ESTOPOLIS | สรุป 10 แนวทางแต่งคอนโดแบบญี่ปุ่นอย่างง่าย ๆ ด้วยวิถีเซน
6 February 2560
การแต่งคอนโดแบบญี่ปุ่นด้วยแนวทางที่เรียบง่ายตามวิถีเซนที่ช่วยให้คุณจัดห้องคอนโดเล็ก ๆ ได้อย่างลงตัวและดูสบายตามากขึ้น
ประเทศญี่ปุ่นเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีวัฒนธรรมมาอย่างยาวนาน ทั้งการแต่งตัว อาหาร ประเพณี การละเล่น ไม่เว้นแม้แต่ที่อยู่อาศัยที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนี้ยังมีแนวคิดหนึ่งที่เรียกว่า "เซน" ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการแต่งบ้านหรือการแต่งคอนโดสมัยใหม่ได้อย่างลงตัวจนคุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงศาสตร์นี้ได้ถ้าหากต้องการที่จะแต่งคอนโดแบบญี่ปุ่น
คำว่าเซนในภาษาญี่ปุ่นนั้นมีความหมายว่าการตั้งสมาธิ แต่ในแง่มุมของการแต่งคอนโดหมายถึงความสมดุล ความกลมกลืน และการผ่อนคลาย หากคุณสามารถนำหลักแนวคิดนี้และ 10 ข้อที่จะกล่าวในด้านล่างนี้ไปใช้ในการแต่งห้องคอนโดแล้วละก็ ทางเราเชื่อห้องของคุณจะดูเรียบง่าย น่าอยู่ และดูสบายตามากขึ้นอย่างแน่นอน
1. แต่งคอนโดแบบญี่ปุ่นต้องยึดหลักธรรมชาติ
วัฒนธรรมของญี่ปุ่นและวิถีแห่งเซนนั่นจะใกล้ชิดและให้ความเคารพกับธรรมชาติเป็นอย่างมาก และถึงแม้เวลาจะผ่านเลยไปจนป่าคอนกรีตแข่งกันสูงเสียดฟ้าจนไม่เหลือพื้นที่สีเขียวให้หายใจ วิถีแห่งเซนก็ยังไม่ได้เปลี่ยนไป การแต่งคอนโดแบบญี่ปุ่นวิถีเซนจึงไม่สามารถขาดสีเขียวของธรรมชาติไปได้
ตามปกติบ้านพักของคนญี่ปุ่นจะมีสวนอยู่ใกล้กับทางเข้าหรือริมหน้าต่างเพื่อให้สบายตาเมื่อมองออกไปนอกบ้าน แต่ถ้าคุณอาศัยอยู่ในคอนโดขนาดเล็ก การนำต้นไม้จากญี่ปุ่น เช่น ต้นบอนไซ หรือ ต้นไผ่ขนาดจิ๋ว มาเป็นไม้ประดับก็เป็นไอเดียที่ไม่เลว และถ้าไม่สามารถหาต้นบอนไซ หรือ ต้นไผ่ขนาดเล็ก มาแต่งคอนโดได้ เราขอแนะนำต้นไม้ใดก็ได้ที่คุณชื่นชอบ แต่ต้องเป็นต้นไม้ที่ดูเรียบ ๆ มีความเป็นธรรมชาติ มีสีเขียว และที่สำคัญต้องไม่สีฉูดฉาดเพราะจะเป็นเข้ากับวิถีของเซนที่ดูเรียบง่าย
2. แต่งคอนโดด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้
ที่มา: http://cdn.home-designing.com/wp-content/uploads/2014/05/2-Zen-living-room.jpeg
อีกหนึ่งวิธีในการสัมผัสความเป็นธรรมชาติคือการเลือกเฟอร์นิเจอร์ไม้ในการแต่งคอนโด อย่างเช่น ตู้เสื้อผ้า ลิ้นชัก หรือ ชั้นวางของ และหากคุณต้องการเข้าถึงจริง ๆ ทางเราขอแนะนำโต๊ะไม้เตี้ย ๆ สักตัว นอกจากจะเป็นเฟอร์นิเจอร์แต่งคอนโดขนาดเล็กแล้วยังให้ความรู้สึกแบบญี่ปุ่นขนานแท้อีกด้วย
ทั้งนี้เราไม่ได้หมายความว่าให้คุณเลือกแต่เฟอร์นิเจอร์ไม้เพียงอย่างเดียวมาแต่งคอนโด เพราะเฟอร์นิเจอร์ไม้บางชนิดก็ไม่เหมาะที่จะใช้เป็นไอเทมแต่งคอนโดสไตล์ญี่ปุ่น เช่น โซฟาไม้สักของไทย เพียงแต่เราอยากให้เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ในห้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากธรรมชาติหรือดูกลมกลืนเข้ากับวิถีเซน และนอกจากเฟอร์นิเจอร์แล้ว ถ้าจะให้เป๊ะเหมือนต้นตำรับทุกตารางนิ้วคุณควรเปลี่ยนพื้นกระเบื้องเป็นลายไม้หรือสีน้ำตาล รวมถึงขอบหน้าต่าง
3. แต่งคอนโดแบบญี่ปุ่น ก็ต้องใช้ประตูและบานพับแบบญี่ปุ่น
เนื่องจากค่าครองชีพในปัจจุบันที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้บ้านพักของชาวญี่ปุ่นมีขนาดเล็กลงไปตาม ๆ กัน การประหยัดพื้นที่ใช้สอยจึงเป็นสิ่งสำคัญมากในการแต่งคอนโดของชาวอาทิตย์อุทัย การใช้ประตูบานเลื่อนหรือที่ญี่ปุ่นเรียกว่าโซจิ จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เนื่องจากประหยัดเนื้อที่ในการเปิดปิด และไม่เพียงแต่ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้นที่ใช้ประตูบานเลื่อนเพราะในปัจจุบันคอนโดสมัยใหม่ในไทยก็หันมาใช้ประตูประเภทนี้กันมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่จะเป็นประตูกระจกที่ไม่มีลวดลายใด ๆ
ข้อดีอีกข้อหนึ่งของโซจิคือนอกจากประหยัดเนื้อที่เหมาะกับการแต่งคอนโดขนาดเล็กแล้ว ประตูประเภทนี้ยังช่วยให้แสงสว่างเขาถึงพื้นที่ต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วยซึ่งเป็นการเพิ่มความเป็นธรรมชาติไปในตัวไม่เหมือนกับประตูทั่วไปที่ทึบแสง ซึ่งทั้งหมดนี้คือข้อดีของการหาโซจิหรือประตูบานเลื่อนแบบญี่ปุ่นมาเป็นไอเทมสำคัญในการแต่งคอนโดของเรา
ทั้งนี้หากอิงตามต้นฉบับจริง ๆ โซจิจะเป็นกระดาษสีขาวบาง ๆ ที่นำมายึดกับขอบไม้สี่เหลี่ยมหลาย ๆ กรอบบนบานประตู แต่ในปัจจุบันประตูญี่ปุ่นเหล่านี้จะใช้กระจกแทนที่กระดาษแต่ยังคงรักษาส่วนที่เป็นขอบไม้ไว้ อย่างไรก็ตามสำหรับบางคอนโดที่เป็นห้องเดี่ยว ๆ ไม่มีการแยกสัดส่วนที่ชัดเจน การใช้บานพับแบบญี่ปุ่นมาช่วยแต่งคอนโดก็เป็นไอเดียที่ไม่เลว
4. คุมโทนสีให้อยู่ตอนแต่งคอนโด
การลงรูปอินสตาแกรมต้องคุมโทนสีฉันใด การแต่งคอนโดแบบญี่ปุ่นก็ต้องคุมโทนสีฉันนั้น มันจะดูประหลาดจนเกินไปหากตกแต่งภายในคอนโดด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ กระเบื้องสีน้ำตาล แต่กลับมีตู้เย็นสีแดงอยู่ตรงมุมห้อง โปรดจำไว้ว่าการแต่งคอนโดแบบญี่ปุ่นด้วยวิถีเซนมีธรรมชาติเป็นองค์ประกอบสำคัญ และโทนสีที่อยู่ในห้องนั้นก็ควรเป็นสีเรียบ ๆ เหมาะกับธรรมชาติ
ซึ่งสีตามธรรมชาติที่เราควรนำมาใช้ในการแต่งคอนโดสไตล์นี้ก็ไม่ได้จำกัดอยู่แค่สีน้ำตาลและสีเขียว แต่สีเทา สีดำ หรือ สีขาว ก็สามารถนำมาใช้ได้ถ้าจัดวางให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม แต่อย่าใช้สีฉูดฉาดจนเกินงามก็เพียงพอแล้วในการเนรมิตคอนโดแบบฉบับอาทิตย์อุทัย
5. แต่งคอนโดโดยคำนึกถึงแสงสว่าง
ดังที่ได้เน้นย้ำในข้อก่อน ๆ ว่าการแต่งคอนโดแบบญี่ปุ่นนั้นต้องคำนึกถึงธรรมชาติเป็นส่วนสำคัญ และแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ก็จะทำให้ห้องดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นและให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย
ทั้งนี้หากห้องของคุณอยู่ในจุดที่รับแสงสว่างมากเกินไป เราแนะนำให้ใช้ผ้าม่านบาง ๆ แบบญี่ปุ่นเป็นไอเทมในการแต่งคอนโดเพื่อควบคุมปริมาณของแสงให้อยู่ในระดับที่พอดี เพราะอย่าลืมว่าวิถีเซนในการตกแต่งภายในคือการนำความสมดุลมาสู่ที่พัก อย่างไรก็ตามถ้าคอนโดของคุณอยู่ในมุมอับแสง ก็ควรใช้หลอดไฟที่มีความสว่างแต่พอดี และหลีกเลี่ยงการรับแสงจากหลอดไฟวัตต์สูงด้วยการหาสิ่งต่าง ๆ มาตกแต่งหลอดไฟให้เรียบง่ายเท่าที่ทำได้
6. แต่งห้องน้ำคอนโดด้วยโอฟูโระ
ที่มา: http://www.japannewbie.com/images/journal/asaba_ryokan/asaba_ryokan3.jpg
เมื่อถามถึงเอกลักษณ์ห้องน้ำของประเทศญี่ปุ่น นอกจากสุขภัณฑ์ที่สุดแสนจะไฮเทคแล้ว เชื่อว่าอ่างแช่ตัวของแดนซามูไรต้องติดอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน ซึ่งเราก็ควรนำเจ้าสิ่งนี้มาเป็นตัวหลักของแบบห้องน้ำคอนโดที่เราจะแต่ง
อ่างแช่ตัว หรือ โอฟูโระ ในภาษาญี่ปุ่นตามต้นรับแล้วจะทำมาจากไม้ แต่ในปัจจุบันอาจทำมาจากสแตนเลสสตีลหรือพลาสติก และจะแตกต่างจากอ่างของตะวันตกตรงที่จะมีขนาดสั้นและลึกโดยทั่วไปแล้วประมาณ 0.6 เมตร นอกจากนี้ในครอบครัวญี่ปุ่นจะเป็นเรื่องธรรมดามากที่สมาชิกคนอื่น ๆ จะใช้น้ำในอ่างเดียวกัน เพราะฉะนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องติดตั้งฝักบัวไว้ข้างอ่าง พร้อมกับเอาเก้าอี้ไม้เรียบ ๆ สักตัวมาวางไว้เพื่อใช้ในการทำความสะอาดร่างกายก่อนลงแช่ ทั้งนี้เราอาจตกแต่งห้องน้ำคอนโดด้วยพื้นกระเบื้องลายไม้หรือนำหินมาวางไว้รอบ ๆ โอฟูโระก็ได้เพื่อเพิ่มความเป็นธรรมชาติและคุมธีมให้เหมาะกับห้องอื่น ๆ
7. ใครว่าถ้วยโถโอชาม ช่วยแต่งคอนโดไม่ได้
อีกหนึ่งศาสตร์ที่ได้รับอิทธิพลมาจากแนวคิดของเซนก็คือพิธีชงชาของญี่ปุ่นหรือที่เรียกกันว่าชาโดยุ จุดประสงค์ของพิธีนี้คือการทำให้ตนเองเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ โดยมีความสงบ ความเรียบง่าย ความสง่างาม เป็นองค์ประกอบหลัก และแน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้จากพิธีนี้ก็คือภาชนะสำหรับชงชา ซึ่งนอกจากจะนำมาประยุกต์เป็นภาชนะใส่อาหารทั่วไปแล้วยังสามารถแต่งคอนโดให้มีสไตล์แบบญี่ปุ่นได้อีกด้วย
โดยภาชนะชงชามีชื่อเรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า โดกุ (ออกเสียงลากยาวตรงคำว่า โด) ที่แปลว่าเครื่องมือ หรือจะเรียกแบบเจาะจงว่า ชาโดกุ (แปลว่าเครื่องมือชงชา) ซึ่งชาโดกุนี้สามารถแบ่งออกเป็น 5 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ ของตกแต่ง ภาชนะสำหรับการชงชา ภาชนะสำหรับชาไคเซกิ (อาหารที่เจ้าภาพพิธีชงชาจัดหาให้แขก) ภาชนะสำหรับห้องเตรียม และภาชนะสำหรับห้องรอหรือสวนโรจิ (สวนที่เชื่อมไปยังห้องชงชา) สำหรับการแต่งคอนโดแบบญี่ปุ่นนั้นหากไม่สันทัดพิธีชงชา ก็ใช้เพียงภาชนะสำหรับชาไคเซกิที่เรียบ ๆ ก็เพียงพอแล้ว และถ้าใครนึกภาพภาชนะชาไคเซกิไม่ออกแล้วละก็ ให้นึกถึงภาพเซทของกินตามร้านอาหารญี่ปุ่นในห้างเอาไว้
8. ตกแต่งภายในคอนโดด้วยภาพแบบญี่ปุ่นสักรูป
ที่มา: http://www.japan-guide.com/g9/2007_02a.jpg
การเลือกภาพวาดมาเป็นตกแต่งคอนโดเป็นไอเดียที่ดีเสมอ แต่จะดียิ่งขึ้นหากเราเลือกภาพวาดให้เหมาะกับแต่ละห้องและคอนเซปต์ที่เราต้องการ ส่วนการแต่งคอนโดแบบญี่ปุ่นด้วยวิถีของเซนนั้น แน่นอนเราขอแนะนำภาพธรรมชาติ หรือรูปวาดลายเส้นญี่ปุ่นที่ดูเรียบง่ายซึ่งเห็นแล้วนึกถึงความสงบ ทั้งนี้หากคอนโดของคุณมีขนาดเล็ก การติดรูปแนวตั้งก็สามารถช่วยให้ห้องดูใหญ่ขึ้น โดยจะทำให้ระยะระหว่างผนังและพื้นดูสูงขึ้น
9. ใช้กลิ่นช่วยเพิ่มความเป็นธรรมชาติ
การแต่งคอนโดด้วยเฟอร์นิเจอร์ทำให้เราสัมผัสความเป็นธรรมชาติได้ด้วยดวงตา แต่มันจะดีขนาดไหนถ้าเราสามารถสัมผัสกลิ่นอายความเป็นธรรมชาติได้ด้วยจมูกของตัวเราเอง ซึ่งสเปรย์ปรับอากาศภายในห้องหรือเทียนหอมก็สามารถตอบโจทย์นั้นได้เป็นอย่างดีและยังสามารถช่วยให้คุณผ่อนคลายยามหลับตา
.โดยกลิ่นที่ช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและนอนหลับได้ดีขึ้นมีดังต่อไปนี้ ลาเวนเดอร์ วานิลลา วาเลอเรี่ยน และ มะลิ นอกจากกลิ่นพวกนี้จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายยามนอนแล้ว ยังทำให้คุณรู้สึกกระปรี้เปร่าตอนตื่นขึ้นอีกด้วย
10. สำคัญสุดในการแต่งคอนโดแบบญี่ปุ่นคือความเป็นมินิมอล และอย่าปล่อยให้ห้องรก
นอกจากความเป็นธรรมชาติที่เราเน้นย้ำแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดในการแต่งคอนโดแบบญี่ปุ่นด้วยวิถีเซนคือความเรียบง่าย หรือที่ในปัจจุบันเรียกว่าสไตล์มินิมอล ซึ่งการแต่งคอนโดด้วยความมินิมอลนั่นก็ไม่ได้เรื่องยากแต่อย่างใด เพียงแค่เลือกข้าวข้องเครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งห้องให้เรียบง่ายที่สุด หมั่นทำความสะอาดห้อง และอย่าปล่อยให้ห้องรก
สำหรับใครที่ชื่นชอบบรรยากาศห้องสไตล์ญีปุ่นจริง ๆ ทาง Estopolis เคยได้เข้าไปรีวิวโครงการ MONIIQ Sukhumvit 64 (โมนีค สุขุมวิท 64) จาก บริษัท ซันเคียว โฮม (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็น developer จากประเทศญีปุ่น เป็นคอนโดแบบ Modern Japanese เน้นการออกแบบห้องในสไตล์ญี่ปุ่น ท่านผู้อ่านอาจจะลองแวะเข้าไปชมริวิวหรือแวะเข้าไปดูสำนักงานขายของโครงการ เผื่อจะได้คอนโดแบบญีปุ่นโดยที่ไม่ต้องลงมือตกแต่งอะไรเอกมากมาย