Central Embassy เปลี่ยนกลยุทธ์ ปรับโฉมใหม่ เข้าถึงง่ายมากยิ่งขึ้น
22 May 2560
ถือเป็นการปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่สำหรับศูนย์การค้า Central Embassy ห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองระดับ Luxury ที่เปิดตัวมาแล้วกว่า 3 ปี และในปีนี้กำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 จึงได้ทำการเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาด โดยการดึงเอาสินค้าและร้านค้าแบรนด์เนมระดับกลางที่สามารถจับต้องได้ เพื่อเพิ่มกลุ่มเป้าหมายใหม่ ถือเป็นการกระตุ้นยอดการขายให้เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังทำการ ปรับโฉมใหม่ ด้วยการเพิ่มพื้นที่โซนกิจกรรม รวมถึงการจัดอีเวนท์ต่างๆ เพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
อย่างที่ทราบกันดีว่า รูปลักษณ์ของ Central Embassy มีไว้สำหรับขาช็อประดับ Upper Class ตามคอนเซปต์และจุดยืนของห้างที่กำหนดกรอบไว้ว่า ร้านค้าที่มาเช่าพื้นที่ของ Central Embassy ต้องเป็นร้านค้าระดับโลกที่มีแห่งเดียวในกรุงเทพฯ และมีความแตกต่างจากศูนย์การค้าอื่นๆ ทำให้กลุ่มลูกค้ามีค่อนข้างจำกัด เพราะแบรนด์ใหม่นั้นไม่เป็นที่รู้จักและถึงแม้กลุ่มศูนย์การค้าในเครือเซ็นทรัลอย่าง ศูนย์การค้า Central World , ห้างสรรพสินค้า Central chidlom และศูนย์การค้า Central Embassy จะพยายามรวมตัวกันเป็น Central Bangkok เพื่อสร้างศูนย์การค้าขนาดใหญ่ให้เกิดขึ้นในย่านราชประสงค์-เพลินจิต แต่กระแสตอบรับก็ยังไม่ดีเท่าที่ควร
การเปลี่ยนกลยุทธ์ และการปรับโฉมใหม่ของ Central Embassy
เพื่อตอบโจทย์ความต้องการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทาง Central Embassy จะเปิดให้ร้านค้าแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาจับจองพื้นที่เพิ่มขึ้น และจะเน้นไปที่แบรนด์ที่ผู้บริโภคสามารถจับต้องได้ง่าย โดยในชั้น G และชั้น 1 ยังเน้นไปที่สินค้าแบรนด์เนมระดับโลก ส่วนในชั้น 2 และ 3 จะเป็นร้านค้าในกลุ่มเป้าหมายใหม่ ซึ่งในตอนนี้ก็เริ่มมีร้านค้าใหม่ๆ เข้ามาเปิดให้บริการบ้างแล้ว ได้แก่ Top shop และ Muji เป็นต้น
นอกจากการนำเสนอแบรนด์แฟนชั่น แบรนด์อาหาร และไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์มากขึ้นแล้ว ทาง Central Embassy ยังเน้นการโปรโมทด้วยการจัดกิจกรรมอีเวนท์ต่างๆ ซึ่งในช่วงนี้ที่เห็นเป็นกระแสฮ็อตๆ อยู่ก็คือ นิทรรศการ The Beach อินเทอแอคทีฟอินสตอลเลชั่นของ Snarkitecture Studio หรืองาน Celebration brings me here! อีเวนท์เฉลิมฉลองความเสร็จสมบูรณ์อย่างเต็มรูปแบบของ Central Embassy
Central Embassy เปิดโซนใหม่เอาใจลูกค้า
เรียกว่าทุ่มเม็ดเงินกันสุดตัวเลยทีเดียวกับการ ปรับผังโซนต่างๆ ใหม่ เพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับตัวห้าง และตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้นด้วย
Central Embassy โซน Eathai
สำหรับโซน Eathai ทาง Central Embassy ทุ่มงบไปกว่า 185 ล้านบาท เพื่อขยายพื้นที่ร้านอาหารในชั้น LG จาก 2,500 ตร.ม. เป็น 3,550 ตร.ม. โดยภายใน Eathai จะประกอบไปด้วยโซนอาหารทั้งหหมด 13 โซนด้วยกัน เช่น Eathai Café, โซนมุมอร่อย, โซนซูเปอร์มาร์เก็ต เป็นต้น ร้านอาหารทั้งหมดจะครอบคลุมอาหารไทยทั้ง 4 ภาค ซึ่งรับรองว่า มาที่เดียวก็เต็มอิ่มไปกับอาหารจากทั่วประเทศแล้ว
Central Embassy โซน SIWILAI City Club
Social Club สำหรับคนชอบ Hang out บนชั้น 5 ณ ศูนย์การค้า Central Embassy ถือเป็นจุดพบปะ สังสรรค์แห่งใหม่ บนพื้นที่กว่า 1,000 ตร.ม. ภายใต้บรรยากาศผสมผสานระหว่างเอกลักษณ์แบบไทยๆ กับความทันสมัยจากตะวันตก โดย SIWILAI City Club นี้จะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 7 โซนด้วยกัน เช่น Eatery , Deli , Terrace , The Grill เป็นต้น ซึ่งแต่ละโซนสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ต้องการพื้นที่พักผ่อนแบบชิลๆ ใจกลางกรุงเทพฯCentral Embassy โซน OPEN HOUSE
สำหรับชั้น 6 บนพื้นที่กว่า 7,000 ตร.ม. ทาง Central Embassy ได้เปลี่ยนแปลงให้กลายเป็น 'OPEN HOUSE' Co-living space ซึ่งเปรียบเสมือนบ้านหลังใหญ่ที่ทุกคนสามารถใช้เวลาร่วมกันได้ทั้งวัน ภายใน OPEN HOUSE จะประกอบไปด้วยร้านอาหาร ร้านหนังสือ โซนสนามเด็กเล่น โซนแสดงศิลปะ และโซน co-thinking space สำหรับคนทำงาน
Central Embassy โซน โรงแรม Park Hyatt Bangkok
Central Embassy ได้เปิดตัวโรงแรมอย่าง Park Hyatt Bangkok โรงแรมระดับ 5 ดาวที่จะช่วยทำให้การพักผ่อนของคุณเหนือระดับขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการให้บริการชั้นเยี่ยมที่คัดสรรมาอย่างดี และการออกแบบระดับโลกจาก Yabu Pushelberg ในด้านที่ตั้ง โรงแรม Park Hyatt Bangkok จะตั้งอยู่เหนือศูนย์การค้า Central Embassy สูง 37 ชั้นมีจำนวนห้องพักทั้งหมด 222 ห้อง พร้อมกับแบ่งห้องพักออกเป็น premier suites อีก 30 ห้องด้วย
https://www.facebook.com/siwilaicityclub/
https://www.facebook.com/ParkHyattBangkok/
บทความที่เกี่ยวข้อง
รีวิว 'OPEN HOUSE' Co-living space แห่งใหม่ ชิม ชอป ชิล ได้ในที่เดียว
The Beach at Central Embassy เปิดประสบการณ์ความสนุกแบบใหม่บนชายหาดจำลอง
Art&Design Brings Me Here ร่วมเวิร์กช็อปกับศูนย์การค้า CENTRAL EMBASSY