เคล็ด (ไม่) ลับ ผ่อนคอนโดมิเนียมยังไงให้หมดไวขึ้น
6 July 2562
ไม่มีใครอยากมีหนี้สินค้างคากันทั้งนั้น การผ่อนหนี้สินให้หมดไวที่สุดเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องการ แต่จะทำยังไงให้ผ่อนได้หมดไวโดยไม่เบียดเบียนตัวเอง และจะมีวิธีไหนบ้างที่ทำให้สามารถผ่อนได้เร็วขึ้น วันนี้ Esto จึงมีเคล็ด (ไม่) ลับในการผ่อนคอนโดมิเนียมมาฝากกัน
การรีไฟแนนซ์คืออะไร แล้วทำไมต้องรีไฟแนนซ์ ?
โดยทั่วไปแล้ววิธีที่คนผ่อนบ้านและคอนโดมิเนียมนิยมใช้กันในการลดดอกเบี้ยให้ถูกลง คือการรีไฟแนนซ์ (Re-Finance) ว่าแต่การรีไฟแนนซ์คืออะไรและมีเงื่อนไขยังไงบ้าง เรามาทำความรู้จักกันก่อนดีกว่า
การรีไฟแนนซ์ (Re-Finance) สามารถอธิบายได้แบบง่ายๆ คือ การรีไฟแนนซ์เป็นการขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จากธนาคารเดิม แต่จะเป็นการกู้กับธนาคารใหม่ ซึ่งจะทำให้เราสามารถจ่ายดอกเบี้ยได้ในราคาที่ถูกลง แต่มีเงื่อนไขว่าต้องขอรีไฟแนนซ์หลังจากผ่อนไปแล้ว 3 - 5 ปี (แล้วแต่เงื่อนไขของแต่ละธนาคาร) เพราะหากขอรีไฟแนนซ์ก่อนกำหนดก็จะต้องจ่ายค่าปรับ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะปรับที่ 3% ของวงเงินกู้ ดังนั้นก่อนที่จะทำการรีไฟแนนซ์จึงควรศึกษาข้อกำหนดของธนาคารให้เรียบร้อยเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
ข้อดีของการรีไฟแนนซ์
- ช่วยทำให้ลดดอกเบี้ย
- สามารถยืดระยะเวลาการผ่อนให้ยาวขึ้นได้
- สามารถขอวงเงินเพิ่มได้ (เงื่อนไขแล้วแต่ธนาคาร)
ข้อเสียของการรีไฟแนนซ์
- ต้องเตรียมเอกสารหลายอย่างเพื่อดำเนินการกับทางธนาคาร
- ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการดำเนินการต่างๆ
จากการเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียน่าจะเห็นกันแล้วว่าการรีไฟแนนซ์นั้นน่าสนใจมากทีเดียว และนอกจากการรีไฟแนนซ์แล้วก็ยังมีเคล็ด (ไม่) ลับในการผ่อนคอนโดให้หมดไวขึ้นมาฝากกันด้วย
5 เคล็ด (ไม่) ลับในการผ่อนคอนโดให้หมดไวขึ้น
ขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากธนาคาร
ลูกค้าที่จ่ายค่างวดตรงตามกำหนดอย่างสม่ำเสมอเป็นระยะเวลา 3 ปีขึ้นไป สามารถขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยกับทางธนาคารเจ้าหนี้ได้เป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากลูกค้าประเภทนี้จัดเป็นลูกค้าชั้นดี ไม่มีประวัติเสีย จ่ายค่างวดตรงตามเวลา จึงทำให้สามารถยื่นขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้เลย โดยจะลดได้มากน้อยแค่ไหนนั้นเงื่อนไขขึ้นอยู่กับธนาคารเจ้าของหนี้กำหนด
ส่งค่างวดให้ตรงตามเวลา และเต็มจำนวน
จากที่กล่าวไปในข้อแรก จะเห็นแล้วว่าการส่งค่างวดให้ตรงเวลาและเต็มจำนวนนั้นสำคัญแค่ไหน เพราะเมื่อเรามีวินัยในการชำระเงินค่างวดย่อมเป็นผลดีกับเราเสมอ เมื่อเราจะยื่นขอรีไฟแนนซ์หรือขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยก็จะสามารถทำได้โดยง่ายนั่นเอง
โปะเงินก้อน
วิธีนี้เป็นวิธีที่หลายๆ คนน่าจะทราบกันดี นั่นคือการนำเงินก้อนมาโปะค่างวด เช่น เงินที่ได้จากโบนัสรายปีก็แบ่งมาโปะค่างวด หรือเงินที่ได้จากการทำงานพิเศษ เป็นต้น ซึ่งการจะนำเงินก้อนมาโปะค่างวดนั้น ต้องวางแผนการเงินกันให้ดี เพื่อที่จะได้ไม่กระทบกับรายจ่ายหลัก และหากนำเงินที่ได้ในโอกาสพิเศษมาโปะค่างวดได้บ่อยๆ ก็จะช่วยทำให้สามารถผ่อนคอนโดมดได้ไวยิ่งขึ้น
รีบโปะเงินในช่วงที่ดอกเบี้ยต่ำ
เราควรโปะเงินก้อนในช่วง 1 - 3 ปีแรกที่ผ่อนคอนโดฯ เนื่องจากจะเป็นช่วงเวลาที่อัตราดอกเบี้ยถูกที่สุด ทำให้สามารถลดเงินต้นได้เยอะ ซึ่งจะทำให้เราไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงในปีหลังๆ หรือหากยังไม่มีเงินก้อนพร้อมโปะในช่วง 1 - 3 ปีแรก ก็ให้ออมเงินไว้รอโปะเงินก้อนหลังจากที่ทำการรีไฟแนนซ์ เพราะหลังจากรีไฟแนนซ์แล้วก็จะได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนั่นเอง
ออมเงินจ่ายค่างวดเพิ่มขึ้น 10%
อีกวิธีที่จะทำให้ช่วยผ่อนคอนโดหมดได้ไวขึ้นคือ การจ่ายค่างวดเพิ่มขึ้น 10% จากค่างวดเดิม เช่น ต้องจ่ายค่างวดเดือนละ 15,000 บาท ก็ให้จ่ายเพิ่มอีก 1,500 บาทในทุกเดือน เป็นต้น การจ่ายค่างวดเพิ่มเพียงแค่ 10% นี้จะไม่กระทบการใช้ชีวิตประจำวันมากนัก เนื่องจากเป็นจำนวนเงินที่ไม่มากและสามารถออมได้ เมื่อชำระแบบนี้ไปเรื่อยๆ ทุกเดือนก็จะช่วยทำให้สามารถผ่อนหมดได้ไวขึ้นอีกทาง
นอกจากเคล็ด (ไม่) ลับเหล่านี้แล้ว สิ่งสำคัญที่สุดที่ทุกคนควรมีนั่นคือ การไม่ซื้อคอนโดที่แพงเกินกำลังผ่อนของตนเองและต้องมีวินัยในการจ่ายค่างวด นอกจากนี้การศึกษาข้อกำหนดของทางธนาคารก็สำคัญ ดังนั้นเมื่อต้องการจะดำเนินการทางการเงินต่างๆ สามารถขอคำปรึกษาจากธนาคารเจ้าของหนี้เพื่อเป็นแนวทางในการวางแผนการชำระเงินที่ดีได้เช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง
คอร์สเรียนพัฒนา Skills ฟรี เกี่ยวกับการบริหาร การเงิน การจัดการหรือการตลาด
แนะนำ 5 ย่านคอนโดราคาประหยัด ที่ตอบโจทย์มนุษย์เงินเดือน
รวมวิธีจัดพอร์ตลงทุน ฉบับมนุษย์เงินเดือนยังไง ให้เก็บเงินทันก่อนวัยเกษียณ
เงินเดือนสองหมื่นออมอย่างไรให้ได้เงินเก็บหลักแสน
รวม 7 หนังสือบริหารเงิน ให้เงินไม่ขาดแคลน