ก่อนอายุเท่านี้ คุณควรลงทุนอะไรบ้าง

ลองหลับตาลงแล้วนึกถึงภาพอนาคตของตัวคุณเองดู เห็นอะไรกันบ้างนะ แน่นอนว่าแต่ละคนต้องเห็นภาพแตกต่างกันไป ความฝันของแต่ละคนไม่มีผิดมีถูกอยู่แล้ว แต่สิ่งที่คุณควรคำนึงถึงคือคุณจะไปยังความฝันของคุณได้อย่างไร ในตอนนี้คุณอาจจะกำลังพึ่งได้งาน แล้วในอนาคตในแต่ละช่วงอายุคุณจะทำอะไรกันอยู่นะ จนในที่สุดเมื่อคุณเกษียณคุณจะมีอะไรที่มาเป็นของตัวเองบ้าง

บทความนี้ Esto จะช่วยไกด์ไลน์ดูว่าในแต่ละช่วงอายุคุณควรจะมีอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันบ้างที่จะทำให้ชีวิตของคุณดูมีรากฐานชีวิตที่มั่นคง

ช่วงอายุ 20 ปี

ในช่วงอายุ 20 ปี คุณอาจจะพึ่งเรียนจบหรือบางคนอาจจะได้งานทำทันทีหลังจากเรียนจบ เป็นช่วงชีวิตที่คุณอาจจะยังไม่มีเงินเก็บมาก เรียกได้ว่าเป็นช่วงสร้างตัว

สิ่งที่คุณควรจะมีอาจจะยังไม่เป็นรูปเป็นร่างแต่ที่คุณควรวางแผนไว้คือเรื่องบัญชีเงินฝากประจำ กองทุนสวัสดิการประกันสังคมต่างๆ ที่จะหักจากเงินเดือนของคุณแล้วไปได้เงินในตอนเกษียณและต้องอย่าลืมศึกษาเรื่องประกันอุบัติเหตุ ประกันสุขภาพและประกันชีวิตเอาไว้ด้วย ประกันเหล่านี้หากสมัครไว้แต่เนิ่นๆ จะช่วยให้คุณไม่มีปัญหาเรื่องการได้เงินกลับในตอนอายุมาก เพราะบางประกันมีเงื่อนไขว่าต้องจ่ายค่าประกันถึงอายุเท่านั้นเท่านี้เพื่อให้ได้เงินประกันคืนเต็มจำนวน การทำประกันเหล่านี้ไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ จึงเป็นเรื่องที่ควรทำ

หลักๆ แล้วในช่วงอายุนี้คุณอาจจะยังไม่สามารถคาดหวังอะไรเป็นรูปเป็นร่างได้ แต่การวางแผนสำหรับชีวิตในอนาคตก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน

ช่วงอายุ 30 ปี

เป็นช่วงที่คนจะเริ่มมีงานประจำทำกันแล้ว และเป็นช่วงที่งานเริ่มมั่นคงและแทบจะไม่มีการเปลี่ยนงานให้เห็นแล้ว นั่นทำให้ฐานเงินเดือนของคุณมั่นคงด้วย การลงทุนอะไรต่างๆ อย่างเช่นกองทุนสวัสดิการสังคม หรือกองทุนสำรองเบี้ยเลี้ยงชีพก็จะเป็นไปได้อย่างมั่นคง

ส่วนเรื่องการเรียนต่ออาจจะเป็นไปได้ยากแล้วในช่วงอายุวัยหลังจากนี้ เพราะด้วยร่างกาย ศักยภาพทางการเรียนรู้อาจจะไม่เหมาะสมแล้ว ช่วงชีวิตวัยนี้อาจจะเริ่มมีอะไรที่เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น แต่อาจจะยังไม่ใช่ของถาวรเช่น บางคนอาจจะได้หอพักที่แน่นอน สืบเนื่องมาจากได้งานที่แน่นอนด้วย ทำให้คุณไม่ได้ย้ายที่อยู่บ่อย ทำให้ช่วงนี้คุณอาจจะวางแผนเรื่องการซื้อบ้านหรือคอนโดได้แล้ว โดยใช้หลัก “ล้านละเจ็ดพัน” โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้เวลาประมาณ 20-30 ปี จริงๆ แล้วอาจจะฟังดูยาวนาน แต่เมื่อถึงช่วงที่คุณมีฐานเงินเดือนที่ค่อนข้างมั่นคงแน่นอนแล้ว การผ่อนจ่ายลักษณะนี้จะเริ่มไม่ลำบากอีก

ส่วนเรื่องการผ่อนบ้านหรือคอนโดที่มีระยะการผ่อนที่ยาวนาน ให้ลองศึกษาเรื่องรีไฟแนนซ์ด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงดอกเบี้ยที่มีราคาแพงเกินไป

ช่วงอายุ 40 ปี

ช่วงนี้เป็นช่วงที่หลายๆ อย่างจะมั่นคงแล้ว หากใครที่ผ่อนบ้านหรือคอนโดไว้คงจะเริ่มผ่อนได้สักครึ่งแล้ว อีกทั้งคงจะไม่มีปัญหาอะไรแล้วถ้าผ่อนมาได้เป็นสิบปี หากยังคอยติดตามเรื่องรีไฟแนนซ์อยู่ รับรองว่าดอกเบี้ยไม่บานปลายแน่นอน

อีกอย่างคือช่วงนี้เป็นช่วงที่คุณต้องเตรียมตัวสำหรับวัยเกษียณได้แล้ว ควรเตรียมตัวให้พร้อม ทั้งเรื่องของกองทุนเงินบำนาญ สำหรับใครที่ไม่ได้ลงทุนสูงสุดในจุดที่บริษัทกำหนดไว้ อาจจะลองปรับการหักเงินเพิ่มเติมดู เพราะจะช่วยให้คุณได้เงินตอนเกษียณเยอะขึ้นด้วยเช่นกัน และในช่วงนี้สุขภาพของคุณอาจจะมีเสื่อมถอยไปบ้าง แต่หมดกังวลไปได้มากแล้ว เพราะคุณทำประกันไว้ตั้งแต่อายุยังน้อยนั่นเอง

ช่วงอายุ 50 ปี

ช่วงนี้ใกล้เกษียณเต็มทีหากได้เตรียมตัวดีมาตั้งแต่อายุยังน้อยล่ะก็ ไม่มีปัญหาอะไรต้องห่วงเลย ทั้งเรื่องประกันสุขภาพ หรือที่อยู่อาศัยที่ตอนนี้น่าจะผ่อนหมดเรียบร้อยแล้ว ทำให้เงินที่คุณได้ใช้ผ่อนนั้น กลับเข้าสู่ตัวคุณเต็มๆ ช่วงนี้จึงเป็นช่วงที่เรียกได้ว่ามีรายได้เยอะพอสมควร

สำหรับท่านที่มีครอบครัวแล้วคงจะมีบุตรหลานโตจนถึงขั้นเลี้ยงตัวเองได้แล้วเช่นกัน ทำให้คุณหมดภาระเรื่องลูกหลานไปอีกจนรายจ่ายคุณแทบจะไม่มีแล้ว ช่วงนี้จึงเป็นช่วงที่ดีมากๆ ในการเก็บเงินก้อนสุดท้ายก่อนเข้าสู่วัยเกษียณเต็มตัว

ช่วงอายุ 60 ปี

ในที่สุดก็มาถึงช่วงวัยเกษียณอย่างเต็มตัวที่คุณแทบจะไม่มีรายได้อะไรอีกแล้ว อาจจะมีรายได้ผู้สูงอายุมาบ้าง แต่ก็ไม่พอใช้อยู่แล้วในเรื่องของความเป็นจริง แต่สำหรับคุณที่เตรียมตัวมาอย่างดีแล้ว คุณมีพร้อมทั้งบ้าน รถ และครอบครัวที่อบอุ่น

เรียกได้ว่า “เตรียมตัวมาอย่างดี มีชัยไปกว่าครึ่ง” นั้นใช้ได้กับชีวิตจริงด้วย โดยเฉพาะกับคุณที่เตรียมตัวมาอย่างดีตั้งแต่อายุยังน้อย ย่อมไม่ต้องมีอะไรให้กังวลเลย

บทความที่เกี่ยวข้อง

วิเคราะห์ 5 ทำเลดาวรุ่ง สำหรับคอนโดในปี 2562

3 ทำเลนี้มีดีอะไร ทำไมคอนโดถึงแห่กันไปเปิดตัวเยอะ

เก็บเงินให้อยู่หมัดด้วย 7 บัญชีเงินฝากประจำ ให้ดอกเบี้ยดี แถมปลอดภาษีด้วย

ให้เงินสร้างรายได้ ด้วยบัญชีกองทุน

รวมทริคสร้างเงินล้านด้วยวิธีการลงทุนเดือนละ 5,000 บาท