จ้าง Interior Designer ตกแต่งภายใน ก็ต้องรู้จักประเภทงานกันก่อน

16 June 2563

วันนี้ ESTOPOLIS อยากพาทุกคนไปรู้จัก "งานออกแบบตกแต่งภายใน" ที่ไม่ได้มีแค่ Built in เพื่อช่วย Guideline ไอเดียให้กับคนที่มีแพลนอยากแต่งห้อง แต่งบ้าน แต่งคอนโดใหม่ ซึ่งการตกแต่งภายในแต่ละประเภทก็จะมีรูปแบบ, การติดตั้ง หรือข้อจำกัดที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ประเภทของงาน ทั้งยังต้องดูลักษณะที่อยู่อาศัยที่ต้องการจะตกแต่งอีกด้วย

โดยทางออกที่ดีที่สุดของปัญหานี้ ก็คือ จ้าง Interior Designer ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้เราเบาใจ ว่าเราจะได้ที่พักอาศัยใกล้เคียงกับที่ตั้งใจไว้มากที่สุด หรือถ้าใครยังไม่กล้าติดต่อ Interior Designer โดยตรงก็สามารถหาตัวกลางในการช่วยประสานงานได้เเช่นกัน

จ้าง Interior Designer ตกแต่งภายใน : มีงานแบบไหนบ้าง

ความจริงแล้ว "หลักการออกแบบตกแต่งภายใน" แต่ละประเภทจะกระบวนการที่ทั้งคล้ายคลึง และแตกต่างกันออกไป ตลอดจนระยะเวลาในการติดตั้ง ซึ่งจะสามารถแบ่งออกได้ทั้งหมด 3 ประเภท...

Built-in Furniture (เฟอร์นิเจอร์ติดผนัง)
Fit-in Furniture (เฟอร์นิเจอร์เข้ากับพื้นที่)
Loose Furniture (ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว)

จ้าง Interior Designer ตกแต่งภายใน : Built-in Furniture

การตกแต่งภายใน Built-in Furniture หรือการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์แบบติดผนังนี้ จะมีลักษณะการติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นการสร้างโครงสร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมด พร้อมยึดโครงสร้างเหล่านั้นให้ติดกับผนังกำแพง ก่อนจะปิดทับด้วยวัสดุต่าง ๆ เพื่อประกอบกันให้กลายมาเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชันที่เหมาะสมต่อการใช้งาน โดยเราอาจอาศัย Interior Designer ในการช่วยออกแบบได้

ข้อดีของ "การตกแต่งภายในแบบ Built-in Furniture" นอกจากจะช่วยให้ Mood&Tone ดูสวยงามตามความต้องการของลูกค้าแล้ว ยังช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอยในพื้นที่จำกัดอย่างคอนโดมิเนียมได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยเติมเต็มประโยชน์ให้มุมเล็ก ๆ ในบ้านหลังใหญ่ได้ด้วย

ตัวอย่างการออกแบบตกแต่งภายใน Built-in Furniture

สำหรับการออกแบบตกแต่งภายใน Built-in Furniture สามารถเลือกตกแต่งต่อเติมได้ทุก ๆ พื้นที่ อาทิ บริเวณชั้นวางโทรทัศน์ในห้องนั่งเล่น ซึ่งเราอาจ Built-in ชั้นวางเข้ากับผนังกำแพง หรือจะเลือก Built-in ตู้เสื้อผ้าทำเป็น Walk-in Closet เพื่อให้เหมาะกับขนาดของพื้นที่ก็ได้เหมือนกัน

จุดเด่นอีกข้อของการตกแต่งภายใน Built-in Furniture คือเราสามารถซ่อนไฟไว้ในตู้หรือชั้นวางของที่สร้างขึ้นมาได้เลย นอกจากนี้ การบิลต์อินยังสามารถทำได้ทั้งในเรื่องของฝ้าเพดาน, ผนัง, พื้น รวมถึงระบบไฟฟ้าและประปา ซึ่งเราอาจจะต้องปรึกษา Interior Designer อีกทีหนึ่ง

โดยทั่วไปแล้ว วัสดุที่เลือกใช้ในการตกแต่งภายในสไตล์นี้จะมีหลายเกรด อย่าง โครงสร้างไม้จริง หรือโครงสร้างไม้อัดขนาด 5 mm. ขึ้นไป และในส่วนของวัสดุปิดผิวที่เป็นมาตรฐานก็จะมีทั้งวัสดุจำพวกลามิเนต, หินสังเคราะห์ และหินธรรมชาติ เป็นต้น

จ้าง Interior Designer ตกแต่งภายใน : Fit-in Furniture

การตกแต่งภายใน Fit-in Furniture จะแตกต่างจากแบบแรกพอสมควร โดยสิ่งที่คล้ายกันนั้นจะอยู่ที่ 'การประกอบเข้ากับผนังกำแพง โดยเราไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้' แต่เอกลักษณ์ของการตกแต่งภายในประเภทนี้ ก็คือ การประกอบเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะสมกับขนาดของพื้นที่ โดยจะต้องไม่มีการรื้อผนังกำแพงหรือฝ้าเพดานออก และเข้าไปยุ่งกับระบบไฟฟ้า-ประปาให้น้อยที่สุด ยิ่งถ้าได้ Interior Designer มาช่วย ก็จะยิ่งทำให้งานออกมาง่ายมากขึ้น

สำหรับวิธีผลิตและการติดตั้งของงานตกแต่งภายใน Fit-in Furniture ส่วนใหญ่จะเป็นการผลิตเฟอร์นิเจอร์จากโรงงาน โดยแยกชิ้นส่วนออก แล้วค่อยนำมาประกอบกันทีเดียวที่หน้างาน ดังนั้น ขั้นตอนการวัดขนาดพื้นที่จึงมีความสำคัญต้องคำนวณค่าต่าง ๆ ให้ออกมาอย่างแม่นยำที่สุด เพื่อป้องกันข้อผิดพลาด

ตัวอย่างการออกแบบตกแต่งภายใน Built-in Furniture

การออกแบบตกแต่งภายใน Fit-in Furniture ส่วนมากจะเหมาะกับพื้นที่ที่มีขนาดจำกัด อย่าง คอนโดมิเนียม หรือบ้านที่มีห้องขนาดจำกัด เพราะเราจะสามารถดีไซน์ จัดเซตเฟอร์นิเจอร์ให้เข้ากับแต่ละพื้นที่ได้อย่างพอดี เช่น "ห้องนั่งเล่น" ที่เราสามารถประกอบชั้นวางโทรทัศน์และชั้นเก็บของได้พอเหมาะ แค่คำนวณระยะพื้นที่ให้ถูกต้องเท่านัั้น

และอีกหนึ่งความต่างของการออกแบบตกแต่งภายใน Fit-in Furniture ก็คือ Set Collection ที่หลายสไตล์โดยอ้างอิงจากขนาดพื้นที่มาตรฐาน เช่น ภายในคอนโดจะมีขนาดของผนังบริเวณห้องนั่งเล่น 2.5*5 หรือ 2.7*8 เมตร ทาง Interior Designer ก็จะสามารถกำหนดรูปแบบของเฟอร์นิเจอร์แบบ Fit-in เพื่อสร้าง Set Collection ที่เหมาะสำหรับพื้นที่นั้น ๆ ได้ทันที

นอกจากนี้ หากเทียบราคาการออกแบบตกแต่งภายใน Fit-in Furniture กับ Built-in Furniture แล้ว ก็ถือว่าถูกกว่าครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว

จ้าง Interior Designer ตกแต่งภายใน : Loose Furniture

Loose Furniture จะเป็นการตกแต่งภายในด้วยลักษณะ Decorate โดยการเลือก Set Furniture ลอยตัวมาตกแต่งให้เข้ากับพื้นที่นั้น ๆ ซึ่งถ้ามองว่าง่ายก็ง่าย แต่ถ้ามองว่ายาก ก็ถือว่ายากพอสมควรเลยทีเดียว เพราะการตกแต่งภายในประเภทนี้จะต้องอาศัยประสบการณ์ของ Interior Designer ค่อนข้างมาก

โดยการตกแต่งภายในด้วย Loose Furniture ต้องผสมผสานระหว่าง 'ศาสตร์ของงานออกแบบ' เข้ากับ 'ศิลป์ของสุนทรียภาพของสไตล์การตกแต่ง' ซึ่งการเลือกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งให้เข้ากับสไตล์ที่ต้องการถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะถ้าเลือกผิดก็อาจทำให้บรรยากาศโดยรวมเปลี่ยนไปทั้งหมด

ตัวอย่างการออกแบบตกแต่งภายใน Loose Furniture

จะเห็นว่าการตกแต่งภายใน Loose Furniture ตามห้องตัวอย่างในคอนโดหรือโครงการบ้านนั้น จะมีองค์ประกอบการตกแต่ง 3 องค์ประกอบด้วยกัน...

เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว : การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์จะต้องมองถึงจุดเด่นของสไตล์ที่ต้องการจะสื่อสาร เช่น ถ้าหากเป็นสไตล์ Luxury ควรเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ประเภทหนังและวัสดุสแตนเลส แต่หากเป็นสไตล์ Muji ก็ควรที่จะใช้ไม้เป็นวัสดุหลักนั่นเอง
ของตกแต่ง : สำหรับของที่นำมาตกแต่ง อาจประกอบด้วยกรอบรูป, แจกันดอกไม้, หนังสือ และประติมากรรมขนาดเล็กที่สามารถวางบนโต๊ะได้ง่าย โดยพยายามเลือกวัสดุ-พื้นผิว-สี ให้เหมาะกับสไตล์การออกแบบด้วย
ชุดโคมไฟ : การเลือกชุดโคมไฟก็ถือเป็นตัวแปรสำคัญ ที่จะช่วยให้การตกแต่งภายในประเภทนี้สมบูรณ์แบบขึ้น เพราะหากเราเลือกโคมไฟไม่เข้ากับสไตล์การออกแบบ ทั้งเฟอร์นิเจอร์และพร็อพที่เลือกมาทั้งหมดก็จะไร้ความหมายทันที

ซึ่งจากที่ดู ๆ แล้ว การตกแต่งภายในเป็นงานที่ต้องอาศัยประสบการ์ณและความเชี่ยวชาญ ถ้าหากได้ Interior Designer ที่ดีมาช่วย ก็จะสามารถสานฝันบ้านในฝันของเราได้