รูปบทความ บีทีเอส-แสนสิริ เปิดม่านเดอะ ไลน์ จตุจักร – หมอชิต

เดอะ ไลน์ จตุจักร - หมอชิต ผลตอบรับดีทั้งจากลูกค้าไทยและต่างชาติ พร้อมโอนกรรมสิทธิ์แล้ว

บีทีเอส-แสนสิริ เปิดม่าน เดอะ ไลน์ จตุจักร – หมอชิต มูลค่า 6,000 ล้านบาท เผยผลตอบรับดีทั้งจากลูกค้าไทยและต่างชาติ
พร้อมโอนกรรมสิทธิ์แล้ว ลุยสานต่อแผนร่วมทุนระยะยาวกับบีทีเอส 


หลายคนอาจจจะเคยได้ยินมา เดอะ ไลน์ จตุจักร – หมอชิต คอนโดที่ทางแสนสิริร่วมทุนกับบีทีเอสมีกำหนดสร้างเสร็จเดือนกุมภาพันธ์ปี 2561 ล่าสุดนี้ ทางบริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ป จำกัด (ชื่อบริษัทที่แสนสิริร่วมหุ้นกับบีทีเอส) ได้แจ้งว่าตอนนี้ เดอะ ไลน์ จตุจักร – หมอชิต ได้ทำการสร้างเสร็จเป็นที่เรียบร้อยและพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ เป็นข่าวดีของลูกบ้านที่จับจองไปเมื่อปี 58 ดังนั้นจึงนับว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ทาง Estopolis ได้ไปร่วมชมห้องตัวอย่าง ถึงแม้ว่าโครงการนี้จะขายหมดไปในวันแรกก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีห้องรีเซล 5- 10% ให้หลายคนได้เข้าไปมีสิทธิ์เป็นเจ้าของกัน ทั้งนี้หากใครสนใจอยากทราบรายละเอียดและข้อมูลลองเข้าไปสอบถามที่โครงการได้เลยครับ


สำหรับ เดอะ ไลน์ จตุจักร – หมอชิต เป็นโครงการแรกภายใต้การพัฒนาของบริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ป จำกัด หลังสร้างปรากฏการณ์ขายโครงการที่อยู่อาศัยพร้อมกันหลายประเทศเป็นครั้งแรกเมื่อสองปีก่อน และได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติ ขณะนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้ลูกบ้านเข้ามาตรวจรับมอบห้องเพื่อดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์แล้ว ทางโครงการมั่นใจว่าสามารถโอนได้กว่า 3,000 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้ นับว่าเป็นการตอกย้ำความสำเร็จอย่างงดงาม ด้วยจุดเด่นของทำเลจะเป็นศูนย์กลางเครือข่ายการคมนาคมที่สำคัญที่สุดของไทยในอนาคตอันใกล้ เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยและการลงทุนที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุดในระยะยาว พรั่งพร้อมด้วยองค์ประกอบเพื่อความสะดวกสบายสำหรับชีวิตคนเมือง ทั้งยังมีไฮไลต์การอัพเกรดเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยในโครงการ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลอย่างไร้รอยต่อ พร้อมสานต่อความสำเร็จกับการผนึกกำลังร่วมทุนกันในระยะยาว


เดอะ ไลน์ จตุจักร – หมอชิต เป็นคอนโดมิเนียมแบบไฮไรส์สูง 43 ชั้น จำนวน 841 ยูนิต มีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 25.25 – 105.75 ตร.ม ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดกว่า 4 ไร่ ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีหมอชิต และรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสวนจตุจักร พร้อมสกายวอล์คจากบีทีเอสสถานีหมอชิตเชื่อมต่อโครงการผ่านคอมมูนิตี้ มอลล์ด้านหน้าโครงการเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้อยู่อาศัยในโครงการมากขึ้น โดยมีพร้อมใช้งานในต้นปี 2561 นอกจากนี้โดยรอบโครงการยังแวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ทั้งอาคารสำนักงาน โรงพยาบาล ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ตลาดนัดจตุจักร ตลาด อตก. รวมถึงพื้นที่สีเขียวโดยรอบกว่า 700 ไร่

นายกวิน กาญจนพาสน์ (ที่สองจากซ้ายมือ) นายอภิชาติ จูตระกูล (คนที่สองจากขวามือ)  นางสาววรางคณา อัครสถาพร  (คนที่หนึ่งจากขวามือ)


นายกวิน กาญจนพาสน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เดอะ ไลน์ จตุจักร – หมอชิต ถือเป็นโครงการแรกที่เราร่วมกันพัฒนาเพื่อสร้างสรรค์ความเป็นเลิศในทุกมิติ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีมาก เรียกได้ว่าเป็นการพลิกโฉมวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยเมื่อสองปีก่อน โดยเราพร้อมจะสานต่อความสำเร็จนี้ ด้วยความแข็งแกร่งในด้านเงินทุนของกลุ่มบริษัทบีทีเอส รวมถึงการมีที่ดินทำเลดีที่พร้อมพัฒนาอยู่ในมือ เมื่อผนวกรวมกับความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของแสนสิริ เพื่อการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ต่อไปในอนาคต”  


นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “โครงการเดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต เปิดตัวในปี 2558 และสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในแวดวงอสังหาฯไทยเป็นครั้งแรกด้วยการเปิดขายพร้อมกันทั้ง 3 ประเทศ คือประเทศไทย ฮ่องกง และสิงคโปร์ มีลูกค้าต่างชาติให้ความสนใจโครงการและเข้าร่วมงานโรดโชว์กว่า 2,500 ราย โดยสัดส่วนผู้ซื้อโครงการเป็นคนไทย 85% และชาวต่างชาติ 15%

จากความสำเร็จในครั้งนี้ บีทีเอสและแสนสิริจึงได้ร่วมกันพัฒนาโครงการแบรนด์เดอะ ไลน์ อย่างต่อเนื่อง อาทิ เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71, เดอะ ไลน์ ราชเทวี, เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา ซึ่งสามารถปิดการขายได้ตั้งแต่ในวันพรีเซล รวมถึงการคว้ารางวัลชนะเลิศใน 4 สาขาใหญ่ จากเวที “ไทยแลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ อวอร์ดส์ ครั้งที่ 12” สำหรับโครงการเดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101 และเดอะ ไลน์ พหลฯ-ประดิพัทธ์ ซึ่งทุกโครงการประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยมทั้งด้านยอดขาย และการพัฒนาโครงการฯ ทั้งตลาดลูกค้าในประเทศและต่างประเทศเช่นเดียวกัน โดยพร้อมที่จะตอบโจทย์การอยู่อาศัยของผู้บริโภคยุคใหม่เสมอ และในอนาคตเรายังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์เดอะ ไลน์ และแบรนด์อื่นๆ อย่างต่อเนื่อง ตามแผนลงทุน 5 ปี ที่วางไว้ไม่ต่ำกว่า 25 โครงการ มีมูลค่ารวมกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งการเป็นพันธมิตรในระยะยาวของบีทีเอสและแสนสิริ จะช่วยเพิ่มความเป็นเลิศในการรังสรรค์โครงการ รวมถึงความเชื่อมั่นในตัวผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ โดยในปีหน้า เรามีแผนที่จะเตรียมโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมภายใต้บริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ป จำกัด เพิ่มอีก 3 โครงการ ได้แก่ เดอะ ไลน์ ราชเทวี, เดอะ ไลน์ อโศก – รัชดา และโครงการเดอะ เบส การ์เดน - พระราม 9 โดยมีรวมมูลค่ากว่า 10,200 ล้านบาท และปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ของบริษัทร่วมทุนกับบีทีเอสที่จะรอการรับรู้รายได้ใน 3 ปี อีก 24,000 ล้านบาท”

นางสาววรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “โครงการเดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต เป็นตัวเลือกที่ให้ความคุ้มค่ามาก เมื่อพิจารณาจากจุดแข็งด้านต่าง ๆ ของโครงการในแง่ของการอยู่อาศัยด้วยทำเลที่ตั้งอยู่บนศูนย์กลางการคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในไทย ทั้งยังเป็น Smart Condo แห่งแรกของแสนสิริที่เราเพิ่มเติมเทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่เราให้ตลอดสองปีในการก่อสร้างทั้งนี้ ปัจจัยแห่งความสำเร็จของโครงการเดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต ได้แก่


1. ความเชื่อมั่นในศักยภาพของแบรนด์บีทีเอสและแสนสิริ – การผนึกกำลังระหว่างบีทีเอส ที่มีความแข็งแกร่งในด้านเงินทุนและทีดินทำเลศักยภาพ กับแสนสิริที่เป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทยมาหลายทศวรรษ เป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นในตัวแบรนด์สำหรับผู้บริโภคทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทำให้มีผู้สนใจโครงการตั้งแต่ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ


2. ศักยภาพด้านทำเลพหลโยธิน-ลาดพร้าว ถือได้ว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงมากในระยะยาว ด้วยโครงการศูนย์คมนาคมพหลโยธิน หรือสถานีกลางบางซื่อ ซึ่งเมื่อเสร็จสมบูรณ์ จะทำให้พื้นที่นี้เป็นศูนย์กลางด้านคมนาคมขนส่งที่สำคัญและใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เป็นทั้งจุดเชื่อมโยงรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ รถไฟจากกรุงเทพฯ สู่ภูมิภาค และรถไฟความเร็วสูงครอบคลุม 4 เส้นทางทั่วทุกภาค และมีแผนการขยายเส้นทางถึงประเทศเพื่อนบ้านด้วย ที่สำคัญยังเป็นชุมทางรถโดยสารสาธารณะทางด่วน 2 สาย จึงทำให้มีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ในบริเวณโดยรอบเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งราคาที่ดินและราคาขายเฉลี่ยคอนโดมิเนียมที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นมี Gross Rental Yield เฉลี่ยอยู่ที่ 5-6 % ต่อปี สำหรับโครงการ เดอะ ไลน์ จตุจักร – หมอชิต มีราคาเฉลี่ยที่ประมาณ 170,000 บาท/ตร.ม เมื่อตอนเปิดโครงการปี 2558 และปัจจุบันราคาพุ่งขึ้นเป็น 185,000 ล้านบาท/ตร.ม. หรือประมาณ 10% และในอนาคตราคายังมีโอกาสที่จะขยับตัวได้อีกอย่างมาก หากแผนพัฒนาพื้นที่ตามแผนของรัฐบาลก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ นอกจากนี้โครงการยังรายล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียวจากสวนสาธารณะที่มีขนาด 700 ไร่ และวิวเมืองที่สวยงามโดดเด่น เมื่อพิจารณาทุกองค์ประกอบแล้ว จึงเหมาะสำหรับการอยู่อาศัยเองและสำหรับการลงทุนในระยะยาว


3. Smart Condominium แห่งแรกของแสนสิริ – การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัย เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล ประกอบด้วย


• ระบบการเข้าออกอาคารโดยใช้บัตรแรบบิตการ์ดรุ่นพิเศษ ที่สามารถใช้ทั้งเป็นตั๋วโดยสาร บีทีเอส และเข้าออกคอนโดมิเนียม และพื้นที่สันทนาการอื่น ๆ ในโครงการ, ระบบ RFID สำหรับการเปิด ปิด ทางเข้าคอนโดโดยอัตโนมัติ


• ระบบ Booking Facility เพื่ออำนวยความสะดวกในการจองห้องและสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางผ่าน Home Service Application,


• ระบบเปิดปิดไฟในพื้นที่ส่วนกลางแบบอัตโนมัติ เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน


• Smart Locker สามารถใช้โค้ดส่วนตัวมาเปิดรับของได้ด้วยตนเองจาก locker ได้ตลอดเวลาพร้อมตรวจสอบได้จากทาง Home Service Applications


• Trendy Wash ระบบการเติมเงินซักผ้าใน E-wallet ที่สอดคล้องกับเทรนด์สังคมไร้เงินสด (Cashless) พร้อมระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อเครื่องซักผ้าเสร็จเรียบร้อย


• Good Waste Refun Machine ตู้รีไซเคิลขวดอัตโนมัติ ลูกบ้านสามารถนำขวดพลาสติกมารีไซเคิลในเครื่อง เพื่อเปลี่ยนเป็นเงินเข้าส่วนกลางเพื่อบำรุงโครงการ หรือบริจาคเข้ามูลนิธิตามที่กำหนด

• Smart Move บริการเช่ายานพาหนะในโครงการของแสนสิริเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตให้กับคนรุ่นใหม่ โดยมี รถยนต์ BMW รุ่น i3 ที่ควบคุมและใช้พลังงานไฟฟ้า 100% สำหรับ Car Sharing ให้ลูกบ้านได้เช่าใช้ และคิดค่าบริการจริงเป็นนาที พร้อม EV Charger เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า


นอกจากนั้น ยังมีการยกระดับระบบในอาคารและองค์ประกอบต่าง ๆ เพิ่มเติม อาทิ ระบบการระบายอากาศ (Ventilation system) ทำให้อากาศไหลเวียนและถ่ายเทภายในโครงการ โดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องปรับอากาศในบางวัน, Blocks wall ภายในห้องเด็กเล่น เป็นเอาไฮไลท์ส่งตรงจากงาน Milan Fair เพื่อให้น้อง ๆ ได้ส่งเสริมจินตนาการไม่รู้จบ, ฟิตเนสที่เห็นวิว 360 องศา พร้อมด้วยเครื่องออกกำลังกายชั้นนำระดับโลกที่ครบครัน และพิเศษยิ่งกว่าสำหรับเครื่องออกกำลังกายที่ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้รถเข็นโดยเฉพาะ ฯลฯ


จากความสำเร็จอันล้นหลามจากโครงการ เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต รวมถึงโครงการคอนโดมิเนียมอื่นๆ ภายใต้แบรนด์ เดอะ ไลน์ ในเร็วๆ นี้ เตรียมพบกับการเปิดตัวโครงการ เดอะ ไลน์ สาทร โครงการคอนโดมิเนียมแบบไฮไรส์ล่าสุด ที่จะชูจุดเด่นทั้งในด้านสุดยอดทำเล 0 เมตรจาก รถไฟฟ้าสถานีสุรศักดิ์ และนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยอีกเช่นเคย  ติดตามอ่านพรีวิว เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต ได้เร็วๆนี้


เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?

Related Stories

Esto Talks

See All >

Living out loud

Living out loud : VANA RESIDENCE พระราม 9 - ศรีนครินทร์