ไอเดียแต่งห้องน้ำสไตล์วินเทจยุค 60
12 January 2564
‘ห้องน้ำ’ เป็นอีกหนึ่งห้องภายในบ้านที่เราใช้งานเกือบตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะทำธุระส่วนตัว, แต่งหน้า, อาบน้ำ หรือแม้แต่การเซลฟี่ แต่กลับกลายเป็นห้องที่ใครหลายคนเลือกเพลย์เซฟด้วยการคุมโทนเป็นสีขาว หรือไม่ก็เลือกที่จะแต่งโทนสีเข้ม เพื่อไม่ให้ห้องน้ำดูสกปรก ห้องน้ำของเราหลาย ๆ คนจึงออกมาดูเหมือน ๆ กันหมด ไม่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง…Esto เลยอยากจะพาทุกคนลองออกจากกรอบเดิม ๆ แล้วเปลี่ยนมาแต่งห้องน้ำของเราให้ดูสดใส น่ารัก มีความวินเทจนิด ๆ ในสไตล์วินเทจยุค 60 ด้วยวิธีง่าย ๆ เพียงเลือกคู่สีหลักที่ชอบมา 2 สี ไอเทมไหนต้องมี ชิ้นไหนต้องจัด ติดตามอ่านต่อกันได้เลย
แต่งห้องน้ำสไตล์วินเทจด้วย ‘การเลือกโทนสี’
สีสันที่สะดุดตา เป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของการแต่งห้องน้ำสไตล์วินเทจยุค 60 โดยสีที่ว่านี้ เราสามารถเลือกเป็นสีไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นสีชมพู, สีเหลือง, สีเขียว, สีฟ้า, สีม่วง แล้วให้นำ 2 สีที่ชอบที่สุดมาจับคู่กัน ซึ่งทั้ง 2 สีนั้นจะมีความเด่นเท่า ๆ กัน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นโถสุขภัณฑ์, อ่างล้างหน้า, อ่างอาบน้ำ, ผ้าเช็ดตัว หรือของใช้อื่น ๆ ภายในห้องน้ำ ก็ล้วนต้องใช้โทนสีเป็นโทนสีหลักที่เราเลือกไว้ทั้งหมด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เพื่อให้ห้องดูมีมิติมากขึ้น ก็อาจจะเพิ่มของตกแต่งในโทนสีใกล้เคียงที่เข้มขึ้นลงไปแทนได้ เช่น เราเลือกสีหลักเป็นสีฟ้าอ่อนกับสีเหลืองอ่อน เราก็อาจจะเพิ่มสีม่วงเข้ม สีน้ำเงินเข้ม หรือสีเหลืองเข้มลงไปแซมได้นั่นเอง
แต่งห้องน้ำสไตล์วินเทจด้วย ‘การเลือกกระเบื้อง’
กระเบื้องปูผนัง เป็นอีกหนึ่งวัสดุตกแต่งที่ห้องน้ำสไตล์วินเทจยุค 60 จะต้องมีอย่างแน่นอน ตัวกระเบื้องที่เลือกใช้จะเป็นกระเบื่องเรียบ ๆ เน้นเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดเล็ก ปูเรียงกันบนผนังส่วนใดส่วนหนึ่งของห้องน้ำก็ได้ เช่น ปูเฉพาะบริเวณอ่างล้างหน้า หรือปูเฉพาะบริเวณอ่างอาบน้ำ เป็นต้น แน่นอนว่ากระเบื้องโมเสคก็สามารถนำมาปรับให้เข้ากับสไตล์นี้ได้ด้วยเช่นกัน
แต่งห้องน้ำสไตล์วินเทจด้วย ‘สีสันของสุขภัณฑ์’
การแต่งห้องน้ำสไตล์วินเทจนั้น อีกหนึ่งจุดเด่นที่มีความแตกต่าง และเป็นเอกลักษณ์ คือการเลือกใช้ชุดสุขภัณฑ์ที่มีสีสัน ไม่ว่าจะเป็นชักโครก, อ่างล้างหน้า, อ่างอาบน้ำ, ก๊อกน้ำ, ฝักบัว และอื่น ๆ ซึ่งในปัจจุบันนี้ความนิยมในเรื่องของสีสันสำหรับตัวสุขภัณฑ์นั้นน้อยลงจนแทบไม่มีใครเลือกใช้แบบที่มีสีสันอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นทำให้การหาซื้อนั้นเป็นไปได้ยาก แต่ถ้าอยากแต่งห้องน้ำในได้ Theme วินเทจสไตล์ 60 แล้วล่ะก็ การเลือกทาสีสีอะคริลิคลงไป ก็ช่วยให้เราได้เฉดสีที่ต้องการอย่างใจ อาจจะติดที่ความยุ่งยากเล็กน้อย แนะนำให้จ้างช่างเฉพาะทางจะดีที่สุด
แต่งห้องน้ำสไตล์วินเทจด้วย ‘ตู้ตั้งอ่างล้างหน้า’
บอกลาไปได้เลยสำหรับเคาน์เตอร์หินอ่อนสำหรับการแต่งห้องน้ำสไตล์วินเทจ สไตล์นี้จะเน้นไปที่ความเรียบง่าย แต่จะไปเน้นที่สีสันแทน ดังนั้นเราสามารถซื้อตู้ตั้งอ่างล้างหน้ามาทาสีสันที่ถูกใจลงไปได้แทน ส่วนตัวอ่างจะใช้แบบไหนก็ได้ อย่าลืมว่าสีสันของตัวอ่างต้องเข้ากันกับชุดสุขภัณฑ์อื่น ๆ ด้วยนะ ข้อดีของตู้ตั้งอ่างล้างหน้าคือเราสามารถเพิ่มพื้นที่จัดเก็บได้ แต่ถ้าใครอยากใช้อ่างแขวนผนังไม่ง้อตู้ก็ไม่ว่ากัน เลือกเอาตามความชื่นชอบได้เลย
แต่งห้องน้ำสไตล์วินเทจด้วย ‘ม่าน’
อีกหนึ่งไอเทมที่จะขาดไปไม่ได้ เพราะเป็นตัวเด่นที่จะทำให้สีสันของห้องชัดเจนได้มากยิ่งขึ้น ก็คือม่านนั่นเอง ในที่นี้ ม่านสำหรับการแต่งห้องน้ำสไตล์วินเทจ จะเป็นม่านพลาสติกกันน้ำสีสันหรือลวดลายสดใส หรือเป็นม่านวัสดุผ้าก็ได้ทั้งคู่ แต่ถ้าใครอยากเลือกแบบวัสดุผ้า ต้องแน่ใจจริง ๆ ว่าส่วนแห้งภายในห้องน้ำของเรานั้นแห้งสนิทดีจริง เพราะไม่อย่างนั้นก็อาจทำให้เกิดเชื้อราได้
แต่งห้องน้ำสไตล์วินเทจด้วย ‘ของใช้ส่วนตัว’
ปิดท้ายกันด้วยของใช้ส่วนตัว ที่ส่งผลต่อมูโโทนของห้องอย่างผ้าเช็ดตัว เช็ตแปรงสีฟัน และขวดสบู่แชมพูต่าง ๆ ถ้าเราอยากจะคอมพลีตสไตล์ให้เป๊ะ การแต่งห้องน้ำสไตล์วินเทจก็ต้องไม่ลืมที่จะเลือกสีของอุปกรณ์เหล่านี้ให้สอดคล้องกับสีหลักของห้องน้ำทั้งสองสีที่เราได้ทำการเลือกมาด้วย
เพียงเท่านี้ การแต่งห้องน้ำสไตล์วินเทจยุค 60 ก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัว ไม่ว่าใครก็สามารถเปลี่ยนห้องน้ำที่น่าเบื่อจำเจ ให้กลายมาเป็นห้องน้ำสไตล์วินเทจที่สดใสได้ไม่ยากแล้ว