เปิดทำเล รามคำแหง ก้าวออกไปพบความครบครันที่อยู่รอบตัว [Ads]
5 September 2561
หากกล่าวถึงทำเลที่มีความครบครันในทุกๆ ด้าน...คุณจะนึกถึงทำเลใด?
เชื่อว่าในความคิดของใครหลายคนจะต้องมีชื่อของทำเลย่าน CBD โผล่ขึ้นมาแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นสีลม, อโศก, ทองหล่อ, เอกมัยก็ล้วนแต่ฮิตติดลมบนกันไปหมดแล้ว... วันนี้ Estopolis จึงขอเปลี่ยนทางพาทุกคนไปเปิดอีกทำเลหนึ่งที่มีความน่าสนใจไม่แพ้กันอย่าง 'รามคำแหง' แทน
ถ้าจะให้พูดถึง 'รามคำแหง' แล้วล่ะก็
ที่นี่ก็มีความครบครันไม่แพ้ที่อื่นๆ เลยทีเดียว
สำหรับความครบครันแรก…จะเกิดมาจากคำถามที่ว่า 'ไปรามคำแหงยังไงให้สะดวก?' เพราะการที่เราจะตัดสินใจอยู่ในทำเลใดสักแห่ง เรื่องการเดินทางที่สะดวกสบายนั้นก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เช่นกัน
และรูปแบบการเดินทางสุดคลาสสิกที่คนแถวนี้คุ้นชินกันดีก็คือ 'เรือโดยสารคลองแสนแสบ - สายนิด้า' ที่มีระยะทางตั้งแต่ท่าเรือประตูน้ำไปจนถึงท่าเรือวัดศรีบุญเรือง ซึ่งวันนี้ Estopolis ก็ไม่พลาดที่จะเดินทางไปส่อง 'รามคำแหง' กันด้วยเรือโดยสารนี่เอง
ช่วง 'ถนนรามคำแหง' จะมี 'คลองแสนแสบ' ขนานข้างไปตลอดเส้นทาง จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่การเดินทางด้วยเรือจะเป็นทางเลือกยอดฮิตของคนในย่านนี้ โดยท่าเรือที่เราจะพาไปลงกันวันนี้จะเป็น 'ท่าเรือสะพานมิตรมหาดไทย'
ท่าเรืออยู่ใน 'ซอยรามคำแหง 65' เมื่อพ้นจากสะพานข้ามคลองไปก็จะเชื่อมต่อกับ 'ซอยลาดพร้าว 122' สำหรับใครที่เดินทางด้วยรถยนต์ก็สามารถเปลี่ยนไปใช้ 'ถนนลาดพร้าว' กันได้ที่ซอยนี้
เดินเรียบออกจากท่าเรือตรงมายังหน้าปากซอยจะเจอกับ 'แยกซอยมหาดไทย' สัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าเราได้เข้าสู่ 'ถนนรามคำแหง' เรียบร้อยแล้ว
ซึ่งถ้าใครเคยเดินทางผ่านมาแถวถนนรามคำแหงในช่วงนี้บ้างแล้ว จะพบว่าตลอดทั้งเส้นทางจะมีการดำเนินการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ช่วงศูนย์วัฒนธรรม- มีนบุรี) อยู่ โดยสถานีที่อยู่ใกล้กับแยกซอยมหาดไทยมากที่สุดจะเป็น 'สถานีราชมังคลา' และเมื่อรถไฟฟ้าเปิดให้ใช้บริการได้ในปี 2566 ก็จะยิ่งทำให้การเดินทางในบริเวณนี้สะดวกและรวดเร็วขึ้น ตอบโจทย์คนเมืองรวมถึงคนในพื้นที่ที่ต้องเดินทางเข้าเมืองเป็นประจำ
ส่วนคนที่เดินทางด้วยรถส่วนตัวก็ไม่ต้องน้อยใจไป เพราะตลอดความยาว 18 กิโลเมตรของ 'ถนนรามคำแหง' นั้น สามารถพาเราเชื่อมต่อไปยังถนนเส้นหลักต่างๆ ได้หลากหลายเช่นกัน แถมยังมีทางขึ้น-ลงทางพิเศษศรีรัชที่อยู่ตรงบริเวณ 'ถนนพระราม 9' คอยเพิ่มความสะดวกให้กับคนที่ต้องการเข้าเมืองในชั่วโมงเร่งด่วน
นอกจากนี้หากเราลองสังเกตดีๆ บน 'ถนนรามคำแหง' จะมีป้ายบอกเส้นทางลัดอีกมากมาย ไม่ว่าจะทางไปยังถนนบางกะปิ, ถนนศรีนครินทร์, ถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือถนนลาดพร้าว
แม้แต่ตามแยกต่างๆ อย่าง 'แยกวัดเทพลีลา' เองก็มีสะพานข้ามคลองเชื่อมต่อไปยังถนนแจ้งวัฒนะได้ และด้วยเส้นทางลัดเลาะเหล่านี้เองที่ทำให้เราหมดกังวลเรื่องการเดินทางในทุกรูปแบบ ตอบโจทย์ผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัวได้สบายๆ
ไม่ใช่เพียงแค่การเดินทาง
แต่ทำเลต้องเอื้อกับทุกไลฟ์สไตล์ด้วยเช่นกัน
ความครบครันอันดับที่สองนี้ก็เกิดจากคำถามที่ว่า 'ถ้าอยู่รามคำแหงแล้ว ทำอะไรได้บ้าง?' วันนี้ Estopolis จึงขออาสาพาไปทำความรู้จักกับแหล่งไลฟ์สไตล์ในย่านนี้กัน
เมื่อเข้าสู่ถนน 'รามคำแหง' ภาพแรกที่เห็นจะเป็นภาพของอาคารสำนักงาน, สถานที่ราชการ ตลอดจนมหาวิทยาลัยชื่อดัง ทำให้เราคุ้นเคยกับบรรยากาศคึกคักของย่านรามคำแหงที่มักเต็มไปด้วยกลุ่มคนทำงานและนักศึกษาเสียเป็นส่วนใหญ่
นอกจากนี้ยังมีสถานพยาบาล, สถานีตำรวจ และสถานีดับเพลิงไว้คอยอำนวยความสะดวก รวมถึงสร้างความอุ่นใจให้กับทุกคนในพื้นที่นี้ด้วย
เมื่อมาถึงรามคำแหงทั้งทีจะไม่พูดถึง 'มหาวิทยาลัยรามคำแหง' คงไม่ได้ เพราะมหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐบาลที่พร้อมต้อนรับบุคลากรทุกระดับโดยไม่จำกัดเพศ, อายุและวุฒิการศึกษา
ภายในมีความเป็นมหาวิทยาลัยแบบเปิดประกอบไปด้วยบุคคลทั่วไป, บุคลากรและนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ที่ต่างแวะเวียนกันมาสร้างความคึกคักให้กับสถานที่นี้ และบ่อยครั้งที่เรามักเห็นผู้คนเข้ามาใช้บริการหอสมุดกลาง รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ ในการศึกษาหาความรู้, นั่งทำงาน หรือแม้แต่ใช้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ
ซึ่งก็มีหลายคนเช่นกันที่เลือกมาฝากท้องไว้ที่ 'โรงอาหาร' ของที่นี่ เพราะนอกจากจะได้อิ่มอร่อยกับอาหารหลากหลายชนิดแล้ว ยังได้ความคุ้มค่าในราคาที่สบายกระเป๋าติดมือไปอีกด้วย
ใกล้ๆ กับมหาวิทยาลัยรามคำแหงจะเป็น 'สนามราชมังคลากีฬาสถาน' สนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มักถูกใช้เป็นที่จัดงานแข่งขันฟุตบอลนัดสำคัญๆ และคอนเสิร์ตใหญ่ๆ มากมายให้คนที่รักเกมส์กีฬาและเสียงดนตรีได้เพลิดเพลินกันอย่างเต็มที่
และขอเอาใจคนรักการเล่นกีฬากันต่อที่ 'การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท.' ศูนย์รวมกีฬาที่ครบวงจรที่สุดในประเทศไทย ภายในมีประเภทกีฬาให้เลือกเล่นหลากหลาย ทั้งที่ได้รับความนิยมอย่างฟุตบอล, บาสเกตบอล หรือกีฬายิงปืน ไปจนถึงกีฬาที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมในไทยมากนักอย่าง กีฬายิงธนู เป็นต้น
ส่วนใครที่อยากมาออกกำลังกายในตอนเย็นๆ ที่นี่ก็มีลานออกกำลังกายให้เราได้มาเสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกายกันหลังเลิกงานหรือหลังเลิกเรียน
หรือจะเปลี่ยนบรรยากาศไปวิ่งชิลล์ๆ สูดอากาศบริสุทธิ์กันท่ามกลางพื้นที่สีเขียว ที่นี่ก็มี 'สวนสุขภาพ' อยู่ภายในเช่นกัน
ถ้าบอกว่าการออกกำลังกายนั้นสำคัญ อุปกรณ์สำหรับใช้ออกกำลังกายก็สำคัญไม่ต่างกันนัก อย่างฝั่งตรงข้ามการกีฬาแห่งประเทศไทยก็มี 'F.B.T Sport Complex' แหล่งรวมอุปกรณ์การกีฬาทุกชนิดเปิดอยู่ ไว้คอยบริการทุกความต้องการของคนรักสุขภาพ
หลังเผาผลาญพลังงานกันไปเป็นที่เรียบร้อย ก็ถึงเวลาเติมพลังเพิ่มโปรตีนกันเสียหน่อยที่ 'Ramkhamheang Market Night' หรือตลาดนัดหน้า กกท. ที่ให้เรามาเดินช้อปของกินอร่อยๆ รวมถึงของใช้ราคาประหยัดกันได้ทุกเย็น
เมื่อเหนื่อยล้าจากชอปปิงกันมามากแล้วก็พักขาเปลี่ยนมานั่งชิลล์ในร้าน 'A little - sweet & cheese cafe' คาเฟ่เล็กๆ สไตล์ญี่ปุ่นที่ตกแต่งร้านด้วยโทนสีเอิร์ธโทนสบายตาให้ความรู้สึกอบอุ่น พร้อมเสิร์ฟความอร่อยด้วยเมนูขนมหวานทานคู่กับเครื่องดื่มเย็นสุดสดชื่น
ส่วนคนไหนที่อยากเลือกซื้อข้าวของเครื่องใช้เข้าห้องก็สามารถแวะมา 'Huamark Town Center(หัวหมาก ทาวน์เซ็นเตอร์)' ก่อนได้ ภายในเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ให้เราเดินชอปปิงได้จุใจ พร้อมด้วยร้านอาหารให้เลือกทานกันหลากหลาย
ใกล้กันก็มี 'Major Hollywood Ramkhamheang' ไว้ให้คนที่รักการดูหนังได้มาใช้เวลาว่างผ่อนคลายไปกับหนังเรื่องโปรดตลอดทั้งปี
นอกจากนี้ย่าน 'รามคำแหง' ยังมีแหล่งไลฟ์สไตล์อีกมากมายที่รอคอยให้เราได้เข้าไปสัมผัสอยู่
เมื่อทุกความครบครันตั้งอยู่ตรงหน้า
ก็ถึงเวลาที่เราจะเลือกมาใช้ชีวิตกันที่ รามคำแหง
เมื่อความครบครันของย่าน 'รามคำแหง' ได้ไปเข้าตาดีเวลลอปเปอร์ชื่อดังอย่างศุภาลัย ทางดีเวลลอปเปอร์จึงเลือกเนรมิตพื้นที่กว่า 15 ไร่ของ 'ซอยรามคำแหง 24/2' ให้กลายเป็น Active Condominium ภายใต้คอนเซ็ปต์ 'ไปให้สุดทุกการใช้ชีวิต' ชื่อ Supalai Veranda Ramkhamhaeng (ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง)
ภาพจำลองบรรยากาศของคอนโด Supalai Veranda Ramkhamhaeng (ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง)
โครงการ Supalai Veranda Ramkhamhaeng (ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง) เป็นคอนโด High Rise 3 อาคาร ที่ประกอบด้วย TOWER A สูง 33 ชั้น, Tower B สูง 35 ชั้น และ TOWER C สูง 27 ชั้น
พร้อมให้ความสะดวกรวดเร็วแก่ผู้พักอาศัยด้วยระยะห่างจากรถไฟฟ้า MRT สถานีราชมังคลาเพียง 0 เมตร และตอบโจทย์การใช้ชีวิตให้ครบครันไปอีกขั้นด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จากทางโครงการ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ Supalai Veranda Ramkhamhaeng
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการจะประกอบด้วย
- Infinity Edge Infinity Edge เป็นสระน้ำเกลือ และสระเด็ก
- Fitness & Aerobic
- Suana
- Roof Garden
- Meeting Room
- Sky Lounge Co-Working & Co-Living Space
- Jogging track
- Basketball Court
- ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง : กล้อง CCTV, ระบบป้องกันอัคคีภัย Smoke & Heat Detector และ Fire Alarm พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
หากใครสนใจอยากสัมผัสการใช้ชีวิตที่ครบครันของย่านรามคำแหง ผ่านโครงการ Supalai Veranda Ramkhamhaeng (ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง) คอนโดซึ่งเหมาะสำหรับคนที่มี Active Life Style ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น
- Active เรื่องชอปปิง : มี Comunnity mall ในโครงการ
- Active เรื่องการเดินทาง : ในอนาคตจะมี MRT สายสีส้ม อยู่หน้าโครงการ 'สถานีสนามกีฬาราชมังคลา'
- Active เรื่องการออกกำลังกาย : ใกล้สนามกีฬาราชมังคลา และ ในคอนโดเองก็มี Facilities ขนาดใหญ่ อยู่ในโครงการ
ที่มาพร้อมราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท
สามารถลงทะเบียนได้ที่
https://booking.supalai.com
โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนภายในวันที่ 1-17 กันยายน 2561
และเปิดจอง Online Booking วันที่ 18 กันยายน นี้ 'จองก่อน ลดมากกว่า'
ติดต่อและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้โดยตรงกับทางศุภาลัยที่เบอร์ 1720 และ Estopolis เองก็จะขอเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการอัพเดตความคืบหน้าด้วยเช่นกัน!!