ตู้เย็น แบบไหนดี? เรื่องควรรู้ก่อนซื้อตู้เย็นเข้าคอนโด

ประเทศไทยอากาศร้อนแบบนี้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่สำคัญ นอกจากแอร์แล้ว ก็มี “ ตู้เย็น ” นี่แหละที่ถูกใช้งานบ่อยสุด ๆ ! สำหรับใครที่อยู่อาศัยในคอนโดซึ่งมีบริเวณไม่กว้างนัก การเลือกตู้เย็นเป็นสิ่งที่ต้องคิดหนัก เพราะ ตู้เย็นที่ขนาดใหญ่เกินความจำเป็นอาจกินไฟ ทำให้สิ้นเปลืองทั้งค่าใช้จ่ายและพื้นที่ใช้สอย ..แล้วแบบไหนล่ะ ถึงจะเหมาะกับเรา? มาดู วิธีเลือกตู้เย็น ที่ Esto นำมาฝากกัน

รู้จักกับ คิว (ขนาดความจุ)

เมื่อมีความคิดว่าจะซื้อตู้เย็น คำถามแรกของหลาย ๆ คนมักจะเป็น ตู้เย็น ยี่ห้อไหนดี แต่ความจริง สำหรับมนุษย์คอนโดแล้ว คิว (ลูกบาศก์ฟุต) หน่วยวัดขนาดความจุของตู้เย็น น่าจะเป็นพ้อยต์หลักที่ต้องคำนึงถึงก่อนตัดสินใจ ลองพิจารณาจาก 2 ทางนี้

• เลือกคิวจากจำนวนสมาชิก : โดยส่วนมากคอนโดห้องสตูดิโอ มักมีผู้อาศัยอยู่ร่วมกันไม่เกิน 3 คน ตู้เย็น 6 - 10 คิว ก็น่าจะเพียงพอต่อความต้องการ แต่ถ้าเป็นคอนโดเพนท์เฮ้าส์ อยู่กัน 4 -5 คน ตู้เย็น 12 - 18 คิว จะเหมาะสมกว่า
  
• เลือกคิวจากไลฟ์สไตล์ : ลองจิตนาการภาพง่าย ๆ ให้คิดว่า 1 คิว เท่ากับ 1 ถุงชอปปิงจากซุปเปอร์มาร์เก็ต กะปริมาณคร่าว ๆ ว่าเราจะซื้อของเข้าตู้เย็นมากน้อยเท่าไร หากเป็นคนชอบทำอาหารรับประทานเอง ต้องซื้อของสดมาตุนไว้ ก็อาจเลือกใช้ แบบ 9 - 10 คิว
  

ประเภทและดีไซน์ของตู้เย็น

ตู้เย็น ที่เหมาะสำหรับใช้ในคอนโด แนะนำให้เป็น ตู้เย็น 1 ประตู หรือ ตู้เย็น 2 ประตู ที่มีช่องแช่แข็งด้านบน/ด้านล่าง เพราะสามารถประหยัดพื้นที่ได้มากกว่า และราคาเป็นมิตรกว่า

นอกจากนี้โทนสีก็ไม่ควรมองข้าม เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าถือเป็นสิ่งที่สำคัญในการตกแต่งบ้านเช่นกัน สีที่นิยมใช้กันมักจะเป็นสีดำ และ สีเงิน ที่ให้ความรู้สึกเรียบหรู แต่ถ้าห้องของคุณเน้นสีสันคัลเลอร์ฟูลก็สามารถมองหาตู้เย็นสีสดใสได้ไม่ยาก

ฟังก์ชันการใช้งาน

ยุคนี้เทคโนโลยีพัฒนาไปไกลมาก บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้ามีการแข่งขันออกสินค้าที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ออกมาเอาใจอยู่เสมอ ดังนั้นนอกจากขนาดแล้ว ฟังก์ชันจึงเป็นสิ่งที่ควรศึกษา ทำความเข้าใจ แล้วจะช่วยตัดช้อยส์ได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่างเช่น..

• ควรมีนวัตกรรมประหยัดพลังงาน (Energy-saving models) เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน
  
• ชั้นวางด้านในควรถอด-เข้าออกได้ สามารถปรับขนาดช่องได้ทำความต้องการ และสามารถนำออกมาทำความสะอาดได้สะดวก
  
• หากมีเทคโนโลยีที่ช่วยถนอมอาหารต่าง ๆ อย่างแสงสีฟ้า (Active Fresh Blue Light) หรือ การถนอมอาหารด้วยประจุไฟฟ้า (IonGuard) ก็จะดีมากๆ เพราะ จะช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ และคงให้อาการสดใหม่ ส่งผลต่อสุขภาพที่ดีของเราด้วย
  

บริการหลังการขาย

เช่นเดียวกับการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดอื่น ๆ อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรลืมพิจารณา คือ บริการหลังการขาย เช่น การรับประกัน ควรมีรับประกันให้ราว 10 - 12 ปี ลองค้นหารีวิวจากผู้ใช้ท่านอื่นดูว่าแบรนด์ที่เราสนใจมีช่องทางการติดต่อศูนย์บริการสะดวกแค่ไหน และความรวดเร็วในการแก้ไขปัญหาเป็นอย่างไร

ข้าวของเครื่องใช้อะไร คุณภาพและความคุ้มค่าย่อมเป็นสิ่งสำคัญ การหาข้อมูลไปพร้อม ๆ พิจารณาไปตามหัวข้อเหล่านี้ จะมีส่วนช่วยในการตัดสินใจให้ได้ตู้เย็นที่เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด แต่ก่อนจะตัดสินใจจ่ายเงิน อย่าลืมไปทดลองจับของจริงกันด้วยนะ เรายังมีคำแนะนำสำหรับการซื้อสิ่งของอื่น ๆ สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ Estopolis.com

บทความที่เกี่ยวข้อง

เลือกแบบไหนให้เย็นฉ่ำใจ ระหว่างแอร์แบบ Inverter หรือแบบธรรมดาดี?

เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างไรให้ตอบโจทย์มนุษย์คอนโด

แนะนำการเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าคลายร้อน ประหยัดพลังงานทำได้ง่าย

วิธีประหยัดไฟเมื่ออยู่คอนโด เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าให้สบายกระเป๋าในหน้าร้อน!

รวมนวัตกรรมเครื่องปรับอากาศ รู้ยัง? เขาทำได้มากกว่านั้นนะ