เหล่าวัยเรียน เทียบกันชัด ๆ ! หอพัก VS คอนโดมิเนียม
22 June 2562
วัยเรียนอย่างเราๆ ยิ่งช่วงอายุประมาณ 18-24 ปี กำลังเรียนมหาวิทยาลัยใสๆ หลายคนก็เริ่มแยกตัวมาอยู่เองแล้ว บ้างก็อยู่เป็นหอพักเช่ารายเดือน บ้างก็อยู่เป็นคอนโดมิเนียม ซึ่งอาจจะเช่าหรือซื้อเป็นของตัวเองเลยก็สุดแล้วแต่ความสะดวกของใคร แต่สำหรับบทความนี้ขอเอาใจวัยเรียนที่กำลังสับสนว่าหากออกมาอยู่เองแล้ว หอพัก หรือ คอนโดมิเนียม อันไหนจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่ากันสำหรับคุณ
อิสระในห้องของตัวเอง
คอนโดมิเนียม
หากเป็นห้องของตัวเองสามารถมีอิสระได้เต็มที่ เช่น การตกแต่งห้อง การจัดห้อง หรือถ้าหากเป็นคอนโดฯ เช่าอยู่ อุปกรณ์ครัวเรือนข้างในก็มักเป็นของคุณภาพดี เสียหายยาก สามารถใช้งานได้เต็มที่อิสระมากกว่า
หอพัก
ข้อจำกัดเรื่องการใช้ห้องมากกว่า เนื่องจากเป็นการเช่าอยู่ สิทธิขาดอยู่ที่ผู้ให้เช่า หากมีของเสียหายอาจต้องจ่ายค่าปรับ และของภายในห้องส่วนมากมักจะคุณภาพปานกลาง ต้องใช้อย่างระมัดระวังมาก ๆ มีอิสระในการใช้ห้องและอุปกรณ์น้อยกว่า แต่ถ้าหากเป็นคนที่ไม่ซีเรียสเรื่องข้าวของ ไม่ได้มีการใช้งานที่หนักหน่วงอะไร ในส่วนนี้ก็ไม่น่ามีปัญหา
ความเป็นสัดส่วนในพื้นที่ห้อง
คอนโดมิเนียม
คอนโดมิเนียมมีความเป็นสัดส่วนมากกว่า ยกเว้นห้องแบบ Studio แต่ถึงอย่างไรก็ยังมีมากกว่าหอพักอยู่ดี ด้วยการถูกออกแบบห้อง ถูกวางแผนจัดพื้นที่ห้องผ่านผู้เชี่ยวชาญมาอย่างดีแล้วนั้น ทำให้คอนโดมิเนียมค่อนข้างมีการจัดการพื้นที่ใช้สอยได้ลงตัว แต่การจะได้ห้องที่มีพื้นที่ใหญ่หรือเล็กก็สัมพันธ์กับโครงการและราคาด้วย ฉะนั้นแล้ว หากต้องการห้องที่ใหญ่ เป็นสัดเป็นส่วนดี พื้นที่ใช้สอยลงตัวมากๆ ก็อาจจะต้องจ่ายแพงมากหน่อย ขึ้นอยู่กับความสะดวกและกำลังจ่าย
หอพัก
ส่วนมากจะเป็นห้องมีรูปร่างสีเหลี่ยม ไม่ได้มีการจัดสัดส่วนอะไรมาก ด้วยลักษณะอาคารและรูปแบบธุรกิจที่เป็นห้องเช่าเฉย ๆ และหอพักส่วนมากจะเป็นห้องลักษณะ Studio หากเปรียบกับคอนโดมิเนียม คือพื้นที่ให้เท่านี้ เป็นโจทย์ให้คิดเองว่าตรงไหนจะทำอะไร อาจจะต้องอาศัยความรู้ความถนัดของผู้อาศัยเองในการจัดระเบียบพื้นที่ห้อง ซึ่งถ้าหากใครมีพรสวรรค์หรือสามารถทำได้ก็ไม่มีปัญหา ทั้งนี้นั้น การได้ห้องใหญ่ห้องเล็ก (สัมพันธ์กับค่าเช่าว่าแพงไม่แพง) ผู้ต้องการเช่าอาศัยสามารถควบคุมได้เองมากกว่าด้วย (โดยการพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบ)
ความสงบและความเป็นส่วนตัว
คอนโดมิเนียม
ค่อนข้างมีมาก เนื่องจากจำกัดผู้เข้าอาคารให้มีเฉพาะผู้อาศัยเท่านั้น ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องมักจะไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไป หรือต้องเป็นแขกของผู้อาศัยในนั้นจริงๆ ดังนั้น คอนโดมิเนียมจึงมีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง เปอร์เซ็นต์ความวุ่นวายจากคนนอกที่อาจสร้างรำคาญใจให้มีน้อยกว่า
หอพัก
ขึ้นอยู่กับการเลือกเช่าอยู่ บางหอพักมีมาตรการงดให้คนนอกเข้าในอาคาร แต่บางที่ก็ไม่มีการควบคุมตรงนี้ ทำให้เปอร์เซ็นต์การเกิดความพลุกพล่านจากทั้งคนในเองหรือคนนอกมีโอกาสเกิดขึ้นได้มากกว่า ซึ่งถ้าหากอยู่ในระดับรับได้ก็อาจจะไม่เป็นไร แต่ถ้ารบกวนการใช้ชีวิตมากเกินไปก็อาจเป็นผลเสีย
พื้นที่ส่วนกลาง และ Facilities ที่ใช้ได้
คอนโดมิเนียม
คอนโดมิเนียมส่วนใหญ่มักจะมีส่วนนี้ให้ใช้ อาจมาในรูปแบบ Working space, Fitness เบสิกที่เกือบทุกโครงการจะมีให้อยู่แล้ว ซึ่งคนที่อยู่คอนโดฯก็จะได้ใช้ตรงนี้ไปด้วย ในวันที่ไม่อยากทำงาน อ่านหนังสืออยู่ห้อง ไม่อยากทำกิจกรรมแค่ในห้องแต่ไม่ได้ต้องการออกไปไหน ก็สามารถใช้ตรงนี้ได้
หอพัก
อาจจะเสียเปรียบส่วนนี้นิดหน่อยเพราะโดยส่วนมากแล้วหอพักจะไม่มีพื้นที่ส่วนกลางแบบนี้ให้ใช้ เต็มที่อาจจะเป็นแค่โซนนั่งเล่นเล็กน้อยเท่านั้น แล้วถ้ายิ่งอยู่ในโซนทำเลแออัด หรือทันสมัยใกล้เมืองมาก ๆ ก็อาจจะไม่มีเลย เพราะมูลค่าที่ดินจะค่อนข้างแพง ธุรกิจประเภทหอพักค่อนข้างจะเซฟส่วนนี้พอสมควร ซึ่งถ้าหากว่าไม่ได้ต้องการใช้ส่วนนี้ หรือไม่มีปัญหาเรื่องการมีฟังก์ชั่นตรงนี้ไว้รองรับก็ไม่เป็นไร
ระบบการรักษาความปลอดภัย
คอนโดมิเนียม
คอนโดมิเนียมดูมีภาษีตรงนี้มากกว่า เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีการซื้อขายจ่ายสูง แน่นอนว่าย่อมตามมาด้วยประสิทธิภาพที่มากกว่า รวมไปถึงเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการรักษาความปลอดภัยโดยคน (พนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดมิเนียม) หรือระบบรักษาความปลอดภัยโดยอุปกรณ์เทคโนโลยี (สัญญาณกันขโมยในตึก ระบบประตูอัจฉริยะ เป็นต้น)
หอพัก
จะบอกว่าน้อยกว่าก็ไม่ใช่ เท่ากันก็ไม่เชิง เพราะหอพักบางแห่งก็มีระบบการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดอยู่เหมือนกัน แต่อาจจะไม่เท่ากับคอนโดมิเนียมที่มีการเอาอุปกรณ์เทคโนโลยีมากประสิทธิภาพมาช่วยด้วย หรือมีการป้องกันมากกว่า 1 ชั้น โดยส่วนมากหอพักก็จะเป็นระบบประตูแบบธรรมดาเสียมากกว่า ซึ่งหากต้องการความปลอดภัยที่มากขึ้นอาจจะต้องพึ่งพาการดูแลตัวเองมากขึ้นร่วมด้วย
ทำเลที่ตั้ง และการเดินทาง
คอนโดมิเนียม
ส่วนใหญ่แล้ว ที่ตั้งของคอนโดมิเนียมแต่ละโครงการ จะอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก และเข้าถึงความเจริญ ความทันสมัยได้ง่าย อันเป็นจุดขายของคอนโดมิเนียมอยู่แล้ว จึงไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเท่าไหร่นัก ยิ่งบางแห่งก็ใกล้สถานศึกษาด้วย แหล่งชม ชิม ช็อป อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
หอพัก
กระจายอยู่ไปหลายโซน ตั้งแต่โซนไกลเมืองจนถึงอยู่ในเมือง มีทั้งแบบไปง่าย รถต่อเดียว หรืออาจจะต้องนั่งหลายต่อ โดยเรื่องทำเลที่ตั้งนี้จะมีผลต่อราคาค่าเช่าต่อเดือนด้วย หากใกล้เมือง ใกล้ห้าง ใกล้สถานศึกษา ใกล้สถานีรถไฟ ค่าเช่าอาจสูงถึงสูงมาก แต่ถ้าไกลออกไปหน่อยก็จะถูกลงมา
พื้นที่จอดรถ
คอนโดมิเนียม
มักจะมีให้อยู่แล้ว วัยรุ่นวัยเรียนที่มีรถขับกันแล้วน่าจะถูกใจ เพราะไม่ยุ่งยากเรื่องการหาที่จอดรถ เพราะการเช่าอยู่หรือซื้อคอนโดฯ ผู้อาศัยจะได้รับสิทธิจอดรถในพื้นที่โครงการอยู่แล้ว
หอพัก
อาจมีหรือไม่มี หรือมีแต่ไม่สามารถรองรับจำนวนรถได้พอดีห้อง (กรณี 1 ห้อง/1 คัน) ซึ่งอาจเป็นปัญหาได้หากในหอพักมีผู้อาศัยมีรถจำนวนมากกว่าพื้นที่จอดรถ ดังนั้นจึงค่อนข้างเหมาะกับคนที่ยังไม่มีรถส่วนตัวหรือใช้ขนส่งสาธารณะเป็นหลักอยู่แล้วมากกว่า
ความทันสมัย ใกล้แหล่งท่องเที่ยว ใกล้ไลฟ์สไตล์มอลล์ สำหรับการพักผ่อน
คอนโดมิเนียม
เหตุผลคล้ายหัวข้อทำเลที่ตั้ง เนื่องจากคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่มีจุดขายเรื่องใกล้แหล่งท่องเที่ยว แหล่งเดินทาง แหล่งไลฟ์มอลล์ต่างๆ อยู่แล้ว หากเลือกอยู่คอนโดฯ ก็อาจมีโอกาสได้ใกล้ชิดบรรยากาศแบบนี้มากกว่า
หอพัก
ขึ้นอยู่กับการเลือกหอพักของผู้อยู่อาศัย หากเลือกอยู่ในเมืองก็สามารถใกล้ชิดกับแหล่งไลฟ์มอลล์ได้ง่าย (สัมพันธ์กับค่าเช่าที่แพงขึ้นด้วย) หากเลือกอยู่ไกลก็อาจจะสัมผัสบรรยากาศเมืองคึกคักได้ยากกว่า แต่มีข้อดีตรงที่จะได้รับความสงบ เหมาะกับคนชอบอยู่สงบ ไม่ชอบแสงสีให้ยั่วยุใจมากเกินไป อยู่ที่ความชอบของใครล้วน ๆ
ความคุ้มค่า
คอนโดมิเนียม
คอนโดมิเนียมมีราคาแพงกว่า ด้วยความเป็นโครงการเช่าซื้อราคาสูง สะดวกสบายด้วยทำเลที่ตั้ง การเข้าถึง ความใกล้แหล่งกิน เที่ยว แหล่งถานที่ศึกษา หรือสำนักงานใหญ่ๆ สำคัญๆ ล้วนเป็นปัจจัยให้มีราคาค่อนข้างสูง ราคาเช่าอยู่ประมาณ 9,000-12,000+ บาท/เดือนได้ แล้วแต่ความใกล้ไกลแหล่งเจริญ
แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาก็ถือว่าคุ้มกับราคาที่จ่าย ด้วยอุปกรณ์ทันสมัย การดูแลที่ปลอดภัย ความเป็นสัดส่วนและประโยชน์ที่ได้รับต่างๆ ถือว่าคุ้มค่าสำหรับคนที่มีกำลังเช่าอยู่ หรือสำหรับคนที่มีกำลังทรัพย์และได้รับการสนับสนุนจากที่บ้านก็อาจจะซื้อไว้เลยก็คุ้มอยู่ดี หลังจากเรียนจบหรือหากต้องการโยกย้าย ก็สามารถเก็บไว้ปล่อยเช่าหรือขายต่อได้ อย่างไรเสีย ทำเลใกล้แหล่งโรงเรียน ใกล้ห้าง ใกล้รถไฟฟ้า การเดินทางมาสะดวกก็คุ้มทุนอยู่แล้ว
หอพัก
อาจไม่คุ้มค่าหากมองว่าเป็นการจ่ายไปเรื่อยๆ แต่ไม่ได้อะไรกลับมา ห้องก็ไม่ได้เป็นของเรา (ต่างจากการผ่อนจ่ายคอนโดฯ ไปเรื่อยๆ ซื้อเพื่อเป็นของตัวเอง) แต่ถ้าหากไม่ได้ต้องการเอามาเป็นทรัพย์สิน ไม่ได้ต้องการมีที่อยู่อาศัยในละแวกนั้นๆ การอยู่หอพักก็ไม่ได้แย่กว่ากัน
เหมาะสำหรับคนที่มาเพื่ออยู่เรียน อาศัยชั่วคราวในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้อยู่ตลอด เมื่อเสร็จกิจธุระก็ย้ายออก เปลี่ยนที่อยู่ใหม่ได้ไม่ต้องมีห่วง นอกจากนี้ การอยู่หอพักช่วยประหยัดกว่ามาก แม้หอพักที่อยู่ใกล้แหล่งกินแหล่งเที่ยว ราคาก็ยังถูกกว่าเช่าเป็นห้องชุดคอนโดมิเนียมอยู่ดี ส่วนเรื่องไลฟ์สไตล์ก็สามารถดัดแปลงพลิกแพลงให้เหมาะสมใกล้เคียงกับที่อยากมีได้ไม่จำเป็นต้องอาศัยในคอนโดมิเนียมเสมอไป
ตามหาห้องที่คุณต้องการได้ที่ ค้นหาห้องคอนโดให้เช่า
แน่นอนว่ายังมีปัจจัยส่วนบุคคลที่ต้องนำมาร่วมพิจารณา
ข้อมูลข้างต้น มาจากข้อมูลที่เห็นด้วยตาเปล่าจริงและจากการสอบถามวัยเรียนที่อาศัยจริงทั้งสองประเภท และสรุปได้ว่า ปัจจัยที่ควรยึดเป็นสำคัญคือ ความสะดวก และรูปแบบการใช้ชีวิตของแต่ละคน เพราะเรื่องนี้จะเกี่ยวพันไปถึงปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตด้วย
พูดตามความจริงแล้ว แต่ละคนก็มีข้อจำกัดของตัวเองอยู่ อาจจะเรื่องกำลังทรัพย์เองก็ดี หรือเหตุผลส่วนตัวอื่นใด ไม่ใช่ว่าการอยู่คอนโดมิเนียมย่อมดีกว่าหอพักอยู่แล้วเพราะฟังก์ชันครบครันกว่า ไม่เสมอไป เราที่เป็นผู้อาศัยอยู่จริงต่างหากที่จะตอบได้ดีที่สุดว่าเราเหมาะกับการอยู่แบบไหน อย่างไรก็ตาม ห้องของเรา ควรจะเป็นที่ ๆ เราสบายใจที่สุด สามารถทิ้งตัวลงได้อย่างสบายใจหลังเลิกเรียนกลับมา
บทความที่เกี่ยวข้อง
9 เหตุผลดีๆ ที่คนสมัยใหม่ หันมาสนใจเลือกซื้อคอนโด
ฤดูฝนมาถึงแล้ว เตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับปัญหายอดฮิตประจำฤดูกาล
Pre-sale และ Backlog คืออะไร? สำคัญกับการซื้อคอนโดหรือไม่?
เปลี่ยนห้องเก่าให้เฟรชเหมือนใหม่ด้วยของตกแต่งตามสไตล์ที่ชื่นชอบ