รวดเดียวจบ! เปรียบเทียบเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi ครบ 7 รุ่น เห็นสเป็กกันแบบชัด ๆ

อากาศบริสุทธิ์มีขาย ถ้าอยากได้ ต้องซื้อเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi ไปตั้งที่ห้องสักเครื่อง 

แต่หลายคนก็ยังคงปวดหัว ไม่รู้ว่าจะเลือกรุ่นไหนยังไงดี เพราะเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi เขาออกรุ่นมาถี่จนหลายคนลายตากว่า 7 รุ่น! แถมไส้กรอง Xiaomi ก็มีหลากสี หลายคุณสมบัติอีก วันนี้ Esto จะมาเทียบความต่างของเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi ทุกรุ่น ให้ทุกคนได้ทำความเข้าใจ รุ่นไหนเหมาะกับไลฟ์สไตล์ ใกล้เคียงกับขนาดห้อง และเหมาะสมกับราคามากที่สุด ตามไปดูกันได้เลย

เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi รุ่นไหนดี !?
รีวิวเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi ‘Mi Air Purifier Max’

เปิดประเดิมกันด้วยรุ่นใหญ่เบอร์แรงอย่างเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi รุ่น Mi Air Purifier Max กันก่อน รุ่นนี้บอกเลยว่าเป็นตัวท็อปสุดจากทั้งหมด 7 รุ่น รุ่นนี้เหมาะมากกับห้องขนาดใหญ่ เพราะรองรับการฟอกอากาศได้สูงสุดถึง 120 ตารางเมตร มาพร้อมไส้กรอง Xiaomi 3 ชั้น 2 ชิ้น (อยู่ทางด้านซ้ายและขวาของตัวเครื่อง) มีทั้ง Filter Pre, HEPA และ Carbon มาพร้อมจองแสดงผล OLED ระบบสัมผัส แจ้งสถานะของคุณภาพอากาศด้วยไฟสี, แจ้งโหมดการทำงาน, สถานะเชื่อมต่อ Wi-Fi, ค่าความชื้น และอุณหภูมิของห้องนั้น ๆ แบบ Real-Time มาพร้อมรูปแบบระบบเพิ่มแรงดันอากาศแบบใหม่ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกรองอากาศตามแต่ละขนาดห้อง แต่ก็ต้องยอมรับว่าตัวเครื่องมีขนาดค่อนข้างใหญ่และมีน้ำหนักมากที่สุดในทุก ๆ รุ่น ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับคนที่ใช้งานภายในพื้นที่ขนาดใหญ่อย่างบ้านมากกว่าคอนโดนั่นเอง

• คลิก เช็คราคา Mi Air Purifier Max ใน Shopee
• คลิก เช็คราคา Mi Air Purifier Max ใน Power Buy

เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi รุ่นไหนดี !?
รีวิวเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi ‘Mi Air Purifier Pro’

เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier Pro ถือเป็นรุ่นที่ให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกันกับรุ่น Mi Air Purifier Max แต่จะเหมาะกับห้องที่มีขนาดเล็กลงมาครึ่งหนึ่ง อยู่ที่ 60 ตารางเมตร ระบบมอเตอร์เป็นแบบคู่ DC Brushless กับ 2 ใบพัด สามารถดูดอากาศไม่บริสุทธิ์เข้าสู่ตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็ว ตัวไส้กรองเป็นแบบ 3 ชั้น เหมือนกัน แต่ทางด้านของจอแสดงผลรุ่นนี้จะเป็น OLED ปกติ ไม่มีระบบสัมผัส และเสียงของตัวเครื่อง จะดังกว่ารุ่น Mi Air Purifier Max เล็กน้อย และนำหนักเบาลงกว่าตัว Mi Air Purifier Max กว่าครึ่ง ถ้าใครอยากได้สเป็กแบบตัวท็อปในขนาดพอเหมาะสำหรับห้อง 30-60 ตารางเมตร อย่างคอนโดมิเนียม เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier Pro ถือว่าตอบโจทย์มากทีเดียว 

• คลิก เช็คราคา Mi Air Purifier Pro ใน Shopee

เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi รุ่นไหนดี !?
รีวิวเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi ‘Mi Air Purifier 2S’

มาถึงรุ่นยอดนิยมอีกรุ่นอย่างเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier 2S รุ่นนี้บอกเลยตอบโจทย์คนคอนโดค่อนข้างมากทีเดียว เพราะถึงแม้ตัวจะเล็ก แต่สเป็กก็เรียกได้ว่ายังดีงามอยู่ โดยเจ้าตัวนี้สามารถผลิตอากาศบริสุทธิ์ได้อยู่ที่ 310 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ภายในห้องขนาดกว้างสูงสุด 37 ตารางเมตร เหมาะจะวางไว้ในห้องนอนมาก ๆ มาพร้อมมอเตอร์เดี่ยว Nidec จากญี่ปุ่น กับระบบ 2 ใบพัด (Classic Tower-Style) ทำให้สามารถดูดอากาศไม่บริสุทธิ์เข้าสู่ตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็ว แถมหน้าจอ OLED ก็แสดงผลแบบเดียวกันกับรุ่น Max และ Pro แต่ตัวนี้จะไม่ได้ในส่วนของไส้กรอง Xiaomi HEPA เหมือนกับรุ่น Max และ Pro แต่ตัวที่ได้มาอย่าง EPA ก็ถือว่ามีประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกับ HEPA มากแล้ว เพราะยังสามารถกรองฝุ่นที่มีขนาด 0.3 ไมครอนได้อยู่ (PM 2.5 ยังเอาอยู่นะ) แถมราคายังย่อมเยาว์ลงไปอีก ถ้าไม่ได้ซีเรียสเรื่องไส้กรอง Xiaomi HEPA เครื่องฟอกอากาศ Mi Air Purifier 2S ตัวนี้ ก็เป็นอีกตัวเลือกสำหรับคนงบจำกัดที่น่าซื้อมากทีเดียว

• คลิก เช็คราคา Mi Air Purifier 2S ใน Shopee

เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi รุ่นไหนดี !?
รีวิวเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi ‘Mi Air Purifier 3H’

แต่ถ้าใครยังกังวล อยากได้ไส้กรอง Xiaomi HEPA อยู่ เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier 3H ตัวนี้บอกเลยตอบโจทย์ เพราะสามารถใช้งานในพื้นที่ได้ในขนาดใกล้เคียงกัน (เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 45 ตารางเมตร) และยังมีไส้กรอง Xiaomi HEPA มาให้ด้วย ส่วนหน้าจอ OLED ก็มาแบบระบบสัมผัส ทัชได้ทันที ใช้งานง่ายขึ้น แน่นอนว่าขนาดห้องสำหรับคอนโดและห้องนอนภายในบ้าน ก็ยังเหมาะกับรุ่นนี้อยู่ ตัวใบพัดมาในรูปแบบใบพัดทรงหอยโข่ง ทรงพลังมากขึ้นจากรุ่น 2S รูปแบบการระบายก็ดีกว่าอีกด้วย ดังนั้นหากเพิ่มเงินอีกนิดหน่อยสำหรับคนมีงบถึง แค่นี้ก็ได้คุณสมบัติเพิ่มเติมที่เก๋กว่า เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier 2S แล้ว

• คลิก เช็คราคา Mi Air Purifier 3H ใน Shopee

เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi รุ่นไหนดี !?
รีวิวเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi ‘Mi Air Purifier 2H’

แต่ถ้าใครงบไม่ถึง แต่ยังอยากได้ไส้กรอง Xiaomi HEPA อยู่ล่ะก็ ยอมเสียจอ OLED ลดสเป็กเซ็นเซอร์ลงมาอีกหน่อย ลดตารางเมตรในการใช้งานสุงสุดอีกนิด เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier 2H ก็น่าสนใจ แต่ถ้าจะให้เทียบความคุ้มค่าแล้วล่ะก็ แนะนำว่าซื้อ 3H ไปเลยจะดีกว่า เพราะราคาปัจจุบันใกล้เคียงกันเพียงแค่หลักร้อยเท่านั้นเอง!

• คลิก เช็คราคา Mi Air Purifier 2H ใน Shopee

เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi รุ่นไหนดี !?
รีวิวเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi ‘Mi Air Purifier 2’

หรือลองเปลี่ยนระบบเซ็นเซอร์เป็น Sensirion AG แบบไม่มีจอแสดงผล OLED เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier 2 ตัวนี้ ก็จะเพิ่มขนาดห้องที่เหมาะกับการใช้งานขึ้นมาอีกเล็กน้อย แต่ยังคงได้ไส้กรอง Xiaomi HEPA มาให้อุ่นใจ เพราะสเป็กหลักถือว่าใกล้กับรุ่น 2H มาก ต่างกันเฉพาะตัวเซ็นเซอร์ตรวจจับเท่านั้น และราคาตัวนี้ที่ออกมาก่อนทำให้ตกรุ่น จนมีราคาที่ถูกกว่าเล็กน้อย น้อง ๆ นักศึกษางบน้อยจริง ๆ ซื้อเป็นตัวนี้ไว้ใช้ในหอพักก็ยังโอเคอยู่

เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi รุ่นไหนดี !?
รีวิวเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi ‘Mi Air Purifier 2C’

ปิดท้ายด้วยเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier 2C ตัวนี้ลดสเป็กไส้กรอง Xiaomi ลงมาเหลือเพียง 2 ชั้นเท่านั้น แต่รองรับขนาดห้องได้มากขึ้นจากรุ่น 2 สูงสุดถึง 42 ตารางเมตร ตัวนี้เป็นรุ่นที่สั่งผลิตและขายที่ประเทศอินเดียโดยเฉพะ แต่ก็มีเจ้าที่รับรุ่นนี้เข้ามาขายในไทยสักพักหนึ่งแล้วเหมือนกัน ข้อเสียหลัก ๆ เลยคือเชื่อมต่อแอปไม่ได้ ระบบใช้งานอย่างการตั้งเวลาและโหมดนอนหลับก็ไม่มีมาให้ด้วย ถ้าราคาต่ำสุดในท้องตลาดยังใกล้เคียงกันกับรุ่นอื่น ๆ ก็ยังไม่แนะนำเท่าไรนัก แต่ถ้าราคาตกลงได้มากกว่านี้อีกสักหน่อย น้อง ๆ นักศึกษางบน้อยน่าจะซื้อติดหอกันได้สบายมากขึ้น

• คลิก เช็คราคา Mi Air Purifier 2C ใน Shopee

หวังว่าการเปรียบเทียบสเป็กแบบชัด ๆ ของทั้ง 7 รุ่น จะเป็นส่วนช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อเจ้าเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi ได้ไม่มากก็น้อย ยุคนี้ถ้าการป้องกันเพียงอย่างเดียวก็อาจไม่เพียงพอกับคุณภาพชีวิตของเราแล้ว ทางทีดีก็ควรจะต้องรีบหาตัวช่วยผลิตอากาศบริสุทธิ์ดี ๆ ติดห้องนอน, ติดคอนโด, ติดบ้านกันไว้สักเครื่อง รับรองว่าเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพในระยะยาวที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน