รูปบทความ เเค่เชื่อก็ประสบความสำเร็จได้สิ่งเล็กๆในตัวคุณที่จะเป็นเเรงกระตุ้นนำไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่

เเค่ 'เชื่อ' ก็ประสบความสำเร็จได้ สิ่งเล็กๆในตัวคุณที่จะเป็นเเรงกระตุ้นนำไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่



ประโยคกล่าวขึ้นต้นของเรื่องราวเเละหนังสือที่ใช้ชื่อเดียวกัน ‘เพราะเชื่อ ฉันจึงทำได้’ เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ พูดถึงเรื่องราวของชีวิตในโลกที่คนเเละธรรมชาติอยู่ร่วมกัน โดยอาศัยพื้นฐานความรัก ความฝัน ความเชื่อ เเละความศรัทธาเป็นที่ตั้ง พลังเล็กๆในตัวเราที่นำไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่


จากประสบการณ์ตรงที่ผู้เขียนได้มีโอกาสได้อ่านหนังสือเล่มนี้ เเละอยากจะเเชร์ความประทับใจจากการอ่านให้ผู้อ่านได้จุดประกายพลังบวกเล็กๆในใจตนเอง เพื่อเป็นเเรงผลักดันชั้นดีสู่ความฝันที่ไม่ใช่เเค่ฝัน !


ก่อนหน้าที่ผู้เขียนจะมาเจอหนังสือเล่มนี้ ผู้เขียนได้ประสบกับภาวะที่สมองตีบตันคิดงานไม่ออกเเละหมดกำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงาน เนื่องด้วยเป็นงานที่ไม่เคยทำมาก่อน ไม่มีทักษะชำนาญพอที่จะข้ามผ่านเเบบทดสอบนี้ไปได้อย่างไร เเละที่สำคัญไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเองว่าตัวเราจะ “ทำได้”


เเละนี่เป็น 1 ใน 3 เคส ที่ตัวผู้เขียนเองชื่นชอบเเละอยากจะหยิบยกนำมาเเชร์ให้กับผู้อ่านทุกคนได้ก้าวข้ามขีดจำกัดที่ตัวเราเองเป็นผู้ก่อกำเเพงขึ้นมาด้วยความยินยอมโดยดี





เรื่องมีอยู่ว่า… มีเด็กชายวัยเเปดขวบคนหนึ่งเเละพี่ชายประสบอุบัติเหตุจากการระเบิดของเเก๊สโซลีน (น้ำมันเชื้อเพลิง) ของเตาที่ใช้น้ำมันก๊าด ขณะที่กำลังจุดไฟเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น พี่ชายของเขาโดยไฟไหม้คลอกทั้งตัวเเละเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนตัวเด็กชายน้อยอาการสาหัส ขาไม่สามารถใช้การได้อีกต่อไป เด็กชายน้อยจะไม่สามารถเดินเเละวิ่งเล่นได้อีกตลอดชีวิต ซึ่งผิดจากนิสัยเด็กชายน้อยที่ชอบวิ่งเล่นกลางทุ่งกว้าง

เเล้ววันหนึ่ง เขาก็คิดเเละบอกกับตัวเองว่า “เขาจะนั่งอย่างนี้ตลอดชีวิตไม่ได้ เขาต้องลุกขึ้นเดิน” เเละเช้าวันในวันเดียวกัน เขาก็ขยับรถเข็นที่ตนเองนั่งอยู่เข้าไปใกล้ ๆรั้วบ้านเเล้วพยายามดันตัวเองให้ลุกขึ้นยืนได้อย่างมั่นคงพร้อมค่อยๆจับรั่วเเละขยับเท้าเดินไปที่ละนิดๆตามเสารั้วบ้าน จนเวลาร่วงเลยถึง 2 ปี เขาก็กลับมาเดินเเละวิ่งได้อีกครั้ง ซึ่งคนทั้งโลกรู้จักเขาในชื่อ เกลนน์ ดันนิ่งเเฮม (Gienn Cunningham) ในฐานะนักวิ่งเหรียญเงินโอลิมปิก ปี 1936 ซึ่งเขาใช้ "ตัวช่วย" ในการสร้างความมุ่งมั่นเเละเชื่อใจตนเองด้วยคำกล่าวจากพระคัมภีร์ไบเบิลที่กล่าวว่า...





จากเด็กที่มีโอกาสเดินได้เป็นศูนย์สู่การเป็นนักวิ่งระดับเหรียญเงินโอลิมปิก ด้วยมีความเชื่อมั่นในใจว่า “ฉันต้องทำได้” คอยเป็นเเรงส่งเล็ก ๆ เสริมไปสู่การประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่



จะเดินตามความฝันให้สำเร็จได้อย่างไร ?


การที่เราจะนำพาตัวเองเข้าไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ความฝันที่มิอาจอายากให้เป็นเเค่ความฝัน เริ่มจากการที่เราต้องจุดไฟเเห่งความเชื่อมั่นในตัวเองว่า “ฉันทำได้” ออกห่างจากรัศมีสิ่งเเวดล้อมหรือความคิดด้านลบที่เป็นตัวบั่นทอนจิตใจของเรา จงทำตามเสียงหัวใจเเละคอยบ่มเพราะความเชื่อมั่นนี้ให้มันเป็นเเรงกระตุ้นเราไปสู่ความฝันที่กลายเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในตัวเอง



หากไม่ประสบความเร็จตามที่วาดฝันไว้ ?


ตามที่ในหนังสือได้เขียนไว้เเละผู้เขียนก็เห็นด้วยกับหนังสือ ว่ามนุษย์เราไม่จำเป็นต้องมีเพียงความฝันเดียว คน ๆ นึงอาจมีหลายความฝันก็เป็นได้ เพราะนั้นจะเป็นความฝันสำรองที่เราวางเเผนไว้หากความฝันเเรกไม่ประสบความเร็จ เพราะก็คงไม่มีใครบนโลกใบนี้สมหวังตามที่ใจตนปรารถนาเสมอไป


อย่างตัวผู้เขียนหนังสือเล่มนี้เอง ที่มีความฝันนานานับสิ่ง ไม่ว่าจะอยากเป็นนักเขียน อยากเป็นนักร้อง เขาสามารถประสบความสำเร็จด้านการเป็นนักเขียนได้ เเต่ไม่สามารถเป็นนักร้องได้ ซึ่งเขาก็ขอเป็นนักเเต่งเพลงก็ยังดี เพื่อให้ไปอยู่ใกล้ความฝันเเรกมากที่สุด





เช่นเดียวกัน เราควรตั้งความฝันสำรองให้เป็นในทิศทางเดียวกัน เเม้ว่าความฝันเเรกจะไม่สำเร็จ จงทำมันอย่างเต็มที่เเละเชื่อมั่นในตัวเอง ‘เพราะเชื่อ ฉันจึงทำได้’ พลังเล็ก ๆ ในตัวคุณที่เป็นเเรงกระตุ้นให้เราเข้าใกล้ความฝันเเละนำไปสู่ความสำเร็จในที่สุด




เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?

Related Stories

Esto Talks

See All >

Living out loud

Living out loud : VANA RESIDENCE พระราม 9 - ศรีนครินทร์