ESTOPOLIS | เทคนิคควรรู้ ดูแลคอนโดในหน้าฝน
26 June 2560
ในช่วงหน้าฝน เป็นช่วงที่ชาวคอนโดควรให้ความใส่ใจและดูแลคอนโดมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงที่มักจะมีปัญหาหรือเสี่ยงอันตรายมากที่สุด ซึ่งวันนี้เราก็ได้รวบรวมเทคนิคควรรู้ในการดูแลคอนโดในหน้าฝนมาฝากกัน จะมีอะไรบ้างนั้นมาดูไปพร้อมๆ กันเลย
ปิดหน้าต่างทันทีเมื่อฝนตก
เมื่อฝนตกไม่ควรเปิดหน้าต่างเอาไว้ โดยเฉพาะคอนโดที่ฝนสาดกระเซ็นเข้ามาทางหน้าต่างพอดี เพราะจะทำให้พื้นลื่นจนเสี่ยงอันตรายจากการลื่นล้มได้ หรือหากพื้นคอนโดเป็นพื้นไม้ ก็อาจทำให้พื้นพองหรือบวมขึ้นมา ซึ่งก็เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายกับพื้นจนต้องเสียเงินซ่อมแซมใหม่นั่นเอง ดังนั้นการปิดหน้าต่างให้สนิทจึงเป็นวิธีที่จะป้องกันปัญหาและดูแลคอนโดในหน้าฝนได้ดีที่สุด นอกจากนี้หากมีน้ำฝนสาดเข้ามาก็ควรรีบเช็ดให้แห้งโดยด่วนเช่นกัน
วางพรมเช็ดเท้าในหลายๆ จุด
เนื่องจากในช่วงที่ฝนตกมักจะทำให้คอนโดมีความเอือดมาก ไม่ว่าจะเป็นเพราะความชื้นที่เพิ่มขึ้นจากอุณหภูมิที่เย็นลงหรือการเดินเหยียบย่ำเข้าไปในห้องคอนโดในขณะที่ตัวเปียกก็ตาม ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหานี้จึงควรวางพรมเช็ดเท้าไว้ในหลายๆ จุดของห้อง เช่น หน้าประตู หน้าห้องน้ำ ตรงทางออกระเบียงหรือในครัว เป็นต้น เพื่อจะได้สะดวกในการเช็ดทำความสะอาดเท้ามากขึ้น ซึ่งนอกจากจะช่วยลดปัญหาความเอือดของคอนโดในหน้าฝนแล้ว ก็ช่วยลดความสกปรกและคราบจากเท้าที่เหยียบย่ำลงไปบนพื้นอีกด้วย
ตรวจเช็ครอยรั่วซึมตามจุดต่างๆ
การที่มีรอยรั่วซึมให้น้ำไหลย้อยเข้าภายในคอนโดได้ คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ ดังนั้นในช่วงหน้าฝนจึงควรตรวจเช็คให้ดีว่า มีจุดไหนที่รั่วซึมบ้าง ซึ่งเมื่อพบกับรอยรั่วก็ให้รีบซ่อมแซมโดยด่วน โดยสามารถทำได้ด้วยการหาอะไรมาอุดตรงรอยรั่วซึมนั่นเอง แต่หากเป็นกรณีเร่งด่วนที่ฝนกำลังตกและมีน้ำย้อยลงมาจากเพดาน ให้นำถังหรือกะละมังมารองน้ำเอาไว้ เพื่อไม่ให้น้ำหยดลงพื้นจนทำให้พื้นลื่นหรือก่อความเสียหายแก่พื้นที่ปูด้วยไม้ลามิเนตได้นั่นเอง
ระวังปัญหาไฟช็อต
ไฟช็อตไฟดูด เป็นปัญหาอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้มากที่สุดในช่วงหน้าฝน ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังให้ดี โดยเฉพาะการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า
ซึ่งเราก็มีวิธีการป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าดูดมาแนะนำกัน ดังนี้
ติดตั้งเครื่องตัดไฟในคอนโด
เครื่องตัดไฟมีความสำคัญเป็นอย่างมากในช่วงหน้าฝน เพราะจะทำหน้าที่ตัดไฟเมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าลัดวงจรได้ดี จึงลดความเสี่ยงไฟไหม้และไฟฟ้าช็อตได้ ดังนั้นจึงควรติดตั้งเครื่องตัดไฟไว้ในคอนโดและที่สำคัญควรเลือกช่างติดตั้งที่มีความชำนาญโดยเฉพาะ เพื่อความมั่นใจว่าจะไม่เกิดความผิดพลาดนั่นเอง
ตรวจเช็คอุปกรณ์ใช้ไฟฟ้าเสมอ
การดูแลคอนโดในช่วงหน้าฝนเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาไฟฟ้าช็อต ควรหมั่นตรวจเช็คอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเสมอ ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องทำน้ำอุ่น ฯลฯ โดยเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ควรจะอยู่ในสภาพที่สามารถใช้งานได้ปกติโดยไม่มีปัญหา และสายไฟต้องไม่ชำรุดหรือมีรอยรั่วด้วย
ทำตัวให้แห้งอยู่เสมอ
ปัญหาไฟฟ้าช็อตหรือไฟฟ้าดูด มักจะเกิดจากกรณีที่ตัวเปียก มีความชื้นแล้วไปสัมผัสกับเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือปลั๊กไฟ จึงทำให้เกิดอันตรายดังกล่าว ดังนั้นจึงควรทำตัวให้แห้งสนิทอยู่เสมอ โดยเฉพาะเมื่อต้องสัมผัสกับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในคอนโด แต่หากไม่มั่นใจแนะนำให้สวมถุงมือก่อนจับเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือยืนบนผ้าที่แห้งสนิทในขณะใช้งานจะช่วยป้องกันอันตรายได้ดีที่สุด
เลี่ยงการใช้ไฟฟ้าหลายอย่างกับปลั๊กตัวเดียว
เนื่องจากปลั๊กเพียงตัวเดียวไม่สามารถรองรับการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายๆ อย่างพร้อมกันได้ เพราะอาจจะทำให้เกิดปัญหาไฟฟ้าลัดวงจรได้นั่นเอง อย่างเช่น หากปลั๊กมีที่เสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมด 5 รู ควรใช้แค่ 2-3 รูพร้อมกันเท่านั้น ห้ามใช้ทั้งหมดทีเดียว 5 รูเด็ดขาด
แก้ปัญหาพื้นระเบียงลื่นและมีน้ำขัง
หากพื้นระเบียงห้องคอนโดปูด้วยพื้นกระเบื้องที่ทำให้ลื่นได้ง่ายและยังมีน้ำขังอีกด้วย สามารถแก้ได้ด้วยการ นำแผ่นพื้นไม้สำเร็จรูปที่ถอดประกอบได้และมีโครงรองพื้นเป็นพลาสติกมาปูทับไว้ พยายามจัดองศาการปูให้น้ำสามารถระบายออกได้ง่ายโดยไม่มีน้ำขัง หรืออีกวิธีหนึ่งคือ ให้ปูพื้นระเบียงใหม่โดยนำเอาวัสดุปูพื้นที่มีผิวหยาบมาปูสลับกับผิวมัน โดยปูให้มีความลาดเอียงเล็กน้อยเพื่อให้น้ำไหลออกได้ดีนั่นเอง ที่สำคัญอย่าลืมเคลือบด้วยน้ำยากันซึมด้วย
ทำกันสาดยื่นออกไปบริเวณหน้าต่าง
กรณีที่เป็นคอนโดซื้อ โดยเจ้าของมีสิทธิ์ที่จะตกแต่งหรือเปลี่ยนแปลงอะไรภายในห้องคอนโดก็ได้ อาจใช้วิธีการป้องกันน้ำฝนไม่ให้สาดกระเซ็นเข้ามาภายในห้องด้วยการติดกันสาดยื่นออกไปบริเวณหน้าต่าง โดยเลือกลักษณะของกันสาดที่เหมาะกับห้องคอนโดของตนเองที่สุด เท่านี้ก็สามารถดูแลคอนโดจากปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงฝนตกได้ดี เพราะฉะนั้นก่อนจะเริ่มเข้าสู่หน้าฝน มาตรวจสอบและเตรียมพร้อมคอนโดของคุณให้พร้อมรับมือกับปัญหาต่างๆ กันเลย
การดูแลคอนโดในหน้าฝน เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลยเด็ดขาด เพราะไม่เพียงแต่จะทำให้คอนโดเกิดความเสียหายเท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้อยู่อาศัยเสี่ยงอันตรายจากไฟฟ้าลัดวงจรและลื่นล้มบนพื้นที่เปียกได้อีกด้วย