สร้างช่วงเวลาพิเศษด้วย 2 โครงการทำเลคุณภาพจาก MARU ไลฟ์สไตล์ชีวิตดี ๆ ที่คุณต้องมาสัมผัสเอง
22 November 2562
ความสุขของคุณคืออะไร ?
คำถามที่ดูจะเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่ก็มีอีกหลายคนที่ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่เจอสักที ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะการทำงาน สภาพแวดล้อม หรือเรื่องราวมากมายในชีวิตประจำวันที่ค่อนข้างวุ่นวาย เร่งรีบ และเหมือนกับว่าสิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นภาพลักษณ์ของการใช้ชีวิตในตัวเมืองไปเสียแล้ว จนบางคนต้องยอมเลือกระหว่าง “ความสะดวกสบายในเมือง" กับ “ความสุขสงบเมื่อได้พักผ่อน”
ถึงเวลาเติมเต็มความสุขให้กระจายอยู่รอบตัว
ทั่วทุกตารางเมตร
ในเมื่อตอนนี้เลือกไม่ได้ก็ยังไม่ต้องเลือก เพราะเอสโตโพลิสกำลังจะพาไปแนะนำ ทำควาามรู้จักกับ 2 โครงการทำเลคุณภาพจาก เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ที่เปิดตัวอยู่ใจกลางทำเลศักยภาพที่ใครหลายคนกำลังให้ความสนใจอย่าง “เอกมัย 2 และลาดพร้าว 15”
พร้อมโปรโมชัน "เมเจอร์ใจดีพาเหินฟ้า เที่ยวคิวชู” ในทริปเที่ยวญี่ปุ่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ชวนกันมาร่วมเปิดประสบการณ์อาหารญี่ปุ่นระดับ Michelin star 2 ดาว ชมดอกซากุระ ณ เกาะคิวชู 5 วัน 3 คืน ฟรี!
MARU Ekkamai 2 ตอบโจทย์ความสงบด้วยพื้นที่พักผ่อนระดับ Luxury
ขอเปิดตัวด้วย MARU Ekkamai 2 โครงการระดับ High End ที่ตั้งอยู่บนถนนเอกมัย สะดวกสบายในการเดินทาง เพราะใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีเอกมัยเพียง 4 นาที หรือประมาณ 450 เมตรเท่านั้นภายในโครงการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางให้มีความสงบ ร่มรื่น พร้อมสร้างบรรยากาศผ่อนคลายให้แตกต่างออกไป ด้วยการยกพื้นที่ส่วนกลางที่ปกติจะอยู่ด้านใน ออกมาไว้ด้านนอกแบบ Outdoor ด้วย Wellness Yard และ Teahouse Pavilion ในสวนด้านหน้าที่มีการแยกสัดส่วนเฉพาะลูกบ้านของโครงการ และยังจัดเตรียม Bark and Bike Wash ไว้เป็นสัดส่วน
ภายในต้อนรับบรรยากาศสุดอบอุ่นกันตั้งแต่หน้า Lobby ที่ตกแต่งด้วยวัสดุพื้นผิว ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ ยิ่งบวกกับแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านกระจกบานสูง ยิ่งให้ความละมุนตา ไม่ไกลกันจะเป็นส่วนของ Sunken Living พื้นที่พักผ่อนที่ออกแบบเป็นโถงสูง ล้อมรอบด้วยวิวสีเขียวแบบเปิดกว้าง ที่ช่วยให้เรารู้สึกสบายตา สบายใจมากขึ้น
ถัดมาเป็น Co-Living Space ที่ให้เราเข้ามาหามุมปลดปล่อยความคิด พร้อมสัมผัสและใกล้ชิดกับธรรมชาติได้ตลอดเวลา เหมาะจะยกหนังสือเล่มโปรด หรือโน๊ตบุ๊กมานั่งเล่นชิลล์ ๆ
ส่วนใครที่ต้องการมุมเงียบสงบ ก็ต้องขึ้นมายัง Quiet Room พื้นที่ส่วนตัวเพื่อคุณโดยเฉพาะ ภายในห้องจะเน้นบรรยากาศที่สงบ พร้อมมีโต๊ะเก้าอี้ให้เรานั่งทำงานได้สะดวก หรือใครอยากนั่งทำงานชิลล์ ๆ ก็มี Free Space ให้นั่งพักผ่อน โดยแต่ละมุมจะกั้นฉากแยก เพื่อให้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น นับว่าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี
หรือจะชวนกันมาปลดปล่อยความเครียดไปกับ Karaoke Room อีกหนึ่งสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทางโครงการ MARU Ekkmai 2 จัดมาให้ผู้พักอาศัยได้ผ่อนคลายกัน วิวที่ได้รับก็ยังสวยงาม มองเห็นวิวเมืองมุมสูงแบบไม่มีอะไรขวางกั้นด้วย
บางครั้งการออกกำลังกาย เรียกเหงื่อก็ช่วยคลายเครียดได้เหมือนกัน ซึ่งห้อง Fitnees ของโครงการ MARU Ekkamai 2 จะตั้งอยู่บนชั้น 32 ทำให้ตลอดการออกกำลังกายนั้นเพลิดเพลินยิ่งขึ้น
หรือใครอยากผ่อนคลายเบา ๆ ก็ลองขึ้นมาที่ Swimming Pool ที่แบ่งโซนสระน้ำอุ่นอุณหภูมิ 38 องศาให้เราได้แช่น้ำอุ่นพร้อมชมวิวเมืองไปพร้อมกัน
นอกจากนี้ยังมี Co-Kitchen ที่จะมาเปลี่ยนมื้ออาหารธรรมดา ๆ ให้กลายเป็นชั่วโมงพิเศษที่ให้ทุกคนได้ใช้เวลาร่วมกัน ท่ามกลางความอบอุ่น พร้อมด้วยชุดครัว และโต๊ะนั่งหลากหลายมุม ถ้าใครชอบแบบไหนก็สามารถเลือกได้ตามใจ หรือใครจะขึ้นมาจัดปาร์ตี้ก็ดูสนุกไปอีกแบบ
ปิดท้ายด้วย Terrarium พื้นที่อเนกประสงค์บนชั้นดาดฟ้า ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ภายในวางชุดโต๊ะเก้าอี้พร้อมใช้งาน และยังเปิดมุมมองให้เราสัมผัสธรรมชาติได้มากขึ้น ด้วยผนังกระจกใสรอบด้าน หากนั่งจนเบื่อแล้ว ก็ลองออกมาเดินรับลมเย็น ๆ ด้านนอกได้
คราวนี้เข้ามาดูใน ‘ห้องพักอาศัย’ กันบ้างว่าจะน่าอยู่ขนาดไหน
เริ่มจากห้องขนาด 29 ตารางเมตร ที่ออกแบบตกแต่งให้อบอุ่นด้วยโทนสีสบายตา เน้นความเป็นธรรมชาติ จึงให้ความรู้สึกผ่อนคลายเหมาะแก่การพักผ่อน
แบ่งพื้นที่การใช้งานออกเป็นสัดส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ช่วยให้ห้องของเราดูกว้าง และเป็นระเบียบไปในตัว
ส่วนใครที่ชอบเข้าครัว ทำอาหารเป็นประจำก็สบายใจได้ เพราะทางโครงการมีที่กั้นครัวปิดมาให้เรียบร้อย พร้อมด้วยอุปกรณ์ชุดครัวครบครัน เพื่อให้เราสรรค์สร้างเมนูต่าง ๆ ได้เองตามต้องการ
ถัดมาเป็นห้องขนาด 40 ตารางเมตร Duplex ที่เปิดกว้างด้วย Double space สูงกว่า 5.5 เมตร จึงรู้สึกได้ถึงความกว้างขวาง และปลอดโปร่งตั้งแต่เข้าห้องมา
อีกทั้งยังติดตั้งหน้าต่างกระจกบานใหญ่ ช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติและวิวมุมสูงได้อย่างเต็มที่ ชั้นใต้บันไดเป็น Built-in ที่ทางโครงการได้ออกแบบมาให้ใช้ฟังก์ชั่นได้เกิดประโยชน์มากที่สุด สามารถเก็บเสื้อผ้าและของส่วนตัวได้
พื้นที่ชั้นสองเหมาะจะจัดเป็นพื้นที่พักผ่อนอย่าง ‘ห้องนอน’ เพราะได้ทั้งความสงบ และเป็นส่วนตัว แถมยังสามารถเดินออกไปดูวิวพระอาทิตย์ขึ้น หรือท้องฟ้ายามค่ำคืนได้
สำหรับแบบห้องของโครงการ MARU Ekkamai 2 จะตกแต่งแบบ Fully Fitted มีให้เลือกตั้งแต่ห้อง Studio, 1 Bedroom, 1 Bedroom Duplex, 2 Bedrooms ไปจนถึง 2 Bedrooms Duplex ในราคาเริ่มต้น 5.55 ลบ.* สำหรับ 1 ห้องนอน และ 10.9 ลบ.* สำหรับ 2 ห้องนอน
เอกมัย สีสันของคนรุ่นใหม่
ภายใต้บรรยากาศสุดอบอุ่น
สำหรับไลฟ์สไตล์รอบ ๆ โครงการ MARU Ekkamai 2 ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน เพราะตั้งอยู่ระหว่างซอยเอกมัย 2 และ 4 ติดถนนเอกมัย จึงตอบโจทย์การเดินทางที่สะดวกสบาย ทั้งอยู่ใกล้ถนนใหญ่เส้นสุขุมวิท พร้อมมีซอยให้ลัดเลาะออกไปทองหล่อได้ง่ายดาย และยังห่างจากสถานี BTS เอกมัยในระยะเดินถึง ประมาณ 450 เมตร
หากเข้ามาในย่านเอกมัย เราจะเจอกับสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้าเกต์เวย์ เอกมัย, เมเจอร์ เอกมัย ไปจนถึงร้านค้า ร้านอาหารชื่อดังอีกมากมาย ที่เปิดให้เราเข้าไปพักผ่อนกัน
หรือถ้าใครอยากเดินดูของหลากหลายสไตล์ บริเวณด้านในซอยเอกมัยก็จะมี Don Don Donki เปิดให้บริการอยู่ด้วย นอกจากนี้ยังมี Big C เอกมัย, Health Land, เวิ้งโบราณ, Arena 10, J Avenue และ The Commons รวมอยู่ด้วย รับรองว่า ถูกใจนักชิม นักชอปทุกคนแน่นอน
- รับส่วนลดสูงสุด 1 ล้านบาท* สำหรับ 8 ยูนิตแรกที่จอง และทำสัญญาเท่านั้น (1 ยูนิตได้รับ 2 สิทธิ์) ตั้งแต่วันนี้ - 25 ธ.ค. 2562 หรือจนกว่าจะครบสิทธิ์
- หากใครสนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1266
- ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลโครงการ http://bit.ly/2JOSXI6
MARU Ladprao 15 ตอบโจทย์ความเป็นส่วนตัว ด้วยพื้นที่ใกล้ชิดธรรมชาติ
คราวนี้ขอขยับมาทางฝั่งลาดพร้าวกันบ้าง อีกหนึ่งทำเลที่โดดเด่นไม่แพ้ใคร เพราะครบครันไปด้วยความสะดวกสบาย, การเดินทาง และแหล่งไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์คนได้ทุกเพศ ทุกวัย
ขณะเดียวกัน ลาดพร้าวก็ยังเหมาะแก่การอยู่อาศัย ด้วยบรรยากาศที่เรียบง่าย ไม่วุ่นวายจนเกินไป และยังคงรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนรุ่นใหม่ เช่นเดียวกับโครงการ MARU Ladprao 15 ที่ออกแบบทุก ๆ ตารางเมตรภายใต้แนวคิด Less Depress, More Refresh ใส่ใจในทุกรายละเอียด
ก้าวเข้ามาในพื้นที่ส่วนกลางที่ทางโครงการได้จัดสรร และออกแบบพื้นที่มาให้ทุกคนสามารถใช้เวลาอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
เริ่มจาก Co-Working Forest ให้ได้เปลี่ยนบรรยากาศการนั่งทำงานภายในสวนด้านหน้าโครงการได้กั้นโซนไว้ให้เฉพาะลูกบ้าน รวมไปถึง VERDURE FOREST สวนด้านหลังที่เตรียมโซนยืดเหยียดร่างกายให้ได้ผ่อนคลาย อีกทั้งยังมี BARK & BIKE WASH ให้ได้ใช้เวลาดูแลจักรยานคันโปรด หรือสัตว์เลี้ยงแสนรัก
เมื่อเข้ามาด้านใน Co-Living Space จะเป็นเหมือน community สำหรับการแลกเปลี่ยน และจุดประกายไอเดียใหม่ ๆ พอมองออกไปจะเห็นสวนด้านนอก เป็นจุดพักผ่อนสายตาแบบ Double volume และเมื่อขยับขึ้นไปบริเวณชั้นบนจะเป็นโซนของ CO-WORKING SPACE เชื่อมต่อถึงกันด้วยบันไดวน สวยงาม
หรือใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศ ในโครงการ MARU Ladprao 15 ก็ยังมีสวนพักผ่อน WISDOM FOREST ที่ชั้น 7 และ POCKET TERRACE ไว้คอยรองรับไลฟ์สไตล์พักผ่อนอยู่ตามชั้น 10, 15 และ 20 หากเหนื่อยเมื่อไร… ก็ออกมานั่งรับลมได้ตลอดเวลา
พลาดไม่ได้กับพื้นที่ส่วนกลางบนชั้น 24 ที่เปิดกว้างรับวิวสวย ๆ ได้เกือบทุกทิศทาง และพร้อมให้เราเลือกใช้ความสุขได้เองตามไลฟ์สไตล์ที่ชอบ ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย เช่น Fitness Room หรือ Yoga Room สำหรับคนรักสุขภาพ เป็นต้น
ผ่อนคลายท่ามกลางสายน้ำไปกับ Swimming Pool สระว่ายน้ำขนาด Half-Olympic ที่มีโซนน้ำอุ่นอุณหภูมิ 38 องศาเซลเซียสอยู่ข้าง ๆ เพื่อให้เราลงไปปรับอุณหภูมิร่างกายกันก่อน นอกจากนี้ยังมี Kid’s Pool แยกไว้ให้ด้วย
ถัดมาเป็น Co-Creation Space มุมสำหรับการสร้างสรรค์ ภายในตกแต่งเรียบง่าย แต่ใช้งานได้เต็มที่ทุกสัดส่วน มีโต๊ะเก้าอี้คอยรองรับ พร้อมวิวสระว่ายน้ำแบบเปิดโล่ง มองออกไปจะเห็นโซนที่นั่ง Outdoor เหมาะจะขึ้นมานั่งรับลม ดูพระอาทิตย์ตกในช่วงเย็น
ยังไม่หมดเท่านี้ เพราะบนชั้น Roof Top ของโครงการ MARU Ladprao 15 ก็ยังมี Facilities อีกเพียบที่ดีไซน์เอาใจคนรุ่นใหม่ ให้ออกมาใช้พื้นที่ร่วมกันอย่างไม่รู้เบื่อ ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ
ไม่ว่าจะเป็น Music Box, Relex Garden, BBQ Sunken Terrace, Outdoor Pool Table, Outdoor Theatre หรือ Star Gazing Deck นั่นเอง
จบจากพื้นที่ส่วนกลางก็เปลี่ยนมาดู ‘พื้นที่ส่วนตัว’ กันต่อ
เริ่มด้วยห้องขนาด 30 ตารางเมตร ที่กั้นห้องไว้อย่างเป็นสัดส่วน มองแล้วรู้สึกโปร่งโล่ง สบายตาด้วยระยะฝ้าเพดานที่สูงถึง 2.7 เมตร
แต่ละมุมถูกจัดให้เชื่อมต่อถึงกัน เราจึงสามารถออกแบบการใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ในทุก ๆ ช่วงเวลา
ถัดมาเป็นห้อง 2 Bedrooms ขนาดใหญ่ 60 ตารางเมตร เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว หรือใครต้องการอยู่อาศัยคนเดียว ก็นับว่ามีพื้นที่ให้สนุก สามารถออกแบบตกแต่งได้มากขึ้น
เมื่อเข้ามาในห้อง เราก็จะได้เจอการเชื่อมต่อพื้นที่ที่ลื่นไหลมาตั้งแต่หน้าประตู มีห้องครัว, มุมรับประทานอาหาร และ Living Zone อยู่ด้วยกัน ทำให้ห้องดูกว้างขวางมากขึ้น
ลาดพร้าว ที่พักพิงอันสงบ
ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
นอกจากนี้ ยังรายล้อมไปด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งด้านไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่อย่าง เซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว และยูเนียน มอลล์
หรือใครอยากแวะซื้อของก่อนกลับห้อง ใกล้ ๆ กับโครงการก็มีทั้ง Big C และ Gourmet market ที่อยู่ใน MRT ลาดพร้าว ให้จับจ่ายไม่ขาดมือก่อนเข้าโครงการ
รวมไปถึงร้านอาหารและคาเฟ่เก๋ ๆ ก็มีอยู่มากมาย หลากหลายสไตล์ ซึ่งแต่ละร้านก็ล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เหมาะจะพาเพื่อนฝูงคนสนิท หรือคนในครอบครัวมานั่งชิลล์ด้วยกันในวันว่าง ๆ
- รับส่วนลดสูงสุด 2 ล้านบาท* สำหรับยูนิตพิเศษ
- หากใครสนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1266
- ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลโครงการ http://bit.ly/2pGhKY1
จะเลือกอีกทำไม ในเมื่อเราสามารถมีทั้งสองได้
กับห้องสวย ๆ ภายใต้แนวคิด “Once you need less, you will have more” ที่สะท้อนภาพไลฟ์สไตล์ชีวิตของคนเมือง ซึ่งต้องการสถานที่ที่ได้เป็นตัวของตัวเอง สามารถปลดปล่อยความเครียดทิ้งไว้ข้างนอก แล้วเข้ามาหาความสุข สงบจากที่พักอาศัย
โดยทั้ง 2 โครงการจะเน้นการใช้พื้นที่ร่วมกัน โดยการออกแบบนำเอา Facilities ส่วนกลางมาไว้ด้านนอกสไตล์ Outdoor เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกับธรรมชาติมากขึ้น พร้อมสร้างบรรยากาศด้วยต้นไม้และดอกไม้เพิ่มความผ่อนคลาย อีกทั้งยังสามารถเลี้ยงสัตว์ที่เรารักได้อีกด้วย (Pet Friendly)
และขอย้ำอีกครั้ง!! กับโปรโมชัน “เมเจอร์ใจดีพาเหินฟ้า เที่ยวคิวชู” แค่จองและทำสัญญาห้องชุดที่คอนโด MARU Ekkamai 2 และ MARU Ladprao 15 ก็มีสิทธิ์ได้ร่วมทริปเที่ยวญี่ปุ่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ชวนกันไปเปิดประสบการณ์อาหารญี่ปุ่นระดับ Michelin star 2 ดาว ชมดอกซากุระ ณ เกาะคิวชู 5 วัน 3 คืน ฟรี!
*เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทฯ กำหนด