5 วิธีแต่งห้องนอนคอนโดสำหรับคนที่มีปัญหานอนไม่หลับ
28 March 2560
รวม 5 วิธีง่าย ๆ เปลี่ยนคนนอนไม่หลับให้หลับสบายนานกว่าที่เคย ด้วยทริคการแต่งห้องนอนคอนโดที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้
ใครหลายคนคงเคยเผชิญกับอาการนอนไม่หลับมาก่อน ซึ่งเชื่อหรือไม่ว่าการแต่งห้องนอนจัดคอนโดนั้นก็สามารถทำให้ผู้อยู่อาศัยนอนหลับสบายได้มากขึ้น
สภาพแวดล้อมเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อการนอน เนื่องจากทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเราจะส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึกจนบางทีทำให้รู้สึกวิตกกังวลหรือที่ใครหลายคนเรียกว่าอาการเครียด และอาการเครียดนี่เองที่เป็นตัวขัดขวางการนอนหลับของเรา ซึ่งก็แน่นอนว่าสภาพแวดล้อมที่มีผลต่อการนอนมากที่สุดก็คงไม่พ้นห้องนอนของเรานั่นเอง วันนี้เว็บไซต์ Estopolis จึงได้นำ 5 ทริคสุดเจ๋งในการแต่งห้องนอนเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยหลับสบายขึ้นมาฝาก
โดย 5 วิธีการแต่งห้องนอนนี้ ทางเราจะเน้นไปที่การแต่งห้องเพื่อลดความเครียด ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น โดยจะอ้างอิงผลงานหรือผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะมีวิธีการใดบ้าง เลื่อนลงไปอ่านกันเลย
1. แต่งห้องนอนคอนโดด้วยสีที่เหมาะสม
มีงานวิจัยหลายชิ้นบ่งชี้ว่าสีสามารถกระตุ้นอารมณ์ต่าง ๆ ให้กับคนที่มองเห็นได้ และแน่นอนการเลือกสีที่ใช้แต่งห้องนอนคอนโดก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ทำให้เรานอนหลับสบายขึ้น ผลสำรวจจาก Travelodge ได้เปิดเผยว่า
สีที่ช่วยให้หลับสบายที่สุดคือสีฟ้า การแต่งห้องนอนคอนโดด้วยสีนี้จะทำให้ผู้อยู่อาศัยนอนหลับได้นานถึง 7 ชั่วโมง 52 นาที เนื่องจากสีฟ้าให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายเหมือนดั่งมหาสมุทรหรือท้องนภา และยังช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจและความดันในเส้นเลือดอีกด้วย ซึ่งคนที่ทาสีฟ้าแต่งห้องนอนนั้นพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าจะมีอารมณ์ดีตอนตื่นนอน
สีอันดับ 2 ที่ทำให้เรานอนหลับสบายคือสีเหลือง สีนี้มีผลในการกระตุ้นระบบประสาท สร้างความผ่อนคลายและให้ความสุข ส่วนสีเขียวตามมาเป็นอันดับ 3 ซึ่งมีผลสำรวจออกมาว่า 22 เปอร์เซ็นต์ของคนที่แต่งห้องนอนคอนโดด้วยสีนี้จะรู้สึกร่าเริงตอนลืมตาตื่นมา
2. ใช้หลอดไฟที่เหมาะสมในการแต่งห้องนอนคอนโด
National Sleep Foundation ได้ให้ข้อมูลว่าแสงสว่างมีผลต่อการดำเนินชีวิต การรับแสงสามารถกระตุ้นระบบประสาทตั้งแต่ดวงตาไปถึงสมองที่คอยควบคุมฮอร์โมน อุณหภูมิร่างกาย หรือส่วนอื่น ๆ ที่มีผลต่อการตื่นตัวและความรู้สึกง่วงนอน เพราะฉะนั้นการเลือกหลอดไฟที่เหมาะสมมาแต่งห้องนอนคอนโดเพื่อให้ผู้อาศัยหลับสบายจึงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้
โดยหลอดไฟที่เหมาะกับการเปิดในห้องนอนมากที่สุดคือไฟสีแดง ซึ่งนักจิตวิทยาด้านการนอนหลับ Michael Breus ได้กล่าวไว้ว่า “หลักการก็คือไฟสีแดงจะช่วยในการผลิตเมลาโทนิน” และเจ้าฮอร์โมนเมลาโทนินนี่เองที่คนส่วนใหญ่ใช้ทานเป็นยานอนหลับ แต่อย่างไรก็ตามการแต่งห้องนอนด้วยแสงไฟสีแดงคงจะพิลึกไม่ใช่น้อย นอกจากนี้ยังไม่ค่อยมีใครนิยมทำกันถึงแม้มันจะช่วยผลิตเมลาโทนินมากเพียงใดก็ตาม เพราะฉะนั้นทางเราจึงขอแนะนำให้คุณใช้แสงไฟสีอ่อน ๆ หรือติดตั้งสวิตซ์หรี่แสงแทนเนื่องจากสุดท้ายแล้วคุณก็ต้องปิดไฟนอนอยู่ดี แต่ให้คุณจำไว้ว่าอย่าแต่งห้องนอนคอนโดด้วยไฟที่จ้าจนเกินไปเพราะนอกจากจะทำให้หลับยากแล้วยังมีงานวิจัยบอกมาอีกว่าการใช้แสงสว่างที่มากไปตอนกลางคืนจะส่งผลให้เป็นโรคซึมเศร้า
3. อยากนอนหลับสบาย อย่าแต่งห้องนอนด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้า
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าแสงไฟที่จ้าจนเกินไปจะส่งผลร้ายต่อการนอนหลับ เนื่องจากแสงสว่างจะทำให้ร่างกายรู้สึกว่าเป็นเวลาที่ต้องตื่น ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเราอยากนอนหลับให้สบายแล้วล่ะก็ ควรหลีกเลี่ยงการแต่งห้องนอนด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เป็นแหล่งกำเนิดแสงสว่างให้มากที่สุดโดยเฉพาะทีวีและคอมพิวเตอร์ มีผลงานวิจัยออกมาว่าการนอนพร้อมกับแสงไฟสลัวเช่นหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรทัศน์นั้นจะส่งผลต่อระดับเมลาโทนินที่ทำหน้าที่ควบคุมการนอนหลับของร่างกาย และเมื่อเมลาโทนินถูกรบกวนจะทำให้เกิดความเครียด ซึ่งนำไปสู่โรคซึมเศร้าในอนาคตได้
นอกจากนี้ทางด้านหนูดี-วนิษา ยังให้อีกหนึ่งเหตุผลที่เวลาแต่งห้องนอนควรหลีกเลี่ยงเครื่องใช้ไฟฟ้าให้มากที่สุดเอาไว้ว่าสมองเรามีประจุไฟฟ้าอยู่ซึ่งอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีกระแสไฟฟ้า เช่น โทรศัพท์ ไมโครเวฟ อาจส่งกระแสไฟฟ้ามารบกวนสมองเราได้ และแน่นอนว่ามันไม่ใช่ผลดีต่อการนอนเลย
4. แต่งห้องนอนด้วยฟูกที่เหมาะสมกับตนเอง
ที่มา: http://scrubbi.com/wp-content/uploads/2014/12/mattress.jpg
Michael Decker รองศาสตราจารย์จาก Georgia State University และโฆษกของ American Academy of Sleep Medicine ได้กล่าวไว้ว่า “ฟูกสามารถส่งผลต่อการนอนหลับในแต่ละบุคคลได้” เพราะมันจะไปมีผลกับการเดินของเส้นเลือดฝอยที่ไหลเวียนอยู่ใต้ผิวหนังของเรา ซึ่งมันจะส่งสัญญาณไปยังสมองและอาจขัดขวางการนอนหลับได้ แต่อย่างไรก็ตามการเลือกฟูกแต่งห้องนอนของแต่ละคนก็มีความเหมาะสมที่ต่างกันออกไป
“การเลือกฟูกเป็นเรื่องส่วนบุคคลมาก ๆ” Michael Decker กล่าว บางคนเหมาะกับฟูกนุ่ม ส่วนบางคนก็เหมาะกับฟูกแข็ง ซึ่งข่าวร้ายก็คือยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่มากพอบ่งชี้ว่าฟูกประเภทใดประเภทหนึ่งจะทำให้หลับสบายมากกว่าฟูกอีกประเภท แต่ทางเว็บไซต์ Sleepfoundation.org ก็ได้แนะนำวิธีการเลือกฟูกแต่งห้องนอนเอาไว้ว่า “มันอาจจะขัดแย้งกับความเชื่อส่วนใหญ่นะ แต่การนอนบนฟูกที่แข็งมาก ๆ อาจไม่ได้ทำให้คุณหลับสบายก็ได้ เพราะงั้นเวลาเลือกฟูกที่นอนคุณควรเลือกโดยใช้ร่างกายตัวเองเป็นที่ตั้ง” โดยวิธีการนี้ก็สามารถนำไปใช้กับการเลือกหมอนได้
อย่างไรก็ตามเมื่อเราเลือกฟูกแต่งห้องนอนเรียบร้อยแล้ว เราควรพลิกฟูกกลับหัวท้ายทุก ๆ เดือน (บางเว็บไซต์บอกทุก 3 เดือน) เพื่อไม่ให้ด้านใดด้านหนึ่งยุบตัวถาวร และยังเป็นวิธีการรักษาความคงตัวของที่นอนอีกด้วย
5. แต่งห้องนอนด้วยกลิ่นหอมที่ผ่อนคลาย
การแต่งห้องนอนด้วยกลิ่นหอมต่าง ๆ สามารถทำให้ร่างกายเราผ่อนคลายลง และการผ่อนคลายนี่เองที่ส่งผลให้หลับสบายมากขึ้น ซึ่งทางเว็บไซต์ sleep.org ก็ได้แนะนำกลิ่นหอมแต่งห้องนอน 5 กลิ่นดังนี้
5.1 กลิ่นลาเวนเดอร์
พืชชนิดนี้ถูกใช้ในการลดความเครียดมาเป็นเวลานาน นอกจากนี้การแต่งห้องนอนด้วยกลิ่นลาเวนเดอร์จะช่วยชะลอระบบประสาท ซึ่งส่งผลให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายและหลับสบายมากขึ้น
5.2 กลิ่นวานิลลา
มีงานวิจัยออกมาว่าคนที่ได้กลิ่นวานิลลาตอนทดสอบความเครียดนั้น จะมีอัตราการเต้นหัวใจที่เสถียรมากขึ้นและมีความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ดี มากกว่าผู้ทดสอบซึ่งอยู่ในห้องที่ไม่มีกลิ่น
5.3 กลิ่นวาเลอเรี่ยน
นอกจากกลิ่นวาเลอเรี่ยนจะช่วยลดความวิตกกังวลแล้ว กลิ่นนี้ยังทำให้นอนหลับสบายได้มากขึ้นอีกด้วย ผลงานวิจัยชี้ว่าหนูทดลองที่ดมพืชสมุนไพรชนิดนี้จะหลับเร็วกว่าและนานกว่าหนูที่ได้ไม่ได้กลิ่นวาเลอเรี่ยน แต่อย่างไรก็ตามกลิ่นวาเลอเรี่ยนก็ไม่ได้เป็นกลิ่นที่สดชื่นอะไรมากมาย ซึ่งหากคุณไม่ชอบกลิ่นวาเลอเรี่ยนแล้วล่ะก็ กลิ่นดอกกุหลาบสามารถทดแทนกันได้ถึงแม้จะไม่ได้ผลลัพธ์ที่มากเท่ากับกลิ่นวาเลอเรี่ยนก็ตาม
5.4 กลิ่นมะลิ
คนที่ได้กลิ่นดอกมะลิขณะนอนจะหลับลึกและพลิกตัวไปมาน้อยกว่าปกติ ซึ่งมีรายงานมาว่ากลิ่นมะลิมีประสิทธิภาพช่วยให้นอนหลับมากกว่ากลิ่นลาเวนเดอร์เสียอีก
5.5 กลิ่นใดก็ได้ที่ชื่นชอบ
ระบบจมูกนั้นเชื่อมโยงไปยังศูนย์อารมณ์ในสมองโดยตรง ซึ่งถ้าหากจมูกได้กลิ่นที่ทำให้ชวนย้อนไปยังความรู้สึกดี ๆ ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต หรือทำให้รู้สึกตื่นเต้น ร่างกายจะปล่อยสารเคมีที่ส่งผลต่อความสุขและการผ่อนคลายออกมา และนั่นก็จะทำให้คุณหลับสบายมากขึ้น
ทั้งนี้การจัดคอนโดแต่งห้องนอนเป็นเพียงหนึ่งในวิธีทั้งหมดที่จะทำให้ผู้อยู่อาศัยหลับสบายมากขึ้น แต่วิธีการรักษาโรคนอนไม่หลับนั้นต้องดูปัจจัยอื่น ๆ ประกอบด้วย เช่น นิสัยการรับประทาน และ การออกกำลังกาย แต่อย่างไรก็ตามเราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณจะหลับสบายและรู้สึกผ่อนคลายในห้องนอนมากขึ้นหากนำวิธีการที่เรานำเสนอตามข้างบนนี้ไปประยุกต์ใช้