อยู่คอนโดยังไงให้ Feel like Home
11 July 2562
ในปัจจุบันคนได้ให้ความนิยมพักอาศัยอยู่คอนโดกันมากขึ้น เนื่องจากคอนโดมักจะมีทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหรือใกล้บริการขนส่งสาธารณะทำให้สะดวกสบายในการเดินทาง นอกจากนี้ยังมีบริการและพื้นที่ส่วนกลางสำหรับรองรับผู้พักอาศัยที่หลากหลาย สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เหล่านี้เองที่ทำให้คนสนใจอยู่คอนโดมิเนียมกันมากขึ้น
แต่หลายท่านก็ยังคงติดความรู้สึกของบ้านเดี่ยวอยู่ ผู้ออกแบบคอนโดมิเนียมในปัจจุบันจึงได้ออกแบบห้องพักให้มีความรู้สึกคล้ายอยู่บ้านเดี่ยวกันมากขึ้น ว่าแต่จะมีคอนโดมิเนียมสไตล์ไหนบ้างที่ให้ความรู้สึกแบบ Feel like Home เรามาทำความรู้จักกันเลยดีกว่า
DUPLEX
Duplex เป็นห้องที่มี 2 ชั้นภายในยูนิตเดียว โดยมีทั้งแบบ Double Space และแบบเต็มชั้น (ไม่มีช่องเปิดระหว่างชั้น) ห้องประเภทนี้จะมีพื้นที่ใช้สอยมากและจากพื้นถึงฝ้าเพดานมีความสูง 2.40 เมตรขึ้นไปจึงทำให้ห้องดูกว้างขวาง แต่เนื่องจากพื้นที่ชั้น 2 นับเป็นพื้นที่ใช้สอยตามโฉนดจึงทำให้ห้องประเภทนี้มีราคาสูงตามไปด้วยนั่นเอง
ข้อดี
- มีพื้นที่ใช้สอยมาก
- ฝ้าเพดานสูง ทำให้ดูโปร่งโล่ง
- บันไดกว้าง, มีชานพักและได้มาตราฐาน
- มีการกั้นห้องแบ่งพื้นที่ชัดเจน
- มีความปลอดภัยสูงเนื่องจากมีประตูทางออกในกรณีเกิดไฟไหม้ทั้ง 2 ชั้น
ข้อเสีย
- ราคาค่อนข้างสูง
- เนื่องจากชั้น 2 นับเป็นพื้นที่ใช้สอยตามโฉนดจึงนำมาคิดตอนจ่ายค่าส่วนกลางด้วย
- ห้องที่มี Double Space จะทำให้เปลืองไฟเรื่องค่าแอร์หากไม่มีการกั้นห้องที่ดี
- บันไดกว้าง จึงทำให้กินพื้นที่ใช้สอยภายในห้อง
LOFT
Loft ดูเผินๆ แล้วจะมีลักษณะคล้ายกับห้องแบบ Duplex เนื่องจากจะมีการทำห้องให้เป็น 2 ชั้นหรือมีชั้นลอยภายในห้อง แต่ข้อแตกต่างของ Loft คือความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานของชั้น 2 จะมีความสูงน้อยกว่า 2.40 เมตร ซึ่งน้อยกว่าห้องแบบ Dulpex จึงทำให้พื้นที่ชั้น 2 ดูไม่โปร่งโล่งเหมือนชั้นล่าง และบันไดภายในห้อง Loft จะแคบและไม่มีชานพัก เนื่องจากพื้นที่ชั้น 2 ของห้อง Loft ตามกฎหมายแล้วนับเป็นเพียงพื้นที่ตกแต่งเท่านั้น จึงไม่นับเป็นพื้นที่ใช้สอยในโฉนดและไม่มีประตูหนีไฟที่ชั้นบน
ข้อดี
- พื้นที่ใช้สอยเยอะ
- ฝ้าเพดานสูง ทำให้ดูโปร่งโล่ง
- ราคาไม่สูงมากนัก
- ไม่ต้องเสียค่าพื้นที่ส่วนกลางแพง เนื่องจากพื้นที่ชั้น 2 ไม่นำมาคิดเป็นพื้นที่ใช้สอย
ข้อเสีย
- ชั้น 2 มีฝ้าเพดานเตี้ยกว่าชั้นล่าง ในบางห้องอาจสูงเพียง 1.60 เมตรเท่านั้น
- เปลืองค่าไฟในส่วนของแอร์ เนื่องจากห้องมี Double Space
- บันไดแคบ และไม่มีชานพัก
- ไม่มีประตูหนีไฟที่บริเวณชั้นบน
PENTHOUSE
Penthouse มักจะมีอยู่ในแทบทุกคอนโดมิเนียม โดยห้องเพนท์เฮ้าส์จะแตกต่างจะห้องอื่นๆ ตรงที่มีขนาดใหญ่กว่ามาก โดยจะกินเนื้อที่ทั้งชั้นของคอนโดมิเนียมและมีการตกแต่งภายในห้องแบบบ้านเดี่ยว จึงทำให้เพนท์เฮาส์มีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่เมื่อเทียบราคากับบ้านเดี่ยวใจกลางเมืองแล้ว การอยู่เพนท์เฮาส์ใจกลางเมืองก็จะมีราคาที่ถูกกว่าและยังมีหลากหลายสไตล์ให้ได้เลือกมากกว่าบ้านเดี่ยว โดยมีตั้งแต่เพนท์เฮ้าส์ธรรมดาไปจนถึงระดับ Luxury
ข้อดี
- กว้างขวาง มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ
- มีความเป็นส่วนตัวสูง
- มีการแบ่งห้องเป็นสัดส่วน
- มีให้เลือกหลายระดับราคา
ข้อเสีย
- ราคาแพง
- ในคอนโดมิเนียมหนึ่งตึกจะมีเพียงไม่กี่ห้อง จึงทำให้ยากต่อการจับจอง
COMBINE
Combine คือการรวมห้องในกรณีที่ซื้อคอนโดมิเนียม 2 ห้องติดกันแล้วต้องการจะรวมเป็นห้องเดียว หรือรวมจาก 2 ห้องนอนเล็กให้เป็น 1 ห้องนอนใหญ่ เป็นต้น แต่การจะรวมห้องต้องผ่านการอนุมัติจากทางคอนโดมิเนียมก่อนว่าสามารถรื้อกำแพงหรือโครงสร้างได้โดยไม่กระทบกับโครงสร้างหลัก
ข้อดี
- เพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้มากขึ้น
- สามารถออกแบบพื้นที่ภายในห้องเองได้
ข้อเสีย
- มีข้อจำกัดเรื่องโครงสร้าง และเรื่องสัญญาประกันกับทางคอนโดมิเนียม
- ต้องคำนวนให้ดีว่าการรวมห้องนั้นประหยัดกว่าการซื้อห้องใหญ่หรือไม่
เป็นยังไงกันบ้างกับห้องทั้ง 4 สไตล์ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเดี่ยวสุดๆ เลยใช่ไหมล่ะ ที่สำคัญห้องทั้ง 4 สไตล์นี้ยังออกแบบมาเพื่อรองรับผู้อยู่อาศัยแบบครอบครัวใหญ่ ด้วยเนื้อที่ของห้องที่กว้างขวางจึงทำให้สามารถอยู่กันแบบครอบครัวใหญ่ได้อย่างไม่อึดอัด และยังมีการแบ่งฟังก์ชันการใช้งานให้เป็นสัดส่วนเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย เรียกได้ว่าสามารถตอบโจทย์ของทุกคนในครอบครัวได้ดีไม่แพ้บ้านเดี่ยวเลยทีเดียว
อยากหาห้องคอนโดให้ feel like home ลองดูที่นี่สิ https://www.estopolis.com/ค้นหาคอนโด/เช่าคอนโด
บทความที่เกี่ยวข้อง
1 แบบแปลน 5 คาแรคเตอร์ ในการสร้างพื้นที่ภายในคอนโดให้เหมาะกับตัวคุณ
เลือกปรับให้ถูกจุด กับการเปลี่ยนฟังก์ชั่นจาก 3 แบบแปลนยอดนิยมภายในคอนโดฯ
แต่งคอนโดฯ ด้วย 4 เทรนด์การออกแบบ ให้เข้ากับ Lifestyle คนรุ่นใหม่