แต่งห้องนอนรับ Summer ด้วย 5 ทริค ช่วยให้ห้องเย็นสบาย
5 May 2562
Summer นี้ใครกำลังมองหาไอเดียการแต่งห้องนอนสำหรับหน้าร้อนอยู่ละก็ Esto มี Trip & Trick ที่จะช่วยลดความร้อนเพิ่มความเย็นให้ภายในห้องนอนมาฝาก ผ่าน 5 ทริค ง่ายๆ ที่สามารถทำได้เองได้โดยไม่ต้องเปลืองเงินจ้างช่างให้วุ่นวาย พร้อมกับแนะนำวิธีการแต่งห้องให้สวยงาม
Trick 1 : เปิดประตู-หน้าต่าง ระบายอากาศ
ทริคแรกที่เราจะมานำเสนอกันในวันนี้ เป็นเบสิกขั้นพื้นฐานที่ทุกคนน่าจะรู้กันดีอยู่แล้ว แต่อาจลืมให้ความสำคัญไปบ้าง อย่างการระบายอากาศด้วยการเปิดประตู-หน้าต่าง หรือช่องลมภายในห้องนอน เพราะโดยส่วนใหญ่เราใช้ชีวิตอยู่ในห้องนอนช่วงกลางคืน และแน่นอนว่าร้อยทั้งร้อยต้องเปิดเครื่องปรับอากาศ ทำให้ต้องปิดช่องระบายอากาศทั้งหมดภายในห้อง
การเปิดอากาศในช่วงเช้าตั้งแต่ 7-9 นาฬิกา เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะทำให้ห้องเกิดการถ่ายเท และรับแสงจากธรรมชาติได้ดี เพราะแดดและอากาศในช่วงเวลานี้ เป็นรูปแบบของอากาศโอโซนบริสุทธิ์ที่สุดเมื่อเทียบกับช่วงเวลาอื่นๆ
นอกจากนั้นการเปิดประตู-หน้าต่าง จะช่วยให้เกิดการหมุนเวียนอากาศ ลดความอับชื้นภายในห้องนอน ทำให้คนที่เป็นภูมิแพ้หายใจได้สะดวกขึ้นอีกด้วย และถ้าจะให้ได้ผลดีที่สุดในการเปิดช่องลมเพื่อให้อากาศถ่ายเท ควรเปิดทั้งประตูและหน้าต่างพร้อมกัน เพื่อให้เกิดการระบายอากาศเข้า-ออกเป็นแนวเส้นตรง จะเพิ่มการหมุนเวียนของอากาศได้เป็น 2 เท่าจากปกติ
Trick 2 : ม่านบังแดดช่วยป้องกันแสง UV
ทริคที่ 2 อย่างการเลือกม่านกันแสง เชื่อว่าห้องนอนของเพื่อนๆ หลายคนต้องติดม่านสำหรับกันแสงเข้ามาภายในห้องไม่แบบใดก็แบบหนึ่ง และอาจมีหลายคนที่ยังไม่เคยรู้มาก่อนว่าม่านบังแดดมีให้เลือกอยู่หลายประเภทด้วยกัน แต่เราจะขอยกตัวอย่างสัก 2 ประเภทที่นิยมเลือกภายในห้องนอนมากที่สุด
ม่านแบบแรกได้แก่ ม่านแบบทึบแสง ซึ่งม่านประเภทนี้สามารถป้องกันแสงแดดและแสง UV ได้ 100% เต็ม นอกจากช่วยในเรื่องของการเล็ดลอดของแสงที่จะส่องเข้ามาในห้องแล้ว ยังป้องกันไอร้อนได้อีกด้วย เป็นการทำงานแบบ 2 in 1 แต่ข้อที่ควรพิจารณาในการเลือกใช้ม่านประเภทนี้ เพราะตัวเนื้อผ้ามีความหนาทำให้เกิดการอมฝุ่นควรหมั่นทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ
ม่านแบบที่ 2 คือม่านแบบโปร่งแสง ม่านชนิดนี้จะมีเนื้อผ้าซ่อนกัน 2 ชั้น ชั้นที่หนึ่งเป็นเนื้อผ้าปกติที่มีความหนาแต่แสงยังส่องผ่านได้ ส่วนเนื้อผ้าอีกหนึ่งชนิดจะถูกผลิตด้วย Polyester ทำให้ได้เนื้อผ้าที่โปร่งแสง แต่ช่วยป้องกันแสงสว่างได้มากถึง 99% เลยทีเดียว และนอกจากม่านบังแดดที่กล่าวมา ยังมีวัสดุอื่นที่ช่วยป้องกันแสง UV ได้อีกหลากหลาย เช่น ฟิล์มกรองแสง เป็นต้น
Trick 3 : เลือกเครื่องปรับอากาศให้เหมาะกับพื้นที่
ทริคที่ 3 กับการเลือกเครื่องปรับอากาศให้เหมาะกับขนาดห้องนอน คงปฏิเสธไม่ได้ว่าแทบจะทุกห้องนอนต้องติดเครื่องปรับอากาศเพื่อให้ความเย็น และการติดเครื่องปรับอากาศก็มีทั้งข้อดีและปัญหาที่ตามมาด้วยเช่นกัน หลักๆ คงนี้ไม่พ้นเรื่องของความเย็นที่ไม่สามารถกระจายได้อย่างทั่วถึง จนทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักและชำรุดเสียหายในที่สุด
การเลือกเครื่องปรับอากาศควรเลือกประเภทให้เหมาะกับพื้นที่ และประเภทที่เหมาะที่สุดในการใช้งานภายในห้องนอนของคอนโดฯ คงหนีไม่บนเครื่องปรับอากาศแบบแขวนติดผนัง และอีกหนึ่งข้อที่ต้องนึก คือเรื่องของ BTU เพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่ภายในห้องนอนของเรา และช่วยให้เกิดความสมดุลระหว่างการใช้งานเครื่องปรับอากาศ เป็นการป้องกันปัญหาที่จะตามมาในระยะยาว
ห้องนอนขนาด เล็ก 25-30 ตร.ม. : ควรเลือกขนาด 9,000-18,000 BTU เพื่อให้เครื่องปรับอากาศทำงานได้พอดี กระจายแรงลมได้อย่างทั่วถึง
ห้องนอนขนาดใหญ่ 30-50 ตร.ม. ขึ้นไป : เพราะหากใช้เครื่องปรับอากาศที่มีขนาดต่ำกว่า 18,000 BTU อาจทำให้เกิดการกินไฟและชำรุด เนื่องจากเครื่องปรับอากาศทำงานหนัก
Trick 4 : ทาสีช่วยให้ห้องเย็น
ทริคที่ 4 ไม่พูดถึงคงไม่ได้กับการเลือกทาสีแบบไหนให้ห้องเย็นสบาย โดยทั่วไปแล้วสีทาภายในที่นิยมใช้งานกันคงหนีไม่พ้น สีโทนเย็นหรือสีเอิร์ธโทน ที่เน้นบรรยากาศเป็นมิตร อบอุ่นเหมาะแก่การพักผ่อน เมื่อบวกกับนวัตกรรมของสีทาภายในที่มีการเพิ่มค่าความเย็น ป้องกันความร้อนด้วยแล้ว ยิ่งช่วยให้ห้องเย็นมากถึง 10-30%
เทคนิคการใช้สีภายในส่วนมากเลือกใช้ 60-30-10 คือ สีหลัก 60 สีรอง 30 และสีไฮไลท์10 เป็นการแบ่งค่าการใช้สีในพื้นที่เดียวกัน เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งระหว่างการใช้ ทำให้เกิดความสมูทลงตัว และข้อสังเกตการเลือกเทคนิคทาสีประเภทนี้ ควรเลือกใช้สีในเฉดเดียวกัน เพื่อสร้างบรรยากาศให้สวยงามและมีมิติมากขึ้น
อีกหลายเทคนิคที่นอกจากการเลือกและทาสีเพื่อให้ห้องเย็นสบาย ยังมีเทคนิคการวาดลวดลายบนผนังเป็นรูปดอกไม้ ลายกราฟิกประเภทต่างๆ หรือจะเลือกจับคู่สีตัดกัน เช่น สีแดง-สีฟ้า เป็นต้น เพื่อสร้างเอกลักษณ์เพิ่มความโดดเด่นน่าใช้งาน
Trick 5 : หลอดไฟ LED ที่หลายคนมองข้าม
ทริคสุดท้าย เป็นทริคที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน สำหรับการเลือกใช้หลอดไฟ LED เนื่องจากคุณสมบัติของหลอดไฟ LED ถูกพัฒนาด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้สามารถใช้งานทดแทนหลอดไฟแบบเก่าได้อย่างสมบูรณ์ และยังช่วยให้ประหยัดพลังงานมากกว่าเดิมถึง 10 เท่า บวกกับมีอายุการใช้งานได้อย่างยาวนาน
ไม่เพียงเท่านั้นค่าของไฟ LED ยังให้ความสว่างได้มาก หรือเรียกว่า ใช้น้อยแต่กระจายความสว่างมาก แถมมีราคาประหยัด โดยทั่วไปแล้วการติดตั้งชุดโคมไฟ LED ภายในห้องนอนแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักด้วยกัน
- LED ดาวน์ไลท์ฝังเพดาน : การวางไฟประเภทนี้บนผนังจะวาง แถวละ 1 ดวง ในห้องนอนที่มีขนาดเล็ก และวาง 2-3 ดวงในแถวเดียวกัน และเว้นระยะห่างต่อแถว 1.50-2.00 ม. เพื่อให้แสงสว่างกระจายได้ทั่วบริเวณ
- LED แบบแขวนข้างเตียง : วัตถุประสงค์ของการเลือกใช้ชุดโคมไฟแบบแขวน มีรูปแบบการใช้งานในลักษณะเดียวกับโคมไฟข้างเตียง เพราะปัจจุบันนิยมใช้ชุดโคมไฟประเภทนี้แทนการใช้งานโคมไฟแบบเดิม เพราะจะช่วยสร้างความสวยงามได้มากกว่าเดิม
- LED Directline (เส้นไฟผนัง) : เชื่อว่าเพื่อนหลายคนคงสงสัยว่าไฟประเภทนี้คืออะไร ไฟชนิดนี้ทำหน้าที่คอยให้แสงสว่างช่วงกลางคืน นิยมซ่อนไฟบริเวณผนังด้านบนและด้านล่าง หรือบริเวณขอบเตียง และจะทำงานได้ดีในระบบอัตโนมัติเชื่อมต่อเข้ากับ Home Automation
สำหรับฤดูร้อนมีทั้งข้อดีและข้อเสียในการดูแลรักษาและป้องกันไม่ให้ห้องพักของเราได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดภายนอก ยิ่งบวกกับอากาศร้อนในบ้านเราด้วยแล้วยิ่งทวีคูณเป็นเท่าตัว หวังว่าทริคทั้ง 5 ที่แนะนำกันในวันนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อย สามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการออกแบบแต่งที่พักภายในคอนโดฯ พร้อมกับอัปเดตข่าวสารอสังหาริมทรัพย์ได้ที่ Esopolis.com
Credit Photo : Willie Homes, Unimax Creative, Tuuti Piippo, The New York Times, The Grit and Polish, SleepSugar, SEAGULL MY, Real Homes, panicharoenporn, longandfosterellicottcity, knittingbordado, Imageric, hillarys.ie, HGTV, goop, decorpad, carribeanpic, blog.livaza, banidea
บทความที่เกี่ยวข้อง
หน้าร้อน เลือกทาสีแต่งห้องยังไงให้เย็นสบาย
Modern Tropical: การแต่งบ้านสไตล์โมเดิร์นในภูมิประเทศเขตร้อนชื้น
Decor Story : ‘ม่านดี’ ต้องมีมากกว่า ‘ความสวย’ รวมเทคนิคเลือกผ้าม่านให้ใช้งานได้จริง!
แต่งคอนโดฯ ด้วย 4 เทรนด์การออกแบบ ให้เข้ากับ Lifestyle คนรุ่นใหม่