รีวิวการแต่งบ้านหรูในสไตล์คลาสสิก ด้วยฝีมือบริษัทอินทีเรียหรู ‘Mepitree’

ทำความรู้จักกับ ‘Mepitree’ บริษัทอินทีเรียที่จะช่วยเนรมิตที่อยู่อาศัยให้เป็นไปตามโจทย์ของลูกค้าด้วยแนวคิดการออกแบบบ้านที่เน้นการสร้างงานจากรายละเอียดและองค์ประกอบที่แม่นยำ จนสามารถสรรค์สร้าง ‘บ้านในฝัน’ ที่สมบูรณ์แบบออกมาได้อย่างแท้จริง

โดยในบทความนี้ Estopolis จะขอนำเสนอฝีไม้ลายมือผ่านการแต่งบ้านหรูที่เจ้าของมีไลฟ์สไตล์เป็นเอกลักษณ์ แต่ Mepitree ก็สามารถจับเอาข้อมูลเชิงลึก (Insight) ในความเป็นตัวตนของผู้อยู่อาศัยออกมาสร้างเป็นงานตกแต่งที่สวยงามและลงตัว

…บ้านหรูในฝันหลังนี้จะเป็นอย่างไร ตามไปชมพร้อมๆ กันเลยดีกว่า

Mepitree บริษัทอินทีเรียกับการออกแบบแนวคิด : ช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์และสงบ

การแต่งบ้านหรูหลังนี้ไม่ใช่แค่ความสวยงาม แต่ยังเจาะลึกถึงความต้องการของผู้อยู่อาศัยรวมถึงลักษณะของการใช้ชีวิต เพื่อออกแบบให้ ‘บ้านเป็นมากกว่าบ้าน’ นั่นคือ ต้องเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมที่โอบอุ้มทุกอณูความสุขของเจ้าของบ้านให้สามารถใช้ทุกตารางเมตรได้อย่างคุ้มค่าและลงตัวกับไลฟ์สไตล์ได้มากที่สุด

จากการถอดรหัสตัวตนของเจ้าของบ้านหลังนี้ Mepitree พบว่า เจ้าของบ้านเป็นบุคคลที่ชื่นชอบการทำกิจกรรม มีสังคมและเพื่อนที่มักจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาพบปะสังสรรค์กันอยู่เป็นประจำ ตามสไตล์ของนักธุรกิจในวัยที่กำลังมีวิสัยทัศน์และประสบความสำเร็จในหลายๆ ด้าน

การจะออกแบบบ้านให้ตอบโจทย์กับลักษณะการใช้ชีวิตเช่นนี้ ทีมสถาปัตยกรรมและนักออกแบบของบริษัทอินทีเรีย Mepitree จึงต้องทำการวางแผนแต่งบ้านหรูทั้งการออกแบบภายใน (Interior Design) และการตกแต่งภายนอก (Exterior Design) ให้ออกมาเสมือนกับบ้านนี้สร้างเสร็จแล้ว เพื่อนำเสนอให้กับเจ้าของบ้านได้เห็นว่าคุณภาพและการออกแบบที่เหนือกว่า แถมยัง Mix & Match กับลักษณะการใช้ชีวิตได้ทุกกระเบียดนิ้วเป็นอย่างไร หลังจากนั้นทีมงานของ Mepitree ได้เริ่มโครงการนี้โดยใช้เวลาในการตกแต่งรวมแล้วเพียง 6 เดือนเท่านั้นก็สามารถรังสรรค์บ้านในฝันออกมาตามที่เจ้าของบ้านต้องการได้แล้ว

ด้วยเอกลักษณ์และไลฟ์สไตล์การอยู่การอาศัยของตัวเจ้าของบ้านทำให้ Mepitree หยิบเอางานศิลปะ Modern และ Futuristicm หลอมรวมเข้ากับความคลาสสิกและความสุนทรียศาสตร์ของงานด้านวัสดุ โดยเลือกใช้เป็นงานเนื้อไม้แท้ มีการเดินหมุดทองเหลือง รวมถึงการเลือกใช้บัวฝ้าในสไตล์โรแมนติกที่ทั้งอารมณ์แบบคลาสสิกและความรู้สึกร่วมสมัยจากงานโมเดิร์นแบบสมัยใหม่

Mepitree ได้ทำการออกแบบตัวบ้านให้มีส่วนผสมของความคลาสสิกและความทันสมัยในทุกพื้นที่ อย่างการเลือกใช้พื้นผิวของงานไม้ที่มีกลิ่นอายแบบคลาสสิก ซึ่งช่วยนำเสนอความประณีตและฝีมือของช่างไม้และช่างโลหะที่เริ่มหาได้ยากในปัจจุบัน มาใช้ในการออกแบบเพื่อเป็นตัวชูโรงหลัก ตัวงานย้อมไม้ดูแล้วสมบูรณ์แบบ งานตอกหมุดก็เน้นความพิถีพิถัน ในส่วนของงานเดินบัวฝ้าเองก็ต้องทำการคำนวณการสร้างให้ลงตัวตามอัตราส่วนที่ดูสวยงาม โดยการหยิบยกการออกแบบในสไตล์นี้ขึ้นมานั้นนอกจากความสวยงามแล้วยังช่วยส่งเสริมและแสดงถึงมูลค่าของไลฟ์สไตล์บริเวณโถงชั้นล่างได้เป็นอย่างดี

ในด้านการเกลี่ยสี (Gradient) ภายในตัวบ้าน ก็ใช้วิธีการเกลี่ยสีวัสดุจริงและสีขาวให้ดูกลมกลืน เพื่อให้เข้ากับคอนเซปต์ที่เน้นความเรียบง่ายและความชัดเจน ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญและเป็นภาษาทางการออกแบบของบ้านหลังนี้ไปโดยปริยาย

นอกจากการเกลี่ยสีจะเป็นการสื่อถึงคอนเซปต์แล้วยังเป็นการสร้างสุนทรียภาพให้กับการอยู่อาศัย โดย Mepitree พยายามที่จะทำให้เจ้าของบ้านได้ใช้ชีวิตอยู่ในห้วงเวลาที่เรียกว่า ‘การเปลี่ยนสู่ความสงบ’ เนื่องจากพื้นที่ (Space) ภายในตัวบ้าน โดยเฉพาะโซนห้องส่วนตัวทั้งหมดนี้คือ พื้นที่ส่วนตัวที่สามารถใช้เป็นพื้นที่สำหรับการพักผ่อน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่คนจากภายนอกไม่สามารถเข้าถึงได้ ทำให้เจ้าของบ้านได้เข้าใกล้สู่คำว่าสงบได้อย่างแท้จริง

จะเห็นว่าการแต่งบ้านหรูหลังนี้มีส่วนผสมของความเป็นไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยทั้งในด้านการเป็นนักธุรกิจหนุ่มที่มีสังคมเพื่อนฝูงมากมายและความต้องการบ้านที่เป็นสถานที่พักผ่อน ให้สามารถหลบเร้นแฝงตัวอยู่กับความสงบได้อย่างไร้กังวล Mepitree คำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดจึงออกแบบตัวบ้านมาให้เป็นพื้นที่แห่งความสุขและยังสามารถสะท้อนอัตลักษณ์ตัวบุคคล รวมถึงการเป็นบริษัทอินทีเรียหรูที่มีสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์เอาไว้ได้อย่างลงตัว