริเวณเพดาน หัวนอน หรือบริเวณที่ต้องการเพื่อความสะดวกในการใช้งานและยังช่วยประหยัดไฟ นอกจากนี้ยังสามารถติดที่ขอบล่างตามทางเดินหรือขอบล่างของเตียง เพื่อช่วยเพิ่มแสงสว่างตอนที่ต้องการจะใช้งาน อย่างเช่นเมื่อต้องลุกไปทำธุระตอนกลางคืน โดยไม่ต้องเปิดไฟให้สว่างทั้งห้อง เมื่อเดินผ่านหรือก้าวลงจากเตียงไฟจะเปิดทำงานให้อัตโนมัติ การจัดแสงด้วยระบบนี้เหมาะกับห้องนอนที่มีผู้สูงอายุ ช่วยลดปัญหาการประสบอุบัติเหตุ

อีกหนึ่งปัจจัยนอกจากเทคนิคและตำแหน่งในการจัดแสงไฟในห้อง โทนสีของแสงไฟก็ทีผลต่อบรรยากาศของห้อง อย่างแสง Warm white เป็นแสงสีนวล ไม่เหลืองจัด ไม่ส้มจัด เป็นแสงที่ให้ความสบายตาแต่จะไม่สว่างมาก Daylight เป็นแสงโทนเดียวกับความสว่างของช่วงกลางวัน ออกโทนฟ้า ทำให้มองเห็นชัดเจน เหมาะกับพื้นที่ทำงาน และ Cool white เป็นอยู่ระหว่าง warm white และ daylight ให้สีขาว แต่ไม่ขาวจัดที่ใช้ได้ทุกพื้นที่

สิ่งสำคัญในการจัดแสงภายในห้อง ไม่เพียงแค่ให้ความสวยงามเท่านั้น ไม่เพียงแต่ตำแหน่งในการติดตั้งเท่านั้น ยังต้องคำนึงถึงเกิดประโยชน์ใช้สอยด้วยของแสงเหล่านั้นด้วย ถึงตรงนี้บทความนี้น่าจะช่วยให้คุณเลือกการจัดแสงไปปรับใช้กับห้องของคุณได้ ..

บทความที่น่าสนใจ

เสริมพลังคนธาตุไฟ แต่งห้องอย่างไรให้ไฟสมดุล

รวมเรื่องของหลอดไฟ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยการปิดไฟ 1 ชั่วโมง ...ช่วยโลกได้อย่างไรบ้าง ?

5 ทริค เลือกโคมไฟให้เข้ากับพื้นที่ภายในคอนโดฯ