อยู่ยังไงให้สบาย ? กับระยะการใช้งานภายในคอนโด ที่ใครหลายคนมองข้าม

ระยะการใช้งานภายในคอนโดถือเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญ ไม่แพ้กับการออกแบบตกแต่งรวมถึงการเลือกใช้วัสดุ เพราะการกำหนดสัดส่วนของระยะภายในพื้นที่การใช้งานอย่างถูกต้อง จะทำให้สามารถรองรับฟังก์ชันการใช้งานของแต่ละพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม

วันนี้ Esto เลยอยากจะพาเพื่อนๆ ไปสำรวจระยะต่างๆในแต่ละพื้นที่ภายในคอนโด นอกจากขนาดฝาเพดานที่ควรเฉลี่ยอยู่ที่ 2.7 เมตรแล้ว ระยะส่วนไหนควรเว้นเท่าไหร่ถึงจะใช้งานได้สะดวกและปลอดภัย จะมีอะไรน่าสนใจบ้างตามเข้ามชมกันเลย

Living Area กับระยะการใช้งาน

โดยปกติทั่วไปของการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องนั่งเล่น จะเว้นทางสัญจรบริเวณโซฟากับชั้นวางโทรห่างจากกันเฉลี่ย 1.60 -1.80 เมตร ส่วนต่อมาที่มีความสำคัญไม่แพ้กันคือระยะระหว่าง โซฟาและโต๊ะกลาง ควรมีขนาด 1:2 หรือ 2:3 ของขนาดโซฟา เพื่อให้เวลานั่งหัวเข่าไม่โดนขอบโต๊ะกลางนั่นเอง

และนอกจากนั้นในกรณีที่มีโต๊ะข้างควรจะต่ำกว่าประมาณ 3 นิ้ว และ ไม่ควรมีความสูงมากกว่าพนักพักแขนของโซฟา เพราะจะทำให้ข้อศอกชนกับขอบโต๊ะได้ ส่วนตำแหน่งของโทรทัศน์บนชั้นวางควรอยู่เหนือเบาะโซฟาประมาณ 30 นิ้ว (7 ซม.) โดยให้โทรทัศน์อยู่บริเวณกึ่งกลางของโซฟา เพื่อความสบายตาและลดการสะท้อนแสง

Bedroom กับระยะเพื่อความสบาย

การเว้นระยะการใช้งานภายในห้องนอน มีความสำคัญไม่แพ้ส่วนอื่น เพราะการเว้นระยะให้ถูกต้องจะช่วยในเรื่องของการสัญจร และการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้ลงตัวมากขึ้น โดยทั่วไปแล้วเตียงนอนจะถูกจัดวางหันไปทางทิศใต้หรือทิศตะวันออก ซึ่งมีข้อดี คือ แสงแดดจะไม่แยงตาในเวลาเช้า

ในส่วนของตู้หรือโต๊ะข้างเตียง จะมีขนาดความลึกของโต๊ะอยู่ประมาณ 0.35-0.60 ม. ส่วนความกว้างอยู่ที่ 0.30-0.80 ม. และมีระดับความสูงโดยปกติสูงระดับเดียวกับระดับที่นอนหรือขอบหัวเตียง นอกจากนั้นขนาดของตู้เสื้อผ้าควรออกแบบให้มีความลึก 0.60 ม. เพื่อให้แขวนเสื้อผ้าได้พอดี ความสูงของระดับรางแขวนเสื้อผ้าประมาณ 1.75-1.90 ม.

Walk in closet กับระยะที่ถูกต้อง

สำหรับ Walk in closet หรือห้องแต่งตัว ปัจจุบันถือเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถแยกห้องจากกันได้กับห้องนอนภายในพื้นที่คอนโด ซึ่งนอกจากงานดีไซน์ที่สวยงามแล้ว ยังต้องมีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ของผู้ใช้งานได้อย่างเหมาะสมด้วย

ดังนั้นระยะการติดตั้งไม้แขวนเฉลี่ยอยู่ที่ 1.50-1.60 เมตร ส่วนลิ้นชักเก็บของหรือชั้นวางของด้านล่างควรมีความสูงอยู่ที่35-40 เซนติเมตร และชั้นกระเป๋าเดินทางควรเฉลี่ยอยู่ที่ 1.80 เมตร

Kitchen กับระยะการใช้งานที่เหมาะสม

ระยะการใช้งานต่อมาเป็นในส่วนของ Pantry Area บริเวณพื้นที่ครัวและห้องรับประทานอาหาร ซึ่งระยะของบริเวณพื้นที่ครัว จะมีระยะใช้สอบในส่วนของพื้นที่ปรุงอาหารอย่างน้อย 45 ซม. เพื่อให้สามารถวางอุปกรณ์ทำครัว เช่น กะทะ, หม้อ ฯลฯ และควรเว้นระยะอ่างล้างจานประมาณ 75 ซม. เพื่อวางจาน-ชาม หลังจากชำระล้าง

มาตรฐานความสูงของเคาน์เตอร์ควรอยู่ที่ 80-120 ซม. และความลึกไม่ควรเกิน 40-50 ซม. เพื่อให้ผู้ใช้งานหยิบจับอุปกรณ์ทำครัวได้สะดวก หรืออาจเลือกปรับเปลี่ยนขนาดได้ตามความสูงของผู้ใช้งานเองด้วย

Dinning กับระยะเพื่อความสะดวก

สำหรับพื้นที่รับประทานอาหารส่วนที่สำคัญที่สุดคงหนีไม่พ้น โต๊ะรับประทานอาหาร ซึ่งโต๊ะรับประทานอาหารแบ่งออกได้ตั้งแต่ 2 ไปจนถึง 8 ที่นั่ง จึงทำให้ขนาดความกว้างจะแตกต่างกันออกไป โดยกำหนดให้ระยะความสูงของเก้าอี้อยู่ที่ 40 ซม. ส่วนระดับโต๊ะจากระดับพื้นถึงบนโต๊ะควรอยู่ที่ 70 ซม. เป็นความสูงมาตรฐาน

มาต่อกันกับระยะในการรับประทานอาหาร สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงคือรูปแบบของความสูงของโต๊ะรับประทานอาหาร ซึ่งจะมีขนาดความสูงเฉลี่ยอยู่ที่ 75 -112 ซม.

Bathroom กับระยะเพื่อความปลอดภัย

สัดส่วนของการจัดวางอุปกรณ์และสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเพราะนอกจากการใช้งานได้อย่างสะดวกสบายแล้ว ยังเน้นในเรื่องของความปลอดภัย ซึ่งลักษณะการวางตำแหน่งจะมีอยู่ 3 ตำแหน่ง

ได้แก่ อ่างล้างหน้า ควรเว้นจากผนัง 0.50 เมตร และเว้นระยะห่างจากโถสุขภัณฑ์ 0.35-0.40 เมตร ส่วนโถสุขภัณฑ์ให้เว้นระยะห่างกับส่วนอาบน้ำหรืออ่างอาบน้ำประมาณ 0.40 เมตร และสัดส่วนความกว้างของทางสัญจรควรอยู่ที่ 0.70-1.20 เมตร

Balcony กับระยะสัดส่วนที่ไม่ควรมองข้าม

ระเบียงเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทุกคอนโดต้องมี ซึ่งฟังก์ชันหลักของระเบียงเองคือนอกจากใช้สำหรับซัก-ตากผ้า บางโครงการยังปรับเปลี่ยนให้กลายเป็น Living Area ได้ ซึ่งระยะมาตรฐานของระเบียงความกว้างเฉลี่ยอยู่ที่ 0.8-1.20 m และความยาวขึ้นอยู่กับขนาดของห้อง

หวังว่าเพื่อนๆจะได้ประโยชน์กับระยะพื้นที่ต่างๆภายในคอนโดมิเนียม เพื่อให้ผู้ใช้งานได้มีพื้นที่ใช้สอยได้สะดวกมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังเป็นการกำหนดสัดส่วนการจัดวางเฟอร์นิเจอร์เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานในระยะยาว

อ้างอิงข้อมูล : baanlaesuan