ยากกว่าหาเงินคือเรื่องภาษี : รวม 8 คำถามข้องใจเกี่ยวกับการยื่นภาษีที่ทุกปีต้องมีคนถาม
4 February 2562
สำหรับมนุษย์เงินเดือนผู้มีรายได้ในช่วงนี้ของปี 2562 ก็ถึงคราวที่จะต้องทำการยื่นภาษีกันแล้ว แต่ไม่ว่าจะยื่นกันมาสักกี่ปีก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่จะทำได้คล่อง หรือเข้าใจในกระบวนการยื่นภาษีแบบแจ่มแจ้ง เพื่อคลายความสงสัยด้านการยื่นภาษีในปี 2562 นี้ Esto ของเราจึงรวบรวมข้อสงสัยที่คนเสียภาษีถามกันอยู่ทุกปีถึง 8 ข้อ รับรองว่า อ่านก่อน รู้ก่อน หมดความกังวลใจในเรื่องการยื่นภาษีในปี 2562 นี้อย่างแน่นอน
มาดูกันดีกว่าว่าทั้ง 8 ข้อสงสัยที่ควรรู้เกี่ยวกับภาษีเงินได้ที่เราต้องยื่นนั้น คืออะไร ต้องเตรียมตัวอย่างไรให้คุ้มค่าและรอบคอบที่สุด
ยื่นภาษี 2562 เงินได้ของเราคือ ภ.ง.ด. 90 หรือ ภ.ง.ด. 91
ภ.ง.ด. 90 คือ ผู้ที่มีรายได้นอกเหนือจากเงินเดือนที่ได้รับ เช่น ค้าขายแบบบุคคลธรรมดา เงินปันผล และรายได้อื่นๆ
ภ.ง.ด. 91 คือคนที่มีเงินเดือน โบนัส และค่าครองชีพ โดยไม่มีรายได้จากทางอื่น
ใครบ้างที่ต้องยื่นภาษี 2562
คนทุกคนที่มีรายได้ต้องยื่นแบบเสียภาษี ไม่ว่าจะมีอายุเท่าใดก็ตาม โดยหากเป็นเด็กเยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะให้นำไปยื่นร่วมกับพ่อและแม่ แต่หากอายุเกิน 18 ปี บรรลุนิติภาวะและมีรายได้แล้วก็ต้องยื่นแบบเสียภาษีเงินได้ ส่วนจะอยู่ในเกณฑ์ที่ได้รับการยกเว้นหรือต้องเสียภาษีเพิ่มเติมก็แยกตามแต่ละบุคคล
เงินเดือนเท่านี้แล้วภาษีเท่าไร
ในการคำนวณการยื่นภาษี 2562 นั้น เราจะใช้การคำนวณเงินได้ออกมาแบบรายปี คือการนำเงินได้ตลอด 12 เดือนมารวมกันได้เป็น ‘เงินได้สุทธิ’ ที่สามารถนำมาใช้เทียบกับอัตราภาษีที่ต้องเสียได้ดังนี้
ยื่นภาษี 2562 คำนวณอย่างไร
จากเดิมการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเคยคำนวณหักค่าใช้จ่ายรวม 40% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 60,000 บาท แต่ในปีภาษี 2561 ที่จะต้องยื่นภาษี 2562 นี้ได้เปลี่ยนเป็นการคำนวณโดยหักค่าใช้จ่าย 50% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 100,000 บาท หักลบออกมาเป็นรายได้สุทธิซึ่งจะเป็นตัวชี้ว่าเราอยู่ในเกณฑ์ที่ได้รับการยกเว้นหรือต้องเสียภาษีในอัตราเท่าไหร่
หลักฐานอะไรบ้างที่ต้องใช้ในการยื่นภาษี 2562
- หนังสือรับรองเงินได้ (50 ทวิ) หรือใบรับรองภาษีหัก ณ ที่จ่าย ที่บริษัทผู้ว่าจ้างมอบให้เมื่อได้รับเงินซึ่งหากเป็นเงินเดือนจะได้รับภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ของปีภาษีถัดไป แต่หากเป็นเงินได้แบบไม่ประจำ เช่น ค่าจ้าง จะได้ ณ วันที่รับเงิน โดยสามารถนำตัวเลขที่ระบุในเอกสารมาใช้ในการคำนวณภาษีและกรอกยื่นแบบได้เลยทันที
- เอกสารหลักฐานรายการลดหย่อนส่วนบุคคล เช่น ทะเบียนสมรส, เอกสารรับรองบุตร, หนังสือรับรองการหักลดหย่อนค่าเลี้ยงดูบิดา-มารดา เอกสารค่าเบี้ยประกันสุขภาพ เป็นต้น เพื่อใช้เป็นหลักฐาน กรณีเข้าเงื่อนไขการใช้สิทธิลดหย่อนภาษี
- เอกสารในการลดหย่อนอื่นๆ เช่น ซื้อประกันชีวิต, ซื้อกองทุน LTF/RMF เป็นต้น
กลุ่มค่าใช้จ่ายใดที่สามารถลดหย่อนการยื่นภาษี 2562 ได้
สามารถแบ่งได้ง่ายๆ 5 กลุ่ม คือ
- กลุ่มหักค่าลดหย่อนส่วนตัวและครอบครัว ได้แก่ ค่าลดหย่อนส่วนบุคคลของรายได้ คู่สมรส และบุตร ค่าอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดา ค่าอุปการะคนพิการหรือคนทุพพลภาพ ค่าฝากครรภ์และคลอดบุตร
- กลุ่มค่าลดหย่อนหักจากเงินประกัน เงินออม และการลงทุน ได้แก่ ค่าประกันสังคม เบี้ยประกันชีวิต เบี้ยประกันสุขภาพ เบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดา กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนครูโรงเรียนเอกชน และกองทุนการออมแห่งชาติ
- กลุ่มค่าลดหย่อนหักจากอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ ดอกเบี้ยกู้ยืมเพื่อการมีที่อยู่อาศัย และโครงการบ้านหลังแรก
- กลุ่มหักค่าลดหย่อนจากเงินบริจาค เพื่อสนับสนุนการศึกษา เพื่อบริจาคแก่สถานพยาบาลของรัฐ เพื่อบริจาคเข้ากองทุนวิจัยและนวัตกรรม 4 กองทุน บริจาคเพื่อสาธารณประโยชน์ต่างๆ บริจาคเพื่อช่วยเหลือเหตุอุทกภัย เงินบริจาคทั่วไป และเงินบริจาคให้พรรคการเมือง
- กลุ่มค่าลดหย่อนตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ อย่าง มาตรการท่องเที่ยวเมืองรอง และชอปช่วยชาติ
จะเป็นอะไรไหม ถ้าไม่ยื่นภาษี?
หากอยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายระบุว่าต้องยื่นแล้วไม่ยอมยื่นภาษี 2562 หากมีการตรวจเจอจะมีค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท แต่หากเป็นบุคคลที่มีรายได้ถึงเกณฑ์จะต้องจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 1.5 ต่อเดือน หรือ 18% ต่อปี โดยจะนับตั้งแต่วันที่หมดเขตยื่นแบบภาษีไปจนถึงวันที่เพิ่งมายื่นภาษี
กำหนดการยื่นภาษี 2562 หมดเขตเมื่อไหร่
ในทุกๆ ปี กรมสรรพากรได้กำหนดยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แบบ ภ.ง.ด. 90 และ ภ.ง.ด. 91 ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงวันที่ 31 มีนาคม แต่ในปีนี้วันดังกล่าวตรงกับวันหยุดราชการ จึงเลื่อนเป็นวันที่ 2 เมษายน และกำหนดให้ยื่นแบบทางอินเทอร์เน็ต ภายในวันที่ 9 เมษายน
รู้อย่างนี้แล้วก็อย่ารอช้าที่จะยื่นภาษี 2562 เพราะยิ่งมีค่าลดหย่อนมากเท่าไหร่ยิ่งต้องเตรียมหลักฐานใบกำกับต่าง ๆ ให้พร้อมมากเท่านั้น เพื่อที่จะได้ไม่ตกหล่น และการเสียภาษีนอกจากจะเป็นหน้าที่ของพลเมืองที่ดีทุกคนแล้ว ยังเป็นสิ่งที่บอกสถานะยืนยันรายได้ที่ชัดเจน สำหรับการทำธุรกรรม ไม่ว่าจะเป็นพนักงานประจำหรือฟรีแลนซ์ก็ตาม
หรือหากมีข้อสงสัยตรงไหน สามารถติดต่อได้ที่ สายด่วนกรมสรรพากร 1161