เตรียมตัวก่อนยื่นกู้สินเชื่อบ้านและคอนโด เพิ่มโอกาสอนุมัติผ่าน

เมื่อคุณเจอโครงการคอนโด หรือบ้านที่ถูกใจ หากคุณมีเงินสดพร้อมมันคงไม่เป็นปัญหาหากจะซื้อสดไปเลย แต่เชื่อว่าหลายคนคงอยากเก็บเงินเหล่านั้นเอาไว้ลงทุน หรือทำอะไรที่ทำให้ก้อนเงินงอกเงยขึ้นมามากกว่านี้ ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับซื้อบ้านและคอนโดจึงหนีไม่พ้นการกู้สินเชื่อบ้านและคอนโด

เมื่อจะคิดจะกู้สินเชื่อบ้านและคอนโดกับธนาคารต่าง ๆ การเตรียมตัวถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เครดิต และความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งที่คุณต้องมี เพราะการที่ธนาคารจะอนุมัติเงินกู้ให้คุณ พวกเขาต้องแน่ใจว่าเงินกู้เหล่านั้นจะไม่สูญเปล่า ในบทความนี้เราจะช่วยแนะแนวทางคุณในการเตรียมตัวก่อนยื่นกู้สินเชื่อเพื่อให้กู้ง่าย และมีโอกาสกู้ผ่านได้มากขึ้นอีกด้วย

1. ประเมินตัวเอง ก่อนยื่นกู้สินเชื่อบ้านและคอนโด

แม้ว่าธนาคารจะให้เงินกู้สูงสุดตามรายได้สุทธิ แต่ไม่ได้หมายความว่า คุณจะกู้สินเชื่อบ้านและคอนโดได้เต็มความสามารถ เพราะหากพบภาระการผ่อนในข้อมูลเครดิตบูโร (Credit bureau) ก็ต้องนำมาหักออกจากรายได้ รวมถึงการพิจารณากู้สินเชื่อก็ต้องให้เป็นไปตามเงื่อนไขการกู้ของแต่ละธนาคาร ซึ่งขึ้นอยู่กับระยะเวลาขอกู้และอัตราดอกเบี้ย ณ ขณะนั้นที่เป็นตัวกำหนดว่าจะสามารถกู้ได้ในวงเงินเท่าไร

นอกจากนี้การกู้เต็มความสามารถจะทำให้คุณขาดความคล่องตัวในการบริหารเงินในแต่ละเดือน เนื่องจากคุณต้องหักเงินเดือนไปใช้หนี้ให้ธนาคาร และเหลือเงินเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นไว้สำหรับการใช้จ่าย

ดังนั้น เราควรเตรียมตัวประเมินตัวเองก่อนกู้สินเชื่อให้พร้อมไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ จำนวนเงินที่ต้องผ่อนต่อเดือนสำหรับการกู้สินเชือบ้านและคอนโดควรอยู่ที่ 40 - 50 % ของรายได้ เช่น คุณมีฐานเงินเดือนอยู่ที่ 30,000 บาท คุณควรผ่อนต่อเดือนประมาณ 15,000 บาท หรือคอนโดราคา 2 ล้านกว่า ๆ (ทั้งนี้จำนวนเงินการผ่อนชำระขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด) เพื่อให้การใช้จ่ายในการผ่อนรวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ยังอยู่ในสภาพคล่องและไม่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ 'ชักหน้าไม่ถึงหลัง' ในอนาคต

ESTOPOLIS แนะนำ : 

อยากคำนวณสินเชื่อเพื่อเตรียมตัวกู้บ้านและคอนโดแบบแม่นยำ ESTO ขอแนะนำ >>ระบบคำนวณสินเชื่อจาก ธอส. << คำนวณก่อนเพื่อเตรียมตัวยื่นกู้สินเชื่อบ้านและคอนโดได้อย่างสบายใจ และวางแผนการเงินได้อย่างคล่องมือ!

2. ก่อนยื่นกู้สินเชื่อบ้านและคอนโด ควรประเมินโครงการและตนเองก่อน

ความน่าเชื่อถือ ชื่อเสียง และคุณภาพของโครงการ รวมถึงความสามารถในการผ่อนชำระของตนเองเป็นสิ่งที่คุณควรประเมินให้รอบคอบ

การเลือกโครงการที่ดีและน่าเชื่อถือจะมีผลต่อสภาพการอยู่อาศัย เพราะเราต้องอยู่อาศัยในโครงการนั้นๆ เป็นระยะเวลานาน การเลือกยื่นกู้สินเชื่อบ้านและคอนโดกับโครงการที่น่าเชื่อถือนั้นจะช่วยป้องกันปัญหาที่ตามมาภายหลังได้เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเพื่อนบ้าน หรือปัญหาจากการดำเนินงานของโครงการเอง เป็นต้น

แต่อย่างไรก็ตามโครงการที่มีภาพลักษณ์ดีและน่าเชื่อถือมักจะเป็นโครงการแบรนด์เนมต่างๆ ที่มีราคาค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้นควรจะประเมินตนเองทุกครั้งก่อนการยื่นกู้ว่าโครงการที่เราเลือกมานั้นอยู่ในระดับความสามารถในการยื่นกู้ของตนเองหรือไม่ เพราะในแต่ละธนาคารจะพิจารณาอนุมัติวงเงินกู้ตามความสามารถในการผ่อนชำระของผู้กู้

ยกตัวอย่างเช่น การยื่นกู้สินเชื่อบ้านและคอนโดของ ธอส. จะพิจารณาจากรายได้ของผู้กู้ประกอบกับราคาซื้อขาย/ราคาประเมินหลักประกัน ซึ่งประเมินตามตามมูลค่าตลาด สภาพหลักประกันและทำเลที่ตั้ง เป็นต้น

Note :

นอกจากนี้ในแต่ละธนาคารก็มักจะทำการตลาดกับลูกค้าในกลุ่มที่มีศักยภาพสูงนี้ด้วยการอำนวยความสะดวกในการยื่นกู้ เช่น การรับเรื่องยื่นกู้นอกสถานที่, จัดอัตราดอกเบี้ยและโปรโมชั่นพิเศษให้กับลูกค้าที่ซื้อบ้านหรือคอนโดในโครงการที่มีศักยภาพเพื่อจูงใจให้ลูกค้าเลือกใช้บริการสินเชื่อของธนาคาร ฯลฯ ซึ่งก็ถือว่าเป็นข้อดีอีกอย่างสำหรับการเลือกยื่นกู้สินเชื่อบ้านและคอนโดในโครงการที่มีศักยภาพสูงอีกด้วย

3. เครดิตบูโร ตัวช่วยหนึ่งสำหรับคนอยากยื่นกู้สินเชื่อบ้านและคอนโดให้ผ่าน

สำหรับคนที่จะยื่นกู้สินเชื่อบ้านและคอนโด ในการพิจารณาของธนาคารจะมีเรื่องของการตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโร (Credit bureau) เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งธนาคารจะดูว่าเรามีเครดิตในการผ่อนชำระหนี้เป็นอย่างไร เช่น

• เป็นลูกหนี้ที่มีประวัติการผ่อนชำระหนี้ดีและตรงเวลา
• เป็นลูกหนี้ที่ใช้หนี้ไม่ตรงเวลาบ้าง
• เป็นลูกหนี้ที่มีประวัติค้างชำระ   

หากภาระหนี้สูงหรือประวัติการผ่อนชำระไม่ปกติ (มีหนี้ค้าง) ก็สันนิษฐานได้ว่าผู้กู้รายนั้นไม่สามารถรับภาระหนี้เพิ่มจากเดิมได้อีก

ดังนั้น การสร้างเครดิตที่ดีก็จะช่วยทำให้ทางธนาคารวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินของเราได้ง่ายขึ้น และดำเนินการในด้านเอกสารหรือทำเรื่องต่างๆ ได้ง่ายมากขึ้นด้วย

*หมายเหตุ : คำว่า แบล็คลิสต์ (Blacklist) ที่หลาย ๆ คนพูดกันเป็นสิ่งที่ธนาคารเป็นผู้กำหนดขึ้นเพื่อเรียกลูกหนี้ที่มีประวัติค้างชำระ ส่วนในข้อมูลเครดิตบูโร จะแสดงรายละเอียดบัญชี ประวัติการผ่อนชำระ เงินงวด ยอดหนี้คงค้าง และสถานะบัญชี

4. กู้คอนโดให้ผ่านง่าย ต้องจัดการหนี้คงค้าง

หัวข้อที่แล้วพูดเรื่องเป็นหนี้ แต่หัวข้อนี้จะเน้นให้คุณเลิกเป็นหนี้…เพราะหนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งที่นำมาใช้พิจารณาในการยื่นกู้สินเชื่อบ้านและคอนโดด้วยเช่นกัน

หากคุณมีหนี้ที่ต้องชำระ/เดือน สินเชื่อที่ธนาคารอนุมัติก็อาจจะลดลงตามหนี้ที่มี

เพราะการจะยื่นกู้สินเชื่อบ้านและคอนโด 'หนี้' จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทางธนาคารนำมาคิดคำนวณพร้อมกับรายได้สุทธิ หากเรามีรายได้น้อยแต่มีภาระหนี้สูงก็อาจทำให้ได้รับอนุมัติวงเงินกู้ไม่เต็มตามจำนวนเงินที่ต้องการ แต่ถ้าหากหนี้ของเราเป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับรายได้ ก็อาจไม่ส่งผลกระทบต่อวงเงินกู้ที่ธนาคารจะอนุมัติให้ เนื่องจากรายได้หลังหักภาระหนี้แล้วยังเพียงพอที่ธนาคารจะอนุมัติให้กู้ตามวงเงินตามที่เราต้องการ

แม้ว่าหนี้นอกระบบจะมองไม่เห็นในบูโร ธนาคารไม่สามารถตรวจสอบได้ แต่คุณก็ไม่ควรมองข้าม เพราะหนี้เหล่านี้มันส่งผลต่อความคล่องตัวในแต่ละเดือนของคุณจริง ๆ ณ จุดนี้คุณควรพร้อมจริง ๆ เพราะหนี้คอนโดเป็นหนี้ระยะยาว หากคุณผ่อนแล้วรู้สึกอึดอัด คุณก็จะต้องอดทนกับมันไปนาน

5. ตอนกู้ซื้อคอนโด บางธนาคารอาจจะอยากดูเงินเก็บของคุณ

ส่วนใหญ่จะเป็นในกรณีที่ธนาคารต้องการดูความมั่นคงของคุณจริง ๆ หรือจำนวนที่คุณยื่นกู้สินเชื่อบ้านและคอนโดมันอาจจะเกินความสามารถในการผ่อนของคุณที่ธนาคารประเมินไว้ไปนิดหน่อย หากเงินเก็บของคุณมีมากพอ และธนาคารดูแล้วพบว่าคุณสามารถดึงเงินเหล่านี้มาใช้ได้ยามฉุกเฉิน พวกเขาอาจจะใจอ่อนปล่อยกู้ในจำนวนที่คุณต้องการก็ได้

ในบางธนาคารก็ไม่ได้สนใจเงินเก็บเหล่านี้เลย เพราะธนาคารเองก็มองว่าเงินเก็บแบบบัญชีออมทรัพย์เป็นเงินที่ไม่งอกเงย แต่มีเงินเก็บยังไงก็ยังดีกว่า เพราะค่าใช้จ่ายที่ตามมาหลังจากยื่นกู้ก็ไม่ใช่เล่น ๆ เหมือนกัน บางคนถึงขั้นเงินเก็บหมด และได้หนี้เพิ่มไปอีกก็มี

• ขอสินเชื่อบ้านและคอนโดสำหรับอาชีพอิสระ ต้องยื่นภาษีอย่างถูกต้องก่อน
• เก็บหลักฐานทางการเงินอย่างน้อย 1 ปี ก่อนยื่นสินเชื่อบ้านและคอนโด

(สามารถอ่านรายละเอียดการกู้สินเชื่อของคนอาชีพอิสระแบบละเอียดต่อได้ที่ อาชีพอิสระ Freelancer จะกู้ซื้อคอนโดได้อย่างไร ธนาคารให้เท่าไร? เรามีคำตอบ)

ESTO แนะนำ : สินเชื่อบ้านและคอนโดจาก ธอส. ยื่นกู้ได้หลากหลายรูปแบบ

สำหรับการกู้สินเชื่อบ้านและคอนโดสำหรับคนทำงานประจำหรือผู้ประกอบอาชีพอิสระในหลายธนาคารอาจจะมีข้อกำหนดที่แตกต่างกันไป...

แต่สำหรับธนาคารที่ Esto อยากแนะนำให้สำหรับสายฟรีแลนซ์หรือคนทำงานประจำที่อยากกู้ซื้อคอนโดแล้วมีโอกาสที่จะกู้ผ่านมากขึ้น เนื่องจากมีโปรโมชั่นที่หลากหลายครอบคลุมทุกจุดประสงค์ของคนอยากมีบ้านและคอนโด ด้วยการยื่นขอสินเชื่อที่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน”

ข้อดีของการยื่นกู้สินเชื่อกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)

• มีโครงการสินเชื่อเฉพาะที่ออกแบบมาเพื่อจุดประสงค์เฉพาะเพื่อตอบทุกโจทย์การมีบ้าน
• มีโครงการสินเชื่อที่ตอบโจทย์กับทุกอาชีพ
• ได้ระยะเวลาผ่อนยาวนาน และอัตราดอกเบี้ยประหยัด
• ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร มีรายได้มากน้อยเท่าไหร่ก็สามารถยื่นกู้ได้ เพียงเตรียมหลักฐานต่างๆ ให้พร้อม และยื่นตามกระบวนการ ก็สามารถรอผลอนุมัติได้เลย

อยากเป็นหนึ่งคนที่มีบ้านและคอนโดได้ง่ายๆ ก็อย่าลืมเข้าไปตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับการกู้สินเชื่อบ้านและคอนโดของ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้เลยที่ : https://www.ghbank.co.th/product/loan/general-customer

หรือดูรายละเอียดสินเชื่อของ ธอส. ได้ที่ https://bit.ly/2Ysi0Xg

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ทางเว็บไซต์ Estopolis รวมรวมมาได้ และเรามั่นใจว่าถ้าคุณมีครบหมดคุณน่าจะกู้ผ่านได้อย่างแน่นอน แต่ถ้าใครยังกังวลเกี่ยวกับการกู้สินเชื่อบ้านและคอนโดว่าจะมีโอกาสผ่านมาก-น้อยแค่ไหน หรือจะมีโปรโมชั่นอะไรที่น่าสนใจในช่วงนี้ ก็อย่าลืมติดตามข่าวสารได้ที่ www.estopolis.com หรือสอบถามข้อมูลกันในช่องทางเพจ Estopolis.com ได้เลย!

บทความที่เกี่ยวข้อง :

• ESTOPOLIS | เงินเดือนเท่านี้กู้ซื้อคอนโดได้เท่าไร กับขั้นตอนการกู้-ผ่อนโดยละเอียด
• ESTOPOLIS | กู้ซื้อคอนโดกับธนาคารไหนดีในยุค 4.0
  
• ESTOPOLIS กับ 5 หลักเกณฑ์เลือกกู้คอนโดธนาคารไหนดี มาหาคำตอบกัน