ESTOPOLIS | 10 สาเหตุที่ทำให้กู้สินเชื่อบ้านและคอนโดไม่ผ่าน
12 June 2560
สำหรับใครที่กำลังคิดจะซื้อบ้านและคอนโดโดยการกู้สินเชื่อ อาจจะต้องพบกับความผิดหวังเมื่อธนาคาปฏิเสธการปล่อยกู้ ไม่ให้วงเงินกู้ตามต้องการ หรือแนะนำให้หาผู้กู้ร่วม ทำให้การจะได้บ้านหลังแรกยากเข้าไปทุก ๆ ที ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาสรปสาเหตุหลัก ๆ ของการกู้สินเชื่อแล้วไม่ผ่านกันค่ะ
1. กู้สินเชื่อบ้านและคอนโดไม่ผ่านเพราะหนี้บัตรเครดิต
เพื่อนที่ทำงานด้านสินเชื่อของผู้เขียนฝากบอกมาว่านี่เป็นสาเหตุหลัก ๆ เลยค่ะ เพราะหนี้ในบัตรเครดิตจะนำมาคิดรวมในการปล่อยกู้ด้วย โดยเฉพาะหากมีหนี้มากกว่า 40 % ของรายได้ ก็จะมีโอกาสโดนปฏิเสธสูงค่ะ สำหรับการจัดการกับหนี้บัตรเครดิตเพื่อยื่นกู้สินเชื่อบ้านและคอนโด ทาง Estopolis ได้เขียนเอาไว้แล้วค่ะ สามารถอ่านได้ตาม link นี้เลยค่ะ
มีหนี้บัตรเครดิต จะกู้สินเชื่อบ้านและคอนโดผ่านไหม และทำอย่างไรได้บ้าง
2. ติดการผ่อนอะไรสักอย่าง
การผ่อนรถ หรือผ่อนของผ่านบัตรเครดิต จะถูกนำมาคิดเป็นรายจ่ายต่อเดือนด้วยค่ะ ถ้ามีภาระค่าใช้จ่ายเกิน 40 % ของรายได้ก็จะถูกปฏิเสธ แต่ถ้ารายจ่ายน้อยกว่านั้นก็จะเอาไปหักจากรายได้ และทำให้ธนาคารปล่อยสินเชื่อได้ไม่เต็มวงเงินรายได้ของเราค่ะ ดังนั้นใครที่ติดตรงนี้อยู่ถ้าไม่สามารถจัดการชำระหนี้ทั้งหมดได้ ก็ให้รีไฟแนนซ์เพื่อให้จำนวนเงินผ่อนต่อเดือนลดลงก่อนยื่นกู้นะคะ
3. ติดค้ำประกัน
จริง ๆ แล้วตรงนี้ไม่ต้องกังวลค่ะ ถ้าคนที่เราค้ำประกันไม่ค้างชำระหนี้จนปรากฏอยู่บนเครดิตบูโร ดังนั้นถ้าจะไปค้ำประกันใครก็ต้องเลือกคนที่ไว้ใจได้นะคะ หรือไม่ก็ไม่ต้องไปค้ำให้ใครเลยจะดีที่สุด
4. ไม่มีการออมเงิน
ปัญหาข้อนี้เจ้าหน้าที่สินเชื่อบางธนาคารแอบกระซิบมาว่าไม่จริงนะคะ คือธนาคารจะดูเงินเก็บก็ต่อเมื่อธนาคารขาดความมั่นใจที่จะปล่อยกู้ให้คุณ เช่นวงเงินกู้ค่อนข้างสูงเมื่อเที่ยบกับรายได้ เป็นต้น แต่ถ้าคุณมีเงินเก็บธนาคารอาจจะมองว่าคุณมีเงินไว้ใช้ยามฉุกเฉิน อาจจจะใจอ่อนปล่อยสินเชื่อได้ค่ะ
ยกตัวอย่าง หากคุณเป็นคนที่มีรายได้มาก แต่กลับไม่มีเงินออมเลย ธนาคารอาจจะถามหาเงินออมของคุณค่ะ เพราะธนาคารมองว่าการออมของคุณน่าจะทำได้ไม่ยาก การไม่มีเงินออมเป็นเพราะคุณมีหนี้ หรือกำลังลงทุนอะไรบางอย่างที่ธนาคารมองไม่เห็นหรือไม่
5. ปัญหาจากผู้กู้ร่วม
บางธนาคารจะไม่นับรายได้จากผู้กู้ร่วมที่ไม่ได้เป็นพนักงานประจำเลยนะคะ ผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระต่าง ๆ หากเงินไม่หนา ไม่มีกิจการของตัวเอง เสียภาษีอย่างถูกต้อง ธนาคารจะไม่นำมาคิดเลย อาชีพที่ธนาคารชอบจริง ๆ จะเป็น ข้าราชการ พนักวานรัฐวิสาหกิจ แพทย์ และอัยการ ถ้ากู้ร่วมกับอาชีพเหล่านี้และพวกเขาไม่มีหนี้ การกู้สินเชื่อบ้านและคอนโดก็น่าจะทำผ่านได้ง่ายค่ะ
6. ปัญหาเรื่องที่ทำงานของเราเอง
ความน่าเชื่อถือของสถานที่ทำงานเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญเลยค่ะ โดยเฉพาะหากบริษัทที่คุณทำงานขาดการจ่ายภาษี ไม่ส่งประกันสังคม จ่ายเงินเดือนไม่ตรง การจะกู้ให้ผ่านจะยากมากค่ะ สำหรับหัวข้อนี้ทาง Estopolis เคยเขียนเป็นบทความ เลือกที่ทำงานอย่างไรให้กู้คอนโดผ่านด้วยนะคะ ลองเข้าไปอ่านกันแล้วดูว่าที่ที่คุณทำงานอยู่ตรงหรือไม่
Link : เลือกที่ทำงานอย่างไร ให้กู้ซื้อคอนโดได้ง่าย ๆ
7. รายได้ไม่ถึง 25,000 บ.ต่อเดือน
เหมือนจะเป็นกฏใหม่ที่ธนาคารตั้งขึ้นมาสำหรับการกู้สินเชื่อบ้านและคอนโด จน ธอส. ออกมาช่วยโดยให้สามารถกู้ร่วมได้ถึง 6 คน ซึ่งจริง ๆ แล้วในช่วงที่ข่าวนี้ออกมาผู้เขียนเองก็โทรสายตรงถึงพนักงานสินเชื่อธนาคารต่าง ๆ เหมือนกัน ปรากฏว่าหลาย ๆ ธนาคารยังไม่ได้เอากฏนี้เข้ามานะคะ เพราะยังไงก็ตามธนาคารก็จะดูที่ความสามารถในการชำระหนี้ และรายได้มากกว่าค่ะ
ข้อมูลอ้างอิงของหัวข้อนี้อ่านต่อได้ตามลิ้งค์นี้เลยค่ะ
ฐานเศรษฐกิจชี้วิกฤตอสังหา! แบงก์งดปล่อยกู้เงินเดือนต่ำกว่า 25,000 ปล่อยโครงการ-ลอยแพคนซื้อ
ข่าวดี! เงินเดือนไม่ถึง 2.5 หมื่นก็กู้ซื้อบ้านได้ ธอส.ไฟเขียวปล่อยกู้ร่วม 6 คน
8. ธนาคารไม่คิดรายได้ทั้งหมด
แต่ละธนาคารคิดเรื่องรายได้แตกต่างกันออกไปค่ะ บางธนาคารนับแค่เงินเดือนประจำ บางธนาคารรวมค่าเดินทาง ค่าน้ำมัน โบนัส โอที ค่าประชุม ฯลฯ ให้ด้วย บางธนาคารก็คิดค่าใช้จ่ายเหล่านี้แบบนับเป็นเปอร์เซ็นต์ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้กู้สินเชื่อบ้านและคอนโดแล้วไม่ผ่าน ดังนั้นก่อนยื่นกู้ลองคุยกับเจ้าหน้าที่ให้ชัดเจน จะได้ไม่เสียเวลาค่ะ
9. คุณกำลังเปลี่ยนงาน
ตรงนี้ธนาคารก็แอบคิดค่ะ ถ้าคุณพึ่งเข้าทำงานที่ใหม่และยังไม่ผ่านโปร ธนาคารเองก็จะมองว่าเป็นความเสี่ยงเหมือนกัน บางคนที่เปลี่ยนงานบ่อย ๆ ธนาคารก็ตั้งข้อสงสัยด้วยเหมือนกันนะคะ
10. อื่น ๆ
เหตุผลที่จะซื้อไม่เพียงพอ
เคยเจอเคสที่ธนาคารบอกว่ายังไม่มีเหตุผลที่จะต้องซื้อค่ะ ตรงนี้อาจจะเป็นเพราะที่ทำงานไม่โปร่งใส จดทะเบียนไม่ถูกต้อง และดูไม่น่าเชื่อถือค่ะ ทำให้ธนาคารมองว่ารายได้ที่เราได้มาอาจจะไม่ใช่รายได้ที่เชื่อถือได้ การซื้อคอนโดหรือที่อยู่อาศัยอาจจะเป็นส่วนหนึ่งในการฟอกเงิน โดยเฉพาะถ้าคอนโดเหล่านั้นไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่คุณอาศัยอยู่ในปัจจุบัน
โครงการติด Black list
ทางธนาคารพบว่าโครงการนี้มีหนี้เสียอยู่ในระบบเยอะ คือมีการกู้สำเร็จ แต่กลับไม่มีคนอยู่จริง ไม่มีคนผ่อน แล้วปล่อยให้ห้องโดนยึดไปหลายห้อง ตรงนี้ธนาคารอาจจะตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีลักษณะของการกู้คอนโดเงินเหลือ คือกู้สินเชื่อซื้อคอนโดเพื่อเอาเงินส่วนต่างระหว่างเงินที่กู้ได้กับราคาขายจริง ธนาคารจะมองว่าโครงการนี้ดูไม่โปร่งใส และไม่มีศักยภาพเพียงพอ สุดท้ายจะเลือกไม่ปล่อยกู้ให้กับคนที่ยื่นกู้กับโครงการเหล่านี้ ถ้าเครดิตของผู้กู้ไม่สูงพอ
ทั้งหมดคือสาเหตุที่เราพอจะรวบรวมได้นะคะ บางครั้งธนาคารปฏิเสธคุณด้วยเหตุผลแปลก ๆ ก็มีเหมือนกัน แต่อย่าพึ่งตกใจไป เพราะมาตรฐานของแต่ละธนาคารแตกต่างกัน เราแนะนำให้คุณยื่นกู้ทุกธนาคารที่คุณชอบพร้อม ๆ กันไปเลย เพราะนอกจากแต่ละธนาคารจะตรวจหากันในบูโรไม่เจอแล้ว ยังเพิ่มทางเลือกให้คุณด้วย จะได้ไม่ต้องวิ่งเต้นให้เหนื่อยตอนที่ธนาคารขอนั่นขอนี่เพิ่มเติม ประมาณว่าธนาคารไหนเรื่องเยอะก็ตัดออก ธนาคารไหนข้อเสนอดีก็เลือกอันนั้น เปรียบเทียบกันไปเลยค่ะ