ESTOPOLIS I เกษียณยังไงให้อยู่สบาย? แนะนำการลงทุนหลังเกษียณยังไง ให้มีเงินใช้ไม่ขาดมือ

11 March 2562

เตรียมความพร้อมให้กับตนเองก่อนวัยเกษียณ ด้วยศึกษาการลงทุนที่ช่วยทำให้หลังเกษียณอายุอยู่สบาย มาฟังคำแนะนำการลงทุนให้ชีวิตหลังเกษียณมีกินมีใช้...มาดูกันดีกว่าว่า คนไทยจะต้องเตรียมเงินไว้เท่าไร และจะต้องลงทุนหลังเกษียณยังไงให้ชีวิตในบั้นปลายอยู่ได้สบายแบบไม่ขัดสน!

อย่างที่เรารู้กันดีว่า ในปัจจุบันประเทศไทยกำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ สังคมผู้สูงอายุ หรือ Age Society ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นความท้าทายต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศเราเป็นอย่างมาก เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่ยังตกอยู่ในสภาวะ 'แก่ก่อนรวย' ส่งผลให้คนสูงอายุในประเทศไทยไม่มีรายได้เพียงพอไว้ใช้ในยามเกษียณ

สำหรับพนักงานประจำที่ได้ชื่อว่า 'มนุษย์เงินเดือน' อย่างเราๆ คงจะไม่มีใครอยากทำงานไปตลอดชีวิตหรือตกอยู่ในสภาวะแก่ก่อนรวยแบบคนส่วนใหญ่ ดังนั้นการลงทุนก่อนวัยเกษียณจึงเป็นทางออกที่ช่วยให้ชีวิตหลังเกษียณมีความสุขมากขึ้น แต่สำหรับใครที่ไหวตัวหรือเริ่มคิดวางแผนหลังวัยเกษียณช้าไปหน่อย การลงทุนทำอะไรสักอย่างหลังวัยเกษียณจากเงินเก็บที่มีอยู่ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้เงินในกระเป๋างอกเงยได้

ในวันนี้ ESTOPOLIS ของเราจึงนำเอาคำแนะนำด้านการลงทุนหลังเกษียณ แต่ในช่วงก่อนเกษียณก็สามารถทำได้มาฝากกัน มาดูกันดีกว่าว่า จะมีวิธีการลงทุนแบบไหนบ้างที่คนใกล้เกษียณหรืออยู่ในวัยเกษียณนิยมทำกัน ตามไปดูพร้อมๆ กันเลย

ก่อนถามว่าเกษียณแล้วจะลงทุนอะไรดี คุณมีเงินเก็บมากพอหรือยัง

แต่ก่อนจะหาวิธีการลงทุนมาสนุบสนุนการใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลาย เราลองมาคำนวณจากระยะเวลาการทำงานในช่วงชีวิตนี้ของเรากันก่อนดีกว่าว่า ระยะการทำงานที่ผ่านมาทั้งหมดนี้จะทำให้เรามีเงินเก็บเพียงพอต่อช่วงวัยเกษียณจริงๆ ใช่ไหม?

หลังจากเกษียณอายุแล้วเราก็คงจะอยากใช้เวลาไปกับการพักผ่อน ดังนั้น ใครที่อยากจะลงทุนแต่ไม่มีเวลา การลงทุนด้วยการซื้อกองทุนรวมที่มี 'ผู้จัดการกองทุน' ก็ถือว่าเป็นทางออกสำหรับการทำเงินให้งอกเงย โดยการลงทุนในกองุนรวมจะมีให้เลือกหลายแบบตามนโยบายการลงทุนของแต่ละกองทุน ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่ากองทุนที่เราร่วมลงทุนไปจะเป็นแบบปันผลหรือไม่

สมมติว่า เราเริ่มต้นทำงานตอนอายุ 25 ปี และอยากเกษียณอายุในช่วงไม่เกิน 55 ปี นั่นแปลว่าเรามีเวลาทำงานทั้งหมด 30 ปี แต่เราต้องหาเงินเลี้ยงตัวเองตั้งแต่อายุ 25 ปี ไปจนถึงอายุประมาณ 85 ปีตามค่าเฉลี่ยอายุของคนไทย เท่ากับเราต้องมีเงินเลี้ยงตัวเองทั้งหมด 60 ปีตั้งแต่เริ่มทำงานไปจนถึงเสียชีวิต

ก่อนจะเริ่มคิดว่า จะลงทุนอะไรดีหลังเกษียณ เรามาดูกันก่อนว่า เราสามารถทำงาน 1 เดือนเพื่อเลี้ยงตัวเอง 2 เดือนได้จริงๆ หรือเปล่า? เพราะนี่เท่ากับว่า เราต้องออมเงินเดือนเอาไว้อย่างน้อย 50% ของรายได้ ถึงจะอยู่สบายในช่วงบั้นปลายชีวิตนั่นเอง!

คนไทยเกษียณอายุช่วง 55 - 60 ปี แล้วแบบนี้จะลงทุนอะไรดีหลังเกษียณถึงจะสบาย

คำตอบของการเก็บออมเงิน 50% นี้จึงตกไปอยู่ที่ 'การลงทุน' และ 'การบริหารเงิน' โดยทั้งสองเรื่องนี้เราสามารถทำได้ทั้งก่อนและหลังเกษียณอายุ ซึ่งถ้าใครมีเงินทุนดีอยู่แล้วก็อาจจะใช้วิธีการบริหารเงินเพียงอย่างเดียว แต่สำหรับใครที่อยากจะลงทุนเพิ่มเติมหลังช่วงวัยเกษียณอายุ เราก็มี 6 วิธีการลงทุนที่เหมาะสำหรับวัยเกษียณมาฝากกัน

ลงทุนอะไรดีหลังวัยเกษียณ : แนะนำการลงทุนหลังเกษียณด้วยการ 'ฝากเงิน'

สำหรับใครที่เข้าใกล้วัยเกษียณหรือเกษียณอายุแล้วแต่ไม่รู้ว่าจะลงทุนอะไรดี ง่ายที่สุดเลยก็คือ การลงทุนฝากเงินกับธนาคาร เพราะมีความปลอดภัยสูง โดยเราจะได้ดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.5-3% ยกเว้นในกรณีที่พ่วงประกันชีวิตอาจจะได้ดอกเบี้ยมากกว่า 3% จึงเหมาะกับคนที่กำลังมีความคิดว่าจะลงทุนอะไรดีหลังเกษียณ เพราะมีเงินก้อนใหญ่ อย่างเช่น เงินบำเหน็จหรือเงินชดเชยจากการทำงาน เป็นต้น

แนะนำการลงทุนหลังเกษียณ คนหลังเกษียณลงทุนอะไรดี ลงทุนอะไรดีหลังเกษียณ

ซึ่งการฝากเงินกับธนาคารที่ได้ผลดี เราควรคำนวณจากเงินที่เราอยากใช้จ่ายในแต่ละเดือน เช่น เราต้องการใช้เงินเดือนละ 5,000 บาท หากเราเปิดบัญชีเงินฝากได้ดอกเบี้ย 3% แสดงว่าเราต้องมีเงินฝาก 2 ล้านขึ้นไป จึงจะได้จำนวนเงินตามต้องการ

ลงทุนอะไรดีหลังวัยเกษียณ : แนะนำการลงทุนหลังเกษียณด้วยการซื้อ 'สลาก'

ใครที่คิดไม่ออกว่าเกษียณแล้วจะลงทุนอะไรดี เราขอแนะนำให้เลือกลงทุนด้วยการซื้อสลาก ไม่ว่าจะเป็นสลากออมสินหรือสลากธ.ก.ส. ซึ่งเป็นการออมเงินที่คล้ายกับการฝากประจำ โดยดอกเบี้ยจะอยู่ที่ประมาณ 1.5-1.75% ต่อปี ขึ้นอยู่กับจำนวนปีที่ฝาก แต่จุดที่แตกต่างก็คือ การได้ลุ้นโชค เพราะทุกเดือนจะมีการลุ้นรางวัลเลขท้าย (คล้ายกับการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล) และไม่ต้องเสียภาษี เหมาะสำหรับคนที่อยากหาอะไรสนุกๆ ทำ แต่ไม่อยากเสียเงินต้นไปกับการลงทุน

ลงทุนอะไรดีหลังวัยเกษียณ : แนะนำการลงทุนหลังเกษียณด้วยการซื้อ 'ตราสารหนี้'

ขยับผลตอบแทนให้สูงขึ้นด้วยการลงทุนหลังวัยเกษียณด้วยการนำเงินไปซื้อตราสารหนี้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อพันธบัตรรัฐบาล หรือหุ้นกู้ เราก็จะกลายเป็นเจ้าหนี้ที่ได้ผลตอบแทนแบบสม่ำเสมอตามอัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาที่กำหนด ประมาณ 3-5% ต่อปี จึงเหมาะกับคนวัยเกษียณที่อยากลงทุนในรูปแบบที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่ได้รับผลตอบแทนดีกว่าการฝากเงินประจำ

ลงทุนอะไรดีหลังวัยเกษียณ : แนะนำการลงทุนหลังเกษียณด้วยการซื้อ 'กองทุนรวม'

หลังจากเกษียณอายุแล้วเราก็คงจะอยากใช้เวลาไปกับการพักผ่อน ดังนั้น ใครที่อยากจะลงทุนแต่ไม่มีเวลา การลงทุนด้วยการซื้อกองทุนรวมที่มี 'ผู้จัดการกองทุน' ก็ถือว่าเป็นทางออกสำหรับการทำเงินให้งอกเงย โดยการลงทุนในกองุนรวมจะมีให้เลือกหลายแบบตามนโยบายการลงทุนของแต่ละกองทุน ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่ากองทุนที่เราร่วมลงทุนไปจะเป็นแบบปันผลหรือไม่

แต่ถ้าเป็นคนวัยทำงานที่ใกล้เกษียณอายุ เราขอแนะนำให้ลงทุน กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund: RMF) ที่สนับสนุนให้ลงทุนต่อเนื่องไปจนถึงอายุ 55 ปีไว้ก่อนใกล้เกษียณ เพื่อเป้าหมายการทางการเงินก่อนวัยเกษียณที่หลังจากนั้นเราสามารถนำไปลงทุนต่อยอดอื่นๆ ได้อีกมาก

ลงทุนอะไรดีหลังวัยเกษียณ : แนะนำการลงทุนหลังเกษียณด้วย 'หุ้น'

ส่วนคุณๆ ในวัยเกษียณที่ยังชื่นชอบความเสี่ยงและมีเวลาเต็มที่ให้กับการลงทุน เราขอแนะนำการลงทุนหลังเกษียณด้วยหุ้น เพราะให้ผลตอบแทนได้ดี มีหลากหลายประเภทที่น่าสนใจ แต่ก็ควรที่จะเลือกลงทุนกับหุ้นที่มีความมั่นคงสูง ราคาไม่เปลี่ยนแปลงแบบหวือหวา เพราะอาจจะทำให้เงินก้อนที่เราสะสมมาสูญไปแบบเปล่าประโยชน์ได้

ลงทุนอะไรดีหลังวัยเกษียณ : แนะนำการลงทุนหลังเกษียณด้วย 'อสังหาฯ'

ใครที่กังวลกับเรื่องของเงินเฟ้อที่จะส่งผลกระทบต่อทรัพย์สินที่เราลงทุน เราขอแนะนำให้คนหลังเกษียณอายุเลือกลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นการลงทุนระยะยาว โดยเงินลงทุนจากอสังหาริมทรัพย์จะมาจากค่าเช่าหรือกำไรส่วนต่างราคาซื้อขายที่มักปรับตัวไปตามอัตราเงินเฟ้อ เพียงแต่ข้อเสียของการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ก็คือ เรื่องสภาพคล่องที่อาจไม่สูงมากนัก เพราะต้องใช้เงินเย็นในการลงทุน จึงเหมาะสำหรับคนอยากลงทุนเก็งกำไรในระยะยาวหลังเกษียณอายุ

ESTOPOLIS แนะนำ :

อ่านวิธีการลงทุนอสังหาฯ ที่คนหลังเกษียณสามารถสร้างผลตอบแทนได้ง่ายๆ ที่

รู้แล้วว่าจะลงทุนอะไรดีหลังวัยเกษียณ แต่อย่าเพิ่งใจร้อน

อย่างที่เขาว่ากันว่า ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ควรศึกษาให้ดีก่อนเริ่มการลงทุน และยิ่งเราเป็นคนในวัยเกษียณอายุด้วยแล้ว การวางแผนใช้เงินหลังเกษียณ รวมถึง การจัดพอร์ตการลงทุน จึงเป็นเรื่องสำคัญ เราควรรู้จักการกระจายความเสี่ยงในทรัพย์สินหลายๆ ประเภท เช่น ลงทุนกับตราสารหนี้ไทย ตราสารหนี้ต่างประเทศ หุ้น ทองคำ น้ำมัน อสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ เป็นต้น ในสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุนแบบโดยรวม และอาจช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนได้แม้จะอยู่ในวัยเกษียณอายุแล้วก็ตาม

อ้างอิง :

บทความที่เกี่ยวข้อง