รูปบทความ ไกลบ้านไม่เป็นไร ยกความสบายใจมาไว้ในคอนโด

ไกลบ้านไม่เป็นไร ยกความสบายใจมาไว้ในคอนโด

ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนมาเรียนไกล หรือกำลังเข้าสู่วัยทำงานแล้วและต้องออกมาอยู่เอง ก็ต้องมีบ้างที่จะเกิดอาการ คิดถึงบ้าน โดยเฉพาะช่วงเริ่มแรกของการแยกตัวออกมาอยู่ ไม่ว่าจะด้วยเพราะความต้องการส่วนตัว หรือเพราะเหตุผลจำเป็นใด ๆ ก็ตาม ก็ต้องมีสักแว๊บหนึ่งที่รู้สึกเหงา รู้สึกโหยหาความอุ่นใจแบบที่เคยได้รับจากในรั้วบ้าน


ไม่ใช่เรื่องแปลก และไม่ใช่เรื่องที่ไม่มีทางแก้ไขเสียเลยทีเดียว เกือบทุกคนต้องเคยมีความรู้สึกนี้กันอยู่แล้ว อาการเหล่านี้จะหายไปเมื่อเราปรับตัวได้ แต่ถ้าต้องการประสิทธิภาพมากกว่าการรอให้เวลารักษาเฉย ๆ Esto มีข้อแนะนำดี ๆ มานำเสนอให้


ง่าย ๆ เลย คือ ‘การสร้างฐานลับส่วนตัว’


เลือกสักมุม ที่สามารถใส่ความเป็นตัวเองลงไปได้

ห้องนอน

มุมเบสิกที่สุดในการเลือกใช้เป็นฐานลับส่วนตัว เปรียบเสมือนเซฟโซนที่ดีที่สุดของทุกคน ยิ่งอยู่ในช่วงวัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ต้น ๆ ห้องนอนเหมือนเป็นห้องแห่งความลับที่เต็มไปด้วยสารพัดของวิเศษของเราเลยทีเดียว เป็นที่ ๆ สามารถเป็นตัวของตัวเองได้มากที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงอารมณ์ไหน อารมณ์ดี ยิ้มได้ หรืออารมณ์ร้าย ดราม่า ต่าง ๆ นานาก็ล้วนแล้วแต่ถูกระเบิดออกมาอย่างสบายใจในห้องนอน


แล้วทำอย่างไรให้ห้องนอนใหม่ของเราเต็มไปด้วยความสบายใจเหมือนบ้าน ง่าย ๆ เลยคือขึ้นอยู่กับ การตกแต่งห้อง ของเราเอง อาจจะเอางานอดิเรกมาไว้ เช่น หากชอบอ่านหนังสือ ก็เอาตู้หนังสือเล็ก ๆ มาไว้ เรียงหนังสือที่ชอบเข้าไป หยิบมาอ่านในยามที่ต้องการ หรือหากเป็นคนชอบงานศิลปะ อาจจะเอาผลงานใส่กรอบมาแขวนหรือตั้งโชว์ (โชว์ตัวเอง) โปสเตอร์ภาพที่ชอบมาแปะตกแต่ง


แม้แต่วิธีการง่าย ๆ เช่น การเลือกใช้ผ้าปูที่นอนสีหรือลายที่ชอบ แบบเดียวหรือคล้ายกับของเดิมที่บ้าน ตุ๊กตา น้องเน่าต่าง ๆ ก็สามารถเอามาตกแต่งทำฐานทับเซฟโซนส่วนตัวได้ อิงบรรยากาศที่คุ้นเคยมาไว้มากที่สุด ให้เหมือนห้องนอนเดิม หรือมีกลิ่นอายความเป็นตัวเรา จะช่วยให้รู้สึกสบายใจมากขึ้น 


ห้องนั่งเล่น

ไม่ได้เอาไว้สร้างเซฟโซน แต่เอาไว้ใช้ สร้างบรรยากาศ เพราะห้องนั่งเล่น หรือส่วนรับแขก คงไม่เหมาะที่จะเอาของส่วนตัว ความชอบส่วนตัว รสนิยมส่วนตัว ที่ส่วนตัวจัด ๆ มาตั้งโชว์ได้ (หรือใครจะเอามาโชว์ก็ไม่ว่ากันนะ) แต่อย่างไรก็ตาม คอนโดฯ นี้ก็เป็นของเรา เราคือผู้อาศัยอยู่มากที่สุด ดังนั้น หากจะมีกลิ่นอายความเป็นเรา ความเป็นบ้านของเรา ความเป็นที่แห่งความสบายใจของเราอยู่บ้าง ก็ไม่ผิดเลย 


อาจ ใช้การตกแต่งเข้าช่วย เหมือนเดิม ชักจูงให้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน เลือกสีเฟอร์นิเจอร์เป็นสีที่ชอบ สีที่เข้ากันกับโทนห้องแล้วรู้สึกไม่ขัดตา มีกรอบรูปตั้งโชว์ อาจะเป็นรูปตัวเอง รูปครอบครัว หรือรูปกับสัตว์เลี้ยง ถึงแม้อาจมีคนแอบเถียงว่า ยิ่งเอารูปมาโชว์ก็ยิ่งตอกย้ำว่าไม่ได้อยู่บ้าน ก็ไม่เสมอไป...บางทีรูปของคนที่รักก็เป็นยาชูกำลังที่ดีในวันล้า ๆ วันหนึ่ง หลังจากเปิดประตูเข้าห้องมา กลับมาเหนื่อย ๆ


หากได้นั่งผ่อนคลายสักพักอยู่ในห้องนั่งเล่นที่มีบรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน ก็น่าจะช่วยชาร์จพลังให้เจ้าของห้องได้ไม่มากก็น้อย แถมในวันว่าง ๆ ไม่อยากอุดอู้อยู่แต่ห้องนอน ก็สามารถใช้มุมนี้พักผ่อนได้เหมือนกัน


ห้องครัว (ก็เป็นที่พักใจได้)

พูดถึงครัวก็ไม่พ้นเรื่องอาหาร และแน่นอนว่า หากต้องการ feel like home ก็ต้องมีอาหารที่คุณพ่อคุณแม่ทำมาให้ ! เหมือนอย่างในประเทศเกาหลี ครอบครัวคนเกาหลีมักจะทำเครื่องเคียงที่สามารถแช่ตู้เย็นเก็บได้นาน ๆ เช่น กิมจิ แพ็คห่อมาให้คนไกลบ้านเก็บไว้กิน สามารถเก็บได้เป็นเดือน ๆ แต่บ้านเราอาจจะไม่ได้มีวัฒนธรรมเรื่องอาหารแบบนั้น


ไม่เป็นไร...คนไทยก็มีของเราเหมือนกัน อาจเป็นอาหารที่ถูกถนอมไว้ให้เก็บกินได้นาน ๆ เช่น เนื้อแห้ง เนื้อส้ม น้ำพริกต่าง ๆ ที่สามารถเก็บในตู้เย็นได้นาน รสชาติเหมือนคุณแม่ลงครัวเอง ก็ทำให้คลายคิดถึงบ้านได้เหมือนกัน อย่าคิดว่าอาหารไม่เกี่ยวกับเซฟโซน บางคนก็เคยเสียน้ำตาเพราะคิดถึงกับข้าวที่บ้านมาแล้วนะเออ


ระเบียง (ถ้ามีนะ)

ปลูกดอกไม้ ต้นไม้ต้นเล็ก ๆ สำหรับปลูกในร่มหรือในห้องได้ สร้างความสดชื่นผ่อนคลายให้ผู้อยู่อาศัย เพิ่มอากาศบริสุทธิ์ให้ห้องอีกด้วย ติ๊ต่างว่าเป็นสวนหย่อมเล็ก ๆ เหมือนสวนหน้าบ้าน สีเขียวจากใบไม้จะช่วยให้ผ่อนคลายทั้งทางกายและจิตใจ สบายอารมณ์ เยียวยาหัวใจที่ห่อเหี่ยวให้ชุ่มชื้นขึ้น


ยิ่งถ้าปลูกจำพวกไม้ดอกไม้ประดับ พันธุ์ไม้ที่ต้องมีการดูแลมากกว่าการรดน้ำเฉย ๆ จะยิ่ง ทำให้มีชีวิตชีวา มากขึ้นด้วย เหมือนว่าได้มีกิจกรรมทำแก้เหงา และมันจะตอบแทนเรากลับด้วยความภูมิใจเล็ก ๆ ในตัวเองเมื่อเกิดดอกออกผลมา


ไม่ได้อยู่บ้าน ก็ทำตัวให้ ‘ติดห้อง’ บ้าง


กิจกรรมที่สามารถทำได้ในคอนโดของตัวเอง

มีหลายกิจกรรมที่สามารถทำได้อยู่ในห้อง กิจกรรมที่ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์หรือพื้นที่มาก หรือสามารถย่อส่วนลงมาทำในพื้นที่ที่มีจำกัดได้ สุดแล้วแต่ว่าจะออกแบบใช้พื้นที่อย่างไร เช่น

  • ดูหนัง ฟังเพลง
  • อ่านหนังสือ
  • ออกกำลังกายเบา ๆ
  • ทำสวนเล็ก ๆ บริเวณระเบียงห้อง
  • ทำอาหารง่าย ๆ กินเอง
  • กิจกรรมอื่น ๆ เช่น การทำงานศิลปะ เล่นเกม เล่นดนตรี เย็บปักถักร้อย


โดยกิจกรรมเหล่านี้ ไม่เพียงแต่ให้ความเพลิดเพลินยามที่อยู่ในห้อง แต่ยังเป็นการฝึกสมาธิ ผ่อนคลายอารมณ์จากการเรียนหรือการทำงานที่เคร่งเครียดมาตลอดวัน ตลอดสัปดาห์ ตลอดเดือนได้อีก และการหากิจกรรมที่สามารถทำอยู่ห้องของตัวเองได้ ก็เป็นการสร้างความคุ้ยเคยในพื้นที่ของเรา ช่วยให้ผ่อนคลายที่จะใช้งานมากขึ้น กล้าปล่อยใจมากขึ้น และจะค่อย ๆ ปรับทัศนคติของเราให้ยอมรับว่าที่นี่ก็เป็นเหมือนบ้านของตน มีความอุ่นใจ สะดวกใจที่จะทำกิจกรรมต่าง ๆ เหมือนได้อยู่บ้าน


แล้วการอยู่ให้ติดห้อง จะช่วยให้เพิ่มความ อุ่นใจเมื่อไกลบ้าน ได้อย่างไร ?


หากประสบปัญหาไม่ค่อยได้กลับบ้าน แต่เป็นคนติดบ้าน ถ้าอย่างนั้นก็ต้องใช้วิธี อยู่ที่คอนโดมิเนียมของตัวเองไปเลย (แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ให้ออกไปเที่ยวที่อื่นเลยนะ) นัยหนึ่งคือเป็นการสร้างความคุ้นชินไปในตัวด้วย พยายามคิดและปรับตัวให้เข้ากับที่อยู่ มองให้เป็นบ้านหลังที่สองของเราเอง ความรู้สึกจะค่อย ๆ ปรับไป จนในที่สุดเราก็จะรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ที่นี่ ไม่ต่างจากตอนอยู่บ้าน ดังนั้น ข้อนี้จึงสำคัญมาก ๆ คือ การเปิดใจ และปรับตัว


อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า การเปิดใจและปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมให้เข้ากับที่อยู่อาศัยเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ หากทำไม่ได้เราก็จะไม่มีความสุขในการอยู่อาศัยเลย ซึ่งอาจกลายเป็นความทุกข์ที่มองไม่เห็น นำพาให้ชีวิตประจำวันย่ำแย่ แต่อย่างไรก็ตาม บ้านก็มิอาจหาที่ใดมาแทน หากมีเวลาว่าง ช่วงวันหยุดเทศกาล หยุดเสาร์อาทิตย์ ไม่มีเรียน ไม่มีงาน หากมีโอกาสกลับไปที่บ้าน ไปชาร์จพลังเพื่อมาต่อสู้กับชีวิตประจำวันใหม่ ก็เป็นวิธีที่พวกเรา Esto เห็นว่าดีที่สุด แนะนำที่สุด ในการฮีลลิ่งตัวเอง


ลองเลือกสรรห้องคอนโดตามความสบายใจของคุณได้ที่ ค้นหาห้องคอนโดให้เช่า


บทความที่เกี่ยวข้อง

5 กิจกรรมชิคๆ กับวัน Weekend แสนผ่อนคลายในห้องคอนโด

แต่งห้องเช่าสไตล์โมเดิร์น Southwestern Look อบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน [Room Tour]

รวมห้องนั่งเล่นหลากสไตล์ ในแบบฉบับนักแต่งห้องมือใหม่

รวมไอเดียการแต่งห้องสตูดิโอของคนรักหนังสือ

เพิ่มความอบอุ่นผ่านไอเดียแต่งห้องด้วย ‘ระแนงไม้’


เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?

Related Stories

Esto Talks

See All >

Living out loud

Living out loud : VANA RESIDENCE พระราม 9 - ศรีนครินทร์