เติมเต็มทุกพลังบวกให้ชีวิตกับ Chewathai Residence Thonglor (ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ ทองหล่อ) คอนโดทำเลดีแบบวิถีคนเมือง

มีใครกำลังตามหาคอนโดใหม่ๆ ในย่านทองหล่ออยู่บ้างหรือเปล่า?

สำหรับวันนี้ Estopolis เราจะขอพาชาวคอนโดออกตามหาที่อยู่อาศัยดีๆ บนทำเลศักยภาพ เพื่อเพิ่มพลังให้ชีวิตได้มีชีวากันที่ ‘ทองหล่อ’ ทำเลยอดฮิตติดอันดับต้นๆ สามารถตอบสนองความต้องการด้านไลฟ์สไตล์ได้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ

พร้อมเดินเลาะรั้วดูคอนโดใหม่อย่าง Chewathai Residence Thonglor (ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ ทองหล่อ) คอนโด Low Rise น้องใหม่ในซอยทองหล่อ 20 ที่จะมาช่วยเติมดีมานด์ด้านการอยู่อาศัยของย่านทองหล่อให้เต็มมากยิ่งขึ้น ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 5.59 ล้านบาท

ข้อมูลเบื้องต้นของโครงการ Chewathai Residence Thonglor (ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ ทองหล่อ)

ชื่อโครงการ : Chewathai Residence Thonglor (ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ ทองหล่อ)

เจ้าของโครงการ : Chewathai PLC

ที่ตั้งโครงการ : ถนนสุขุมวิท 55 ซอยสุขุมวิท 20 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

ลักษณะโครงการ : โครงการ Low Rise สูง 8 ชั้น

พื้นที่โครงการ : 1-0-94 ไร่

จำนวนยูนิต : 130 ยูนิต

รูปแบบห้อง :

1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 29.76 - 40.88 ตารางเมตร

1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 41.46 - 52.02 ตารางเมตร

2 Bedrooms พื้นที่ใช้สอย 41.65 - 61.89 ตารางเมตร

ที่จอดรถ : 70 คันและ 2 EV Charger

ปีที่สร้างเสร็จ : 2020

โปรโมชั่น : สำหรับวันที่ 10-11 พฤศจิกายนนี้ ทางโครงการจะเปิด Pre Sales สามารถลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใครได้ที่ https://goo.gl/ojQYtf 

ทำความรู้จักกับคอนโด Chewathai Residence Thonglor (ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ ทองหล่อ)

Chewathai Residence Thonglor (ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ ทองหล่อ) เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้นจาก Chewathai PLC ที่สร้างสรรค์ธรรมชาติไว้ล้อมรอบตัวคุณ ด้วยดีไซน์การตกแต่งที่แปลกตา ทั้งยังจัดวางให้อยู่ในสุดยอดทำเลทองอย่าง “ทองหล่อ” พร้อมมอบความเป็นส่วนตัวให้คุณด้วยจำนวนห้องพักอาศัยเพียง 130 ยูนิตบนพื้นที่กว่า 1-0-94 ไร่ ทั้งยังให้พื้นที่ส่วนกลางอีกมากมาย เพื่อที่คุณจะได้เติมเต็มพลังบวกกันอย่างเต็มพิกัด 

แผนผังอาคารของโครงการ Chewathai Residence Thonglor (ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ ทองหล่อ)

ที่ตั้งของโครงการ Chewathai Residence Thonglor (ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ ทองหล่อ) 

หากมองในแง่ของทำเลที่ตั้งโครงการ Chewathai Residence Thonglor (ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ ทองหล่อ) ซึ่งตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 20 หรือเรียกอีกชื่อว่าซอยแจ่มจันทร์แล้ว จะเป็นซอยเล็กๆ ไม่ได้มีคนพลุกพล่านเท่ากับถนนใหญ่ด้านนอก จึงเหมาะสำหรับการพักผ่อนเพื่อชาร์จพลังให้ร่างกายอย่างเต็มที่ในช่วงวันหยุด 

สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกภายในซอยนี้ก็มีทั้งร้านอาหาร, โรงเรียน, ร้านค้า, Community Mall เล็กๆ รวมไปถึงร้านขายเฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจเปิดให้บริการอยู่รอบๆ โครงการ ดูแล้วก็เหมาะสำหรับคนที่อยากลองใช้ชีวิตแบบสงบๆ หลบหลีกความวุ่นวายภายนอก แต่ก็ไม่ได้ถึงกลับตัดขาดจากความสะดวกสบายซะทีเดียว เพราะแค่คุณก้าวเท้าออกจากคอนโดก็จะพบกับแสงสีระดับ Hi-end Lifestyle ของย่านทองหล่อแล้ว 

Sales Gallery ของโครงการ Chewathai Residence Thonglor (ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ ทองหล่อ) จะตั้งอยู่ที่อาคาร Capital Work place ชั้น 1 ส่วนไซต์ก่อสร้างจะอยู่ถัดไปอีกเล็กน้อย ซึ่งในปัจจุบันกำลังอยู่ในระหว่างการล้อมรั้ว

นอกจากนี้ซอยทองหล่อ 20 ยังเป็นเส้นทางลัดระหว่างย่านทองหล่อไปยังเอกมัย โดยเราจะออกไปทะลุที่ซอยเอกมัย 21 นับเป็นซอยที่ค่อนข้างสะดวกสบายสำหรับคนขับรถยนต์ส่วนตัวแล้วต้องการหาที่อยู่อาศัยที่สะดวกต่อการขับรถไปไหนมาไหนเป็นพิเศษ 

แต่เมื่อเราขับรถออกมาจากซอยทองหล่อ 20 ก็จะเจอเข้ากับถนนหลักอย่างเส้นสุขุมวิท 55 ที่ฝั่งหนึ่งจะเชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิท ที่เรานิยมใช้ในการขับรถเข้า-ออกเมือง สามารถไปยังจังหวัดสมุทรปราการ หรือจะใช้ผ่านเข้าสู่จังหวัดในภาคตะวันออก ซึ่งเป็นจังหวัดที่โดดเด่นด้านการส่งออกและอุตสาหกรรมของไทยก็ได้เช่นกัน

ส่วนอีกฝั่งหนึ่งของซอยสุขุมวิท 55 จะเชื่อมต่อกับถนนเพชรบุรี อีกหนึ่งถนนสายหลักที่สามารถเชื่อมต่อออกไปยังย่านพระราม 9, รัชดาฯ และอโศกได้ ซึ่งย่านเหล่านี้ต่างเป็นเขต CBD และ New CBD ของกรุงเทพมหานคร ทำให้ทองหล่อเป็นทำเลหนึ่งที่เหมาะสำหรับคนใช้รถใช้ถนนในการเดินทางเพื่อเข้า-ออกเมืองอยู่บ่อยๆ

จะบอกว่า ทองหล่อ เป็นทำเลแห่งความสะดวกสบายก็คงไม่ผิดนัก

หากลองคิดเปรียบเทียบทำเลนี้ในแง่ของความมีเอกลักษณ์แล้ว ทองหล่อคงเป็นตัวแทนของแหล่งไลฟ์ไตล์ที่ไม่เคยหลับใหล มีระบบการคมนาคมที่สะดวกสบาย รวมถึงการเป็นทำเลหลักของการสร้าง Residential ที่บรรดาเศรษฐีเมืองไทยให้ความสนใจ หรือถ้าเป็นคอนโดในทำเลนี้ก็มักอยู่ในระดับ Luxury ขึ้นไป

สอดคล้องกับผลการวิจัยจาก Nexus ที่ชี้ให้เห็นว่าช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ราคาคอนโดมิเนียมในย่านทองหล่อปรับตัวสูงขึ้นถึง 40% โดยในปัจจุบันมีราคาขายอยู่ที่ประมาณ 255,000 บาท/ตารางเมตร

ดังนั้นใครที่กำลังตัดสินใจว่าจะลงทุนซื้อคอนโด Chewathai Residence Thonglor (ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ ทองหล่อ) ดีหรือไม่ ก็คงจะได้คำตอบเรื่องความคุ้มค่ากันไปบ้างแล้ว นับเป็นทำเลศักยภาพที่เรียกได้ว่าจัดอยู่ในระดับพรีเมียมของกรุงเทพฯ ชั้นใน ทั้งยังมีพลังบวกมาช่วยขับเคลื่อนให้วิถีชีวิตของเราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

อยู่ ‘ชีวาทัย ทองหล่อ’ แล้วสบาย เพราะรูปแบบการเดินทางที่หลากหลายของย่าน ‘ทองหล่อ’

ถ้าพูดเรื่องการเดินทางทั้งที จะไม่พูดถึงรถไฟฟ้าคงจะไม่ได้ เพราะการมาถึงของรถไฟฟ้านี่เองที่ทำให้หลายๆ พื้นที่เข้าใกล้คำว่าสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะใครที่มักเลือกที่อยู่อาศัยใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สุขุมวิท) ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าสายหลักที่เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ของคนทำงาน เพราะเป็นเส้นที่ตัดผ่านใจกลางเมืองตามแนวเหนือ-ใต้ให้จังหวะชีวิตของเราเชื่อมต่อถึงกันมากขึ้น

นอกจากนี้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้ายังเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการเดินทางที่ใช้เลี่ยงความวุ่นวายบนท้องถนนได้เป็นอย่างดี เพราะถ้าหากเทียบระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางต่อรอบของรถไฟฟ้า BTS ตั้งเเต่สถานีต้นทางจนถึงสถานีปลายทางแล้ว จะใช้เวลาสูงสุดแค่ประมาณ 41 นาทีเท่านั้น (ไม่รวมระยะเวลาเปลี่ยนขบวนที่สถานีสยาม)

โดยสถานีที่ใกล้กับโครงการ Chewathai Residence Thonglor (ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ ทองหล่อ) มากที่สุดจะเป็น สถานี BTS ทองหล่อ ห่างจากโครงการประมาณ 2.4 กิโลเมตร 

ส่วนในอนาคตสถานี BTS ทองหล่อ จะกลายเป็นอีกหนึ่งสถานี Interchange ของเส้นทางขนส่งระบบราง เพราะจะมีโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเทาเกิดขึ้น โดยจะเริ่มต้นการสร้างในระยะที่ 1 (ช่วงวัชรพล-ทองหล่อ) เป็นระยะทางรวมประมาณ 16.25 กม. ตัดผ่านถนนทองหล่อและไปบรรจบเข้ากับรถไฟฟ้า BTS สายเดิมที่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 55 นี้พอดี

ส่วนการคมนาคมด้านอื่นๆ ของย่านทองหล่อที่นอกเหนือจากรถไฟฟ้าแล้ว ก็ถือว่ามีมาให้ครบ เพราะตลอดทั้งวันจะมีรถสาธารณะทั้งวินมอเตอร์ไซค์และแท็กซี่ รวมไปถึงรถแดงแบบดั้งเดิมคอยวิ่งให้บริการอยู่ แต่ถ้าใครอยากจะเดินทางไปยังฝั่งธนบุรีหรือทางฝั่งบางกะปิแบบรวดเร็วทันใจ ที่บริเวณปลายซอยสุขุมวิท 55 ก็มีท่าเรือแสนแสบให้เราชาวกรุงเทพฯ ได้ใช้บริการด้วยเช่นกัน

หลังจากทำความรู้จักกับโครงการ Chewathai Residence Thonglor (ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ ทองหล่อ) ในด้านตัวโครงการและความสะดวกสบายด้านการคมนาคมกันไปแล้ว ก็ถึงคราวเจาะลึกด้านไลฟ์สไตล์ที่จะทำให้การอยู่อาศัยในย่านนี้มีชีวิตชีวาและเต็มเติมทุกพลังบวกให้กับชาวคอนโดมากกว่าเคยกันบ้าง มาดูกันดีกว่าว่า “การใช้ชีวิตในย่านทองหล่อแบบ 24 ชั่วโมงจะมีกิจกรรมเด็ดๆ อะไรให้เราทำบ้างนะ? “

อรุณสวัสดิ์ @ ทองหล่อ /ยามเช้าย่านทองหล่อ/

หากให้เล่าเรื่องทองหล่อในช่วงเช้า เราคงเปรียบเทียบเป็นท้องทะเลอันแสนสงบที่มีคลื่นเพียงเล็กน้อย สาเหตุก็มาจากวิถีชีวิตของชาวทองหล่อในช่วงเช้า ที่จะมีความเร่งรีบของหนุ่มสาววัยทำงานปะปนอยู่กับความสโลว์ไลฟ์ของบรรดาพ่อบ้าน-แม่บ้านที่ส่วนใหญ่จะเริ่มต้นการใช้ชีวิตกันตั้งแต่ 7 โมงเช้า เพื่อออกไปทำงานหรือออกมานั่งดื่มด่ำกับแดดอ่อนๆ ในร้านกาแฟหอมๆ ซึ่งเปิดให้บริการกันตั้งแต่หัววัน

ส่วนร้านรวงอื่นๆ ที่จะเปิดขายกันในช่วงเช้าด้วยนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นร้านดั้งเดิมของคนในพื้นที่อย่าง ร้านแม่วารี ร้านข้าวเหนียวมะม่วงที่ตั้งอยู่บริเวณต้นซอยสุขุมวิท 55 ที่ไม่ว่าใครก็ต้องลองซื้อกลับไปฝากครอบครัวกันดูสักครั้ง

และถ้าหากสังเกตดีๆ จะเห็นว่า “ทองหล่อ” เป็นย่านของ Community mall หลากหลายสไตล์ มีทั้งร้านที่เปิดกันตั้งแต่ช่วงเช้า-สาย หรือบางแห่งก็เป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ที่รวบรวมไว้เฉพาะร้านแฮงค์เฮาท์ จะคึกคักมากในช่วงเวลากลางคืน

Community mall ส่วนใหญ่ในย่านทองหล่อมักจะเป็นพื้นที่ที่รวบรวมร้านสะดวกซื้อ, ร้านอาหาร และคาเฟ่ น่านั่งไว้มากมาย อย่างใครที่ต้องการหาร้านดีๆ ไว้สำหรับนั่งพักผ่อนหรือเริ่มต้นใช้ความคิดใหม่ๆ ในช่วงเช้า ก็จะมี SF Town Center – Thonglor Community mall สไตล์ Market Place ตั้งอยู่ด้านหน้าซอยทองหล่อ 4 มีบรรยากาศร่มรื่นพร้อมตกแต่งด้วยต้นไม้และน้ำพุด้านหน้าโครงการ ทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพบปะสังสรรค์ของผู้คนในบริเวณนั้น

แต่ถ้าให้พูดถึง Community mall ยอดฮิตของย่านทองหล่อ ก็คงจะเป็น The Commons ซึ่งมีพิกัดอยู่ที่ทองหล่อซอย 17 ห่างจากปากซอยเข้าไปประมาณ 100 เมตร นับเป็นแหล่งร้านอาหารเด็ดและคาเฟ่เจ้าดังอย่าง Roots Coffee Roaster ที่คอยเชื้อเชิญให้เราตื่นเช้าเข้าไปดริฟต์กาแฟและปลุกตัวเองให้ตื่นขึ้นมากระชุ่มกระชวยกันตลอดทั้งวัน

ส่วนใครที่เป็นสายรักสุขภาพ เราขอแนะนำให้คุณลองไปเยือนร้าน Lemon Farm ร้านอาหารเพื่อสุขภาพที่ตั้งอยู่ใน FIFTY FIFTH โครงการ Community Mall ขนาดกะทัดรัดอยู่บริเวณปากซอยทองหล่อ 2 ซึ่งจะเปิดให้บริการตั้งแต่เช้า เหมาะสำหรับคุณแม่บ้านที่กำลังมองหาวัตถุดิบแบบ Healthy ไว้นำกลับไปประกอบอาหารมื้อเช้าของวัน

ทิวาสวัสดิ์ @ ทองหล่อ /ช่วงเที่ยงในย่านทองหล่อ/

เข้าสู่ช่วงเที่ยงที่ท้องกำลังหิว แต่ถ้าคุณเป็นคนที่อยู่ในย่านทองหล่อแล้วละก็ เราขอรับประกันเลยว่า...คุณจะหิวได้ไม่นานแน่นอน เพราะในย่านนี้ถือว่าเป็นแหล่งของคาเฟ่ฮิปๆ น่านั่งหลากหลายสไตล์ ซึ่งจะช่วยเติมเต็มหนังท้องให้ตึงและเพิ่มพลังงานให้เราชาวคอนโดได้ตลอดทั้งวัน ยกตัวอย่างเช่น…

Pacamara Coffee Roaster x Specialty Coffee Lab. Restaurants ร้านกาแฟในซอยสุขุมวิท 25 ที่คุณจะได้เห็นทุกขั้นตอนการสร้างสรรค์กาแฟ ตั้งแต่การบดเมล็ดไปจนถึงการชงเลยทีเดียว พร้อมเสิร์ฟอาหารเช้าและอาหารว่างในบรรยากาศสงบ เหมาะกับการเริ่มต้นวันอย่างช้าๆ ค่อยเป็นค่อยไป

The Blooming Gallery คาเฟ่สไตล์กลาสเฮาส์ตั้งอยู่ภายใน Eight Thonglor อีกหนึ่ง Community Mall ยอดฮิตของชาวทองหล่อ

โดยบรรยากาศภายในร้านจะตกแต่งให้เป็นเหมือนสวนดอกไม้ที่มาพร้อมกับแสงสว่าง ที่สาดส่องลงมาจากด้านบนกระทบกับบรรดาต้นไม้ดอกไม้ที่ประดับไว้เต็มร้าน พร้อมจิบชาหอมๆ ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนทำมาจากดอกไม้ และเราขอแนะนำว่าให้ลองดมกลิ่นกันเสียก่อนจะเลือกชานั้นๆ เพื่อให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับชาที่คุณชื่นชอบได้อย่างแท้จริง

นอกจากชากลิ่นต่างๆ แล้ว เมนูอาหารของที่นี่ยังยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ทั้งคาวและหวานมีให้เลือกหลากหลาย

ปิดท้ายด้วยร้าน ‘Parfait Society’ คาเฟ่น้องใหม่ย่านทองหล่อ จะตั้งอยู่ใกล้กับคอมมูนิตี้มอล J AVENUE คอมมูนิตี้มอลล์ที่ถือเป็น Lifestyle Shopping Center แห่งแรกของประเทศไทย

โดยร้านนี้ได้แฝงตัวอยู่ในร้านเสื้อผ้าสุดเก๋ ใครที่กำลังมองหาร้านสำหรับคนรักสุขภาพแบบครบเครื่อง ทั้งเครื่องแต่งกายและอาหาร ไปจนถึงของตกแต่งบ้านสไตล์งาน Craft ก็ต้องลองแวะกันเข้ามาดู รับรองว่าคุณจะได้ใช้เวลาช่วงกลางวันกันแบบเพลินๆ ไม่เป็นที่ผิดหวังอย่างแน่นอน

สายัณห์สวัสดิ์ @ ทองหล่อ /ยามเย็นของย่านทองหล่อ/

เมื่อเข้าสู่ช่วงเย็น...เราจึงขอยกให้เป็นช่วงเวลาของครอบครัว เผื่อใครจะอยากหาพื้นที่ไว้ทำกิจกรรมดีๆ ร่วมกันในบรรยากาศที่แปลกใหม่อย่าง “สวนครูองุ่น มาลิก” พื้นที่ทำกิจกรรมที่หาได้ยากในย่านใจกลางเมือง เปรียบเสมือนสวนหน้าบ้านแห่งเดียวบนทองหล่อ ตั้งอยู่ใกล้กับซอยทองหล่อ 3 สถานที่ที่ให้ทุกคนได้พบกับธรรมชาติและกิจกรรมสร้างสรรค์มากมาย เพื่อให้เราสามารถแบ่งปันความสุขกันได้อย่างเต็มที่

ปกติแล้วช่วงเวลาบ่ายสามเป็นต้นไป สวนครูองุ่นจะเต็มไปด้วยเด็กเล็กๆ มากมายที่ต่างเข้ามาเล่นในสวนสาธารณะแห่งนี้กันอย่างสนุกสนาน ราวกับเป็นสวนหน้าบ้านหรือสนามเด็กเล่นที่เปิดพื้นที่ให้มนุษย์ตัวน้อยได้มาพบปะและเรียนรู้ร่วมกัน

นอกจากจะให้เด็กได้มีพื้นที่สีเขียวและรู้จักกันอย่างไม่มีข้อจำกัดแล้ว พื้นที่แห่งนี้ยังมีกิจกรรมให้เด็กๆ และผู้ปกครองได้ใช้เวลาร่วมกัน โดยทุกวันเสาร์ที่ 1 และเสาร์ที่ 3 ของเดือนจะเป็นกิจกรรมประดิษฐ์หุ่นทำมือ ส่วนในวันอาทิตย์ก็จะเป็นการจัดกิจกรรมอื่นๆ แล้วแต่ความสนใจ

นับเป็นสวนสีเขียวที่เปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นอีกแห่งหนึ่งของย่านทองหล่อ เพราะการแบ่งปันพื้นที่สีเขียวแห่งนี้จะช่วยสร้างมิตรภาพอันดีให้กับเด็กๆ ได้ และยังช่วยออกแบบชีวิตของคุณให้มีครบครัน ครบทุกรสชาติด้วยนั่นเอง

นอกจากสวนที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้เป็นลานกิจกรรมสำหรับครอบครัวแล้ว อีกหนึ่งอย่างที่กลายเป็นจุดเด่นของย่านทองหล่อ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็ต้องเห็นนั่นก็คือ ร้านอาหารญี่ปุ่น ซึ่งในวันนี้ Estopolis ของเราก็จะพามาเยือนกันที่ร้านสไตล์อบอุ่นอย่าง Kitaohji ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ซุกซ่อนอยู่ในซอยทองหล่อ 8 ถือเป็นร้านเด็ดของย่าน หากใครมีโอกาสได้มาเยือนแล้ว เราก็ขอแนะนำให้คุณพาครอบครัวมาลิ้มลองความอร่อยของอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับกันดูสักครั้ง

ให้รางวัลตัวเองด้วยการรับประทานอาหารสุดสร้างสรรค์และปราณีต พร้อมการบริการชั้นเลิศที่เอาใจใส่คุณท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ พาเราหลุดออกจากความวุ่นวายในเมืองใหญ่

เต็มอิ่มกับการสร้างสรรค์ผลงานผ่านปลายมีดจากเชฟมือฉมัง ด้วยอาหารประเภทซาซิมิและซูชิที่ขึ้นชื่อในสไตล์ไคเซกิเก่าแก่และมีชื่อเสียง รับรองว่าทุกคนจะต้องติดใจในรสชาติและคุณภาพของวัตถุดิบตามฤดูกาล ซึ่งทางร้านจะมีให้เลือกรับประทานกันได้ทั้งแบบเซ็ตที่ทานกันได้ทั้งครอบครัว หรือใครมาคนเดียวจะสั่งแบบ À la carte แทนก็ไม่ว่ากัน 

ส่วนเมนูที่เป็น Siganutre ของทางร้านก็มีทั้งซาชิมิปูและเนื้อเกรดพรีเมียมที่มีให้เลือกหลายราคา โดยแต่ละจานได้ถูกตกแต่งออกมาให้เป็นเหมือนงานศิลปะที่คุณสามารถเสพได้ทั้งรูป, รส และกลิ่น แถมยังได้สัมผัสบรรยากาศแบบญี่ปุ่นแท้ๆ แม้จะอยู่ในย่านใจกลางเมืองก็ตาม

ราตรีสวัสดิ์ @ ทองหล่อ /พลบค่ำในย่านทองหล่อ/

‘ทองหล่อ’ มักเป็นย่านที่มีผู้คนแวะเวียนเข้ามาสังสรรค์ มาใช้ชีวิตยามค่ำคืนและนั่งผ่อนคลายจิตใจกับกลุ่มเพื่อน บ้างก็ไว้พบปะผู้คนใหม่ๆ ทำให้ที่นี่มีร้านสำหรับ Hang Out นั่งชิลอยู่มากมาย โดยเฉพาะช่วงกลางซอยสุขุมวิท 55 เป็นต้นไป

ถ้าหากการได้นั่งชิลล์ๆ ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศยามค่ำคืนและผ่อนคลายอารมณ์ถือเป็นจุดสูงสุดของการใช้ชีวิตแบบ Night Life แล้วละก็ เราขอแนะนำให้คุณมาสัมผัสบรรยากาศเหล่านี้กันได้ที่ 72 Courtyard Community Mall แบบ Outdoor ขนาดใหญ่สำหรับนั่งดื่มชิลล์ๆ อยู่ใกล้ซอยทองหล่อ 18

หรือจะไปสร้างความมหัศจรรย์ราวกับมีเวทมนต์ให้กับความทรงจำยามค่ำคืนกันที่ร้าน The Iron Fairies ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างซอยทองหล่อ 12 กับซอยทองหล่อ 14 แถมร้านนี้ยังเพิ่มความรู้สึกพิเศษให้เราด้วยการจำกัดแขกเพียง 55 ที่นั่งเท่านั้น

ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าและสร้างกำลังใจให้ชีวิตด้วยคราฟท์เบียร์รสชาติเยี่ยมสักแก้ว ก่อนจะกลับไปพักผ่อนที่ร้าน Wishbeer บนซอยสุขุมวิท 57 ร้านคราฟท์เบียร์บาร์ที่ให้บรรยากาศอบอุ่น ไม่แน่คุณอาจจะได้เพื่อนใหม่ที่คุยกันถูกคอเพิ่มขึ้นก็เป็นได้ 

จบกันไปแล้วกับไลฟ์สไตล์แบบ 24 ชั่วโมงในย่านทองหล่อ ซึ่งนับเป็นย่านที่ช่วยเติมเต็มพลังชีวิตให้คุณได้หลากหลายสไตล์ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนสไตล์ไหน ชอบใช้ชีวิตช่วงเวลาใด ที่แห่งนี้ก็มีเลือกให้ครบทุกสีสันทั้งกลางวันและกลางคืน

สำหรับใครที่รู้สึกชื่นชอบความเป็นย่านทองหล่อ และอยากที่จะเป็นเจ้าของคอนโด Chewathai Residence Thonglor (ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ ทองหล่อ) แล้วละก็ ในวันที่ 10-11 พฤศจิกายนนี้ ทางโครงการจะเปิด Pre Sales โดยสามารถลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใครได้ที่ https://goo.gl/ojQYtf หรือโทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่เบอร์ 1260