จัดครัวให้เพอร์เฟคกับทอปเคาน์เตอร์ครัวที่ใช่คุณ

“ห้องครัว” เป็นหัวใจของบ้าน ที่แบ่งการใช้งานได้ชัดเจน คือ ใช้สำหรับเรื่องของอาหารการกิน การใช้งานในห้องครัวของแต่ละบ้านมีความแตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่เข้าใจกันได้เป็นอย่างดีคือ ห้องครัวเป็นจุดเริ่มต้นของมื้ออาหารในบ้าน เป็นบ่อเกิดแห่งพละกำลังของสมาชิกทุกคน นอกจากครัวจะเป็นพื้นที่สำหรับปรุงอาหารรับประทานแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงสุขอนามัยของบ้าน รวมถึงสไตล์ มุมมอง และวิถีชีวิตของผู้อยู่อาศัยอีกด้วย

องค์ประกอบที่สำคัญของครัว ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ทอปเคาน์เตอร์ครัว ส่วนบนสุดของเคาน์เตอร์ที่ต้องรับน้ำหนักเวลาประกอบอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการหั่น ตัด สับ หรือโขลก ต้องเผชิญกับความร้อน คราบน้ำมัน ตลอดจนคราบซอสต่าง ๆ ดังนั้น การเลือกทอปเคาน์เตอร์ครัวให้เหมาะสมกับการใช้งานจึงเป็นสิ่งสำคัญ

วันนี้ Esto จะพาทุกท่านไปรู้จักกับ การจัดครัวให้เพอร์เฟคกับทอปเคาน์เตอร์ครัวที่ใช่คุณ สำหรับคนที่กำลังมองหาทอปเคาน์เตอร์ครัวชนิดต่าง ๆ ว่าทอปเคาน์เตอร์ครัวแบบไหนจึงจะเหมาะสม มีวิธีการเลือกอย่างไร ลองไปดูข้อมูลกัน

ลักษณะการใช้งานของตนเอง

ก่อนอื่นเลยต้องสำรวจตัวเองก่อนว่าเวลาใช้งานภายในครัว เราใช้งานอย่างไร ? ถ้าเราชอบทำอาหารหรือมีการใช้งานในครัวหนัก ๆ อย่างการต้ม แกง ผัด ทอด ควรจะเลือกทอปเคาน์เตอร์ประเภทที่มีความทนทานสูง เช็ดล้างคราบออกได้สะดวก หากใครเป็นคนที่ค่อนข้างซุ่มซ่ามก็ควรจะเลือกทอปเคาน์เตอร์ประเภทที่ทนต่อรอยขีดข่วน หรือหากเป็นคนที่ไม่เน้นการทำอาหารภายในครัว แต่ต้องการความหรูหรา สื่อถึงสไตล์ของเจ้าของบ้าน ก็สามารถเลือกทอปเคาน์เตอร์ตามความสวยงามได้ เป็นต้น

ประเภทของทอปเคาน์เตอร์ครัว

ทอปเคาน์เตอร์ครัวมีหลายประเภท ทั้งที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ วัสดุเทียม และวัสดุธรรมชาติ เมื่อเราทราบลักษณะการใช้งานของเราแล้ว จะทำให้เราเลือกวัสดุที่ใช้ทำทอปเคาน์เตอร์ได้ง่ายขึ้น

วัสดุธรรมชาติ

ในส่วนของพื้นผิวที่เป็นวัสดุจากธรรมชาติมีข้อดีที่ความสวยงามและความแข็งแกร่ง ทนทาน แต่หากมองลึกลงไปถึงเรื่องของสุขอนามัยแล้ว วัสดุจากธรรมชาติอย่างไม้ หินสบู่ หินแกรนิต หรือหินอ่อน เป็นจุดเริ่มของการเกิดเชื้อราได้ง่ายเช่นกัน นี่เป็นเพียงแต่ลักษณะเบื้องต้นของวัสดุธรรมชาติเท่านั้น เรามาดูกันดีกว่าว่าแต่ละอย่างมีข้อดี-ข้อเสีย ต่างกันอย่างไรบ้าง

ไม้

ข้อดีของการใช้ไม้ทำทอปครัวที่สำคัญเลยก็คือเอกลักษณ์ของลายไม้ ที่มีความโดดเด่นเป็นของตัวเอง คุณสามารถนำลายไม้มาต่อกันเป็นรูปต่างๆ นอกจากนี้ไม้ยังน้ำหนักเบา ราคาถูก ให้ความรู้สึกอบอุ่นและวินเทจ แต่ข้อเสียคือ กลิ่นอาหารหรือคราบอาหารที่อาจฝังรากลึกยาวนาน และหากไม่ได้รับการเคลือบก็อาจเสี่ยงต่อการโดนปลวกกิน หรือคราบสกปรกฝังแน่นได้

หินแกรนิต

หินแกรนิตมีข้อดีตรงที่มีหลากหลายสี ทั้งดำ ขาว ชมพู เทา ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบทางเคมีและองค์ประกอบทางแร่ของหิน ทนกรด ทนด่าง ทนรอยขีดข่วน ราคาถูกกว่าหินสังเคราะห์แม้จะเป็นวัสดุจากธรรมชาติก็ตาม แต่ข้อเสียอยู่ตรงที่สีเหล่านี้ หากไม่ได้รับการดูแลหรือเคลือบ สีของหินสามารถเปลี่ยนไปตามกาลเวลาได้

หินสบู่

เป็นหินที่ไม่มีรูพรุนเหมือนหินธรรมชาติอื่น ๆ ด้วยเหตุนี้จึงไม่เกิดรอยเปื้อนง่าย สามารถทำความสะอาดด้วยน้ำสบู่อ่อนๆ ได้ แต่มีข้อจำกัดตรงที่หินชนิดนี้มีความทนทานต่อความร้อนได้ไม่ดี ควรหลีกเลี่ยงการวางหม้อและกระทะขนาดใหญ่โดยตรงบนพื้นผิว และสีที่มีให้เลือกยังไม่มากเท่าหินแกรนิต

วัสดุเทียม (Solid Surface)

วัสดุทดแทนหินที่ผลิตจากส่วนผสมอื่น ๆ ซึ่งไม่ใช่หินธรรมชาติ เช่น อะคริลิค โพลีเอสเตอร์ เป็นต้น โดยมีส่วนผสมของแร่เพื่อเพิ่มความแข็งแรง สามารถป้องกันรังสียูวีและมีอายุการใช้งานยาวนาน หินเทียมมีผิวเรียบเนียนเป็นเนื้อเดียวกันทั้งแผ่น มีการเชื่อมรอยต่อด้วยความร้อนและมีการเคลือบเงา จึงมักไม่เห็นรอยต่อของพื้นผิวและไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นในเรื่องความสวยงาม ความแข็งแรงคงทนใกล้เคียงกับพื้นผิววัสดุที่ผลิตขึ้นจากธรรมชาติ ทั้งยังทนทานต่อสารเคมี กรด ด่าง และ ทนความร้อนได้ดี ขึ้นอยู่กับประเภทของวัสดุ

หินสังเคราะห์ที่ผลิตขึ้นจาก อะครีลิค 100%

มีข้อดีคือไม่มีรูพรุน สามารถป้องกันรังสียูวีและมีอายุการใช้งานยาวนาน ตลอดจนสีของพื้นผิวไม่เปลี่ยนแปลงเพราะไม่ทำปฏิกิริยากับแสงยูวี ทนความร้อน กรดและด่าง นอกจากนี้ยังสามารถดัดโค้งได้ง่ายทำให้ตอบโจทย์ในเรื่องของการตกแต่งและดีไซน์ที่สวยงามได้เป็นอย่างดี

อะคริลิกผสมโพลีเอสเตอร์ หินสังเคราะห์ประเภทนี้จะมีคุณสมบัติเด่นในเรื่องความแข็งแรงคงทนทาน ไม่ดูดซึมน้ำ และสามารถทนความร้อนได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตามหินสังเคราะห์ประเภทนี้จะดัดโค้งค่อนข้างยาก ทำให้ตอบสนองต่องานออกแบบที่มีลักษณะโค้งได้ไม่ครอบคลุม

วัสดุสังเคราะห์ (Engineered Stone)

เป็นวัสดุทดแทนหินที่มีส่วนผสมของหินธรรมชาติชนิดต่าง ๆ ปนอยู่ ไม่ว่าจะเป็น หินแกรนิต หินอ่อน หรือหินควอตซ์ โดยมีเรซิ่นเป็นตัวประสาน ส่วนใหญ่มีแร่หินควอตซ์ แก้ว โพลิเมอร์ เรซิ่นและสี เป็นส่วนประกอบ ทำให้มีความคงทนและแข็งแรงกว่าหินธรรมชาติ ไม่เป็นที่สะสมของสิ่งสกปรก สามารถทนรอยขูดขีดได้ดี อย่างไรก็ตาม หินสังเคราะห์ มีลวดลายให้เลือกไม่หลากหลายเท่าหินเทียม และหากจำเป็นต้องนำมาใช้ต่อกัน (เช่น กรุบนพื้นที่ขนาดใหญ่มาก) จะเห็นรอยต่อค่อนข้างชัดเจน

หินควอตซ์

จัดเป็นหินสังเคราะห์ที่พัฒนาวัสดุหิน เพื่อทดแทนหินธรรมชาติที่มีจุดอ่อน เช่น รูพรุน การดูดซึมน้ำ และความไม่สม่ำเสมอของสี ข้อดีคืออัตราการซึมน้ำน้อยและกันรอยขีดข่วนได้ดี มีสี และคุณภาพที่สูงกว่าหินแกรนิต และหินอ่อนธรรมชาติ ทนการขีดข่วนมากกว่า ทนความร้อน ทนไฟ ทนกรดด่าง สารเคมี รูปทรงได้ขนาดราบเรียบดีกว่า ซึมน้ำน้อยกว่ามาก แต่ข้อเสียคือไม่ควรโดนความร้อนมาก เนื่องจากมีส่วนผสมของเรซิ่น ซึ่งหากโดนอาจเจอปัญหาหินโก่งได้

หินโปรงแสง (Alabaster)

นับเป็นหินสังเคราะห์ประเภทหนึ่ง จุดเด่นคือแสงสามารถผ่านได้ มีลวดลายสวยงาม สามารถตบแต่งลวดลายหลากหลาย สามารถตอบโจทย์ในเรื่องของการตกแต่งและดีไซน์ที่สวยงามได้เป็นอย่างดี แต่หินโปรงแสงมีรูพรุนทำให้ไม่เหมาะกับงานด้านอุตสาหกรรมอาหาร แต่เหมาะกับงานตกแต่งเพื่อความสวยงามเป็นหลัก

ลามิเนต (Laminate)

เป็นวัสดุปิดผิวที่ผลิตจากไม้สำเร็จรูปที่ผลิตขึ้นมาโดยวิธีทางวิทยาศาสตร์ แต่ยังคงใช้วัสดุพื้นฐานเป็นไม้และใช้ เรซิ่นกับไฟเบอร์เป็นส่วนประกอบ ซึ่งลามิเนตจะสามารถดัดโค้งเข้ารูปทรงได้ง่าย แต่ไม่ควรนำไปใช้กับงานที่มีการขัดถู เนื่องจากพื้นผิวสามารถเป็นรอยขีดข่วนได้

ความปลอดภัยในการใช้งาน

ทอปเคาน์เตอร์ครัวที่ดี ขอบมุมควรลบเหลี่ยมให้กลมมน เพื่อลดอันตรายจากการใช้งานหรืออุบัติเหตุ พื้นผิวสัมผัสของวัสดุควรจะเรียบ รอยต่อน้อย เวลาน้ำหยดลงจะไหลลงไป ณ จุดที่ต่ำสุด และไม่ควรจะมีไม่มีน้ำขังหรือทิ้งคราบน้ำ คราบสิ่งสปกรกเอาไว้ เพื่อความสะดวกในการทำความสะอาด

นอกเหนือจากที่กล่าวมาแล้ว ยังมีเรื่องของการออกแบบให้เหมาะสมกับพื้นที่ งบประมาณ และความชอบของผู้เป็นเจ้าของที่ผู้อ่านควรจะพิจารณาประกอบกันด้วย เพื่อให้ได้ห้องครัวที่ตรงตามความต้องการมากที่สุด

บทความที่น่าสนใจ

จับชุด เข้าคู่ แต่งห้องสไตล์โมเดิร์น

9 สไตล์ให้เลือกสรร ตกแต่งห้องได้ในแบบของคุณ

แม่บ้านไอที ! รวม Channel ทำความสะอาดห้อง ทำตามง่าย ดูได้เพลิน