เคล็ดลับดีๆ ในการเตรียมความพร้อมทางการเงิน
11 June 2560
ขั้นตอนดีๆ ที่จะทำให้คุณมีความพร้อมทางการเงิน เพื่ออนาคตที่สุขสบายในภายหน้า
ในปัจจุบันนี้ เชื่อว่า เงิน กำลังจะเข้ามาเป็นปัจจัยหลัก และกลายมาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการดำเนินขีวิตของมนุษย์เรา เพราะไม่ว่าจะอะไร ก็แทบจะต้องใช้เงินทั้งสิ้น ดังนั้นจึงปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายคนก็ฝันว่าอยากจะมีอิสรภาพทางการเงิน มีกินมีใช้ ไม่เดือดร้อน และสามารถตัวเองตัวเองได้อย่างสบายๆ ไม่ว่าจะมีภาระเรื่องการใช้เงินหรือภาระเรื่องอื่นๆก็ตาม
ณ วันนี้ ที่เรายังมีแรงทำงานหารายได้ได้ออย่างสม่ำเสมอนั้น เราควรจะเริ่มวางแผนการใช้ชีวิต และการใช้เงินของเราให้ดีเสียตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่แน่ว่าถ้าเราทำตามแผนการที่ดีได้แล้ว เราอาจจะมีอิสระทางการเงิน แล้วกลายเป็นคนที่ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ไม่มีปัญหาเรื่องเงินให้ทุกข์ใจเลยก็ได้
สุขภาพการเงินดี สุขภาพชีวิตก็ดีตามไปด้วย
1. มีสภาพคล่องทางการเงินที่ดี
ที่ว่าเราควรจะมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีเพื่อเตรียมตัวให้มีความพร้อมทางการเงิน หมายถึงว่า เราควรจะมีเงินจำนวนหนึางที่เอาไว้ใช้สอยได้ หรืออาจจะเป็นเวินที่เก็บเอาไว้ยามฉุกเฉิน เพื่อให้เราไม่ต้องเดือดร้อนหรือไปหากู้ยืมจากที่อื่นมา ซึ่งเงินตรงนี้แหละที่จะมาช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้เราได้แบบไม่ต้องกังวล แล้วเงินที่ว่าจะช่วยให้มีสภาพคล่องนี้ควรจะมีเท่าไหร่ล่ะ คิดง่ายๆว่าเราควรจะมีเงินจำนวน 6 เท่า ของค่าใช้จ่ายที่เราต้องใช้ประจำ สมมุติว่าเรามีภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือนอยู่ที่ 5,000 บาท เราก็ควรจะมีเงินก้อนไว้สัก 30,000 บาทเผื่อใช้ในยามจำเป็น
2. เตรียมเงินสำรองเพื่ออนาคต
หลายๆคนในยุคนี้คงจะได้รับข้อมูลเรื่องการลงทุนหรือเคล็ดลับการออมกันมามากมาย โดยเฉพาะกับวัยรุ่นยุคใหม่ที่เริ่มสนใจมาลงทุนในหุ้นและกองทุนกันมากขึ้น อยากจะมีpassive incomeในอนาคต บางคนที่บริษัทอาจจะมีกอวทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือลงทุนในหุ้น กองทุนที่มีปันผล หรืออาจจะทำประกันชีวิตสำหรับวัยเกษียณเิาไว้แต่เนิ่นๆตั้งแต่ยังอยู่ในวัยทำงาน
3. พร้อมสำหรับการลงทุน
ที่บอกว่าให้พร้อมสำหรับการลงทุนนั้น ก็เกี่ยวโยงกันกับการเตรียมทุนสำรองในจ้อที่ผ่านมา เพียงแต่ว่าเป็นสเต็ปต่อไป เมื่อเรามีเงินก้อนที่เตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว ทั้งที่มาจากการลงทุนก่อนหน้า หรือเงินที่เก็บออมไว้เผื่อใช้ในยามฉุกเฉิน แต่ในระหว่างทาง เราอาจจะบังเอิญได้พบโอกาสที่ดีที่จะทำการลงทุนกับอะไนสักอย่าง ที่เราดูแล้วว่าในอนาคตน่าจะทำให้เงินทุนที่เราลงไปนั้นงอกเงยขึ้นมาได้ เมื่อเรามีเสถียรภาพ มีความพร้อมที่จะลงทุนให้ได้กำไรเพิ่มเข้ามา ก็ให้ลองคำนวนเงินที่จะเอาไปลงทุนกับจำนวนเงินที่เรามีอยู่ แล้วแบ่งส่วนที่คิดว่าถ้านำไปลงทุนแล้วจะไม่ทำให้เราเดือนร้อน
นอกจากการลงทุนในหุ้นหรือกองทุนแล้ว เรื่องของภาษีก็สำคัญเช่นกัน เราควรวางแผนการใช้เงินให้ดี รายได้มีเท่าไหร่ ต้องเสียภาษีเท่าไหร่ แล้วเราควรจะซื้อกองทุนหรือประกันชีวิตที่สามารถนำมาเป็นประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี และเป็นเงินออมของเราในอนาคตได้กี่ตัว เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายในเรื่องภาษี และเป็นการออมเงินระยะยาววิธีหนึ่งด้วย