ทำความรู้จักกับประเภทบัญชีเงินฝาก เลือกสิ่งที่ใช่ที่สุดสำหรับคุณ
17 April 2562
การฝากเงินถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นก้าวแรกของการออมเงิน ก่อนจะพัฒนาไปสู่การลงทุนในรูปแบบต่างๆ เพื่อผลตอบแทนที่งอกเงยตามมาสร้างความมั่นคงในอนาคตต่อไป ปัจจุบันธนาคารมีบัญชีเงินฝากให้เลือกหลายประเภทและหลากหลายรูปแบบการฝาก มีทั้งระยะสั้น ระยะยาว มีอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน เพื่อให้ตรงกับลักษณะการใช้ชีวิตของลูกค้าแต่ละกลุ่มที่แตกต่างกัน
ในบทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับบัญชีเงินฝากประเภทต่างๆ หาความแตกต่าง และเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย เพื่อดูว่าประเภทไหนเหมาะสมกับตัวเรามากที่สุด
บัญชีเงินฝากออมทรัพย์
เป็นบัญชีเงินฝากขั้นพื้นฐานเหมาะสำหรับผู้ออมเงินทุกคน
เป็นบัญชีที่มีความคล่องตัวในการเบิกถอนได้ทุกเวลา เนื่องจากไม่มีการกำหนดเงินฝากขั้นต่ำหรือถ้ามีกำหนดไว้ต่ำมาก ไม่จำกัดจำนวนครั้งและเงินฝากขั้นต่ำ บัญชีประเภทนี้จะมีอัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยจะคิดเป็นรายวัน แต่จะสะสมยอดไว้และจ่ายผู้ฝากปีละสองครั้ง คือสิ้นเดือนมิถุนายนและสิ้นเดือนธันวาคมของทุกปี ส่วนบัญชีที่มีเงินฝากในบัญชีสูงมากๆ และได้รับอัตราดอกเบี้ยเกิน 20,000 บาท โดยรวมจากทุกธนาคารในหนึ่งปี จะต้องเสียภาษีบนดอกเบี้ยที่ได้รับ 15% ต่อปี
นาคารที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดสำหรับบัญชีประเภทนี้ : บัญชีฝากออมทรัพย์ดรีมเซฟวิ่ง จากธนาคารทหารไทย (TMB) อยู่ที่ 2.000% ต่อปี และยังมีโบนัสพิเศษ 0.500% ต่อปี สำหรับหกเดือนแรกอีกด้วย
บัญชีเงินฝากประจำ
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออมแบบมีระยะเวลาแน่นอน
บัญชีประเภทนี้จะกำหนดขั้นต่ำในการฝากต่อครั้งเอาไว้ และต้องฝากเป็นจำนวนเท่าเดิมในทุกเดือน ไม่สามารถถอนเงินได้ หากถอนเงินก่อนครบระยะฝากจะได้รับดอกเบี้ยน้อยลงหรือไม่ได้รับดอกเบี้ยเลยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของธนาคาร โดยจะมีให้เลือกหลายระยะฝากสูงสุดที่ 36 เดือน บัญชีประเภทนี้จะได้รับอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีเงินฝากประเภทอื่น และสามารถเปิดบัญชีเงินฝากประจำแบบปลอดภาษีภายใต้เงื่อนไขของธนาคารที่ให้บริการได้เพื่อยกเว้นภาษีดอกเบี้ย 15% บัญชีประเภทนี้จะได้รับผลตอบแทนมากกว่าการฝากออมทรัพย์ และยังสามารถใช้เป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกันได้ด้วย
บัญชีเงินฝากประจำที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุด : บัญชีฝากประจำพิเศษ ของบริษัทศรีสวัสดิ์ที่มีเงื่อนไขว่าต้องเปิดบัญชีขั้นต่ำอยู่ที่ 1ล้านบาท ระยะเวลาสามสิบหกเดือน ได้อัตราดอกเบี้ยที่ 3.400% ต่อปี รองลงมาจะเป็นบัญชีเงินฝากประจำพิเศษแบบมีสมุดคู่ฝาก ของธนาคารไทยเครดิต แต่มีเงื่อนไขต้องเปิดบัญชีคู่กับกรมธรรม์ประกันชีวิตของธนาคาร มีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 3.000% ต่อปี โดยเปิดบัญชีขั้นต่ำที่ 1,000 บาท
บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน หรือบัญชีเดินสะพัด
เหมาะสำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่ต้องการใช้เป็นบัญชีเงินหมุนเวียน
เป็นบัญชีความคล่องตัวสูง ใช้เช็คเป็นตัวกลางในการเบิกถอนหรือโอนเงิน บัญชีประเภทนี้จะไม่มีอัตราดอกเบี้ย เจ้าของบัญชีประเภทนี้สามารถเปิดวงเงินเกินบัญชี หรือวงเงิน O/D ได้ทุกเมื่อ ส่วนที่เบิกออกมาเกินจากในบัญชีเปรียบเสมือนเป็นการกู้ยืมธนาคารและทางธนาคารจะคิดดอกเบี้ยเฉพาะส่วนที่เจ้าของบัญชีเบิกออกมาเกินเงินในบัญชีที่มีอยู่เท่านั้น
บัญชีเงินฝากกระแสรายวันที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุด : บัญชีกระแสรายวันพิเศษ ซุปเปอร์เช็ค ของธนาคารไอซีบีซี มีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.000% ต่อปี ต้องเปิดบัญชีขั้นต่ำ 50,000 บาท
บัญชีเงินฝากสกุลเงินต่างประเทศ
เหมาะสำหรับชาวต่างชาติที่ทำงานหรือมีถิ่นฐานในประเทศไทย ที่ต้องการโอนเงินไปยังต่างประเทศระยะเวลาอันใกล้
ข้อดีคือสามารถลดความเสี่ยงเรื่องความผันผวนของค่าเงินได้ โดยผู้ฝากสามารถฝากได้ด้วยเช็ค ดราฟท์ และเช็คเดินทางต่างประเทศ บัญชีเงินฝากประเภทนี้ต่างจากบัญชีเงินฝากธรรมดาตรงที่จะมีค่าธรรมเนียมในการฝากและถอนและจะไม่ได้รับการคุ้มครองเงินต้นและดอกเบี้ยจากสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ข้อเสียอีกประการคือมีสาขาให้บริการด้านนี้น้อยทำให้ไม่สะดวก
บัญชีเงินฝากสกุลเงินต่างประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุด : บัญชีที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดอยู่ที่ 2.30% ต่อปีของธนาคารไอซีบีซี โดยบัญชีเงินฝากประเภทนี้หลักๆ จะเป็นสกุลเงินดอลลาร์ มีระยะการฝากสิบสองเดือน และต้องเปิดบัญชีขั้นต่ำ 1ล้านบาท
นอกจากบัญชีเงินฝากที่กล่าวมาข้างต้น การออมเงินกับธนาคารยังมีตั๋วแลกเงิน ที่เปรียบเสมือนเราเป็นผู้ให้ธนาคารกู้ยืมโดยเราเป็นเจ้าหนี้ และธนาคารต้องจ่ายดอกเบี้ยให้เราทุกเดือน แต่ในปัจจุบันธนาคารหลายแห่งยกเลิกการจำหน่ายตั๋วเงินไปแล้วเพราะได้รับความนิยมน้อยลงจากการไม่ได้รับการคุ้มครองดอกเบี้ย และมีการกำหนดวงเงินขั้นต่ำสูงมากอยู่ที่หลักสิบล้านบาท
การฝากเงินก็คือการลงทุน แต่ว่าประเภทจะให้ผลตอบแทนสูงสุดกันล่ะ?
หากเปรียบเทียบกันระหว่างบัญชีเงินฝากห้าประเภทแล้ว จะเห็นได้ว่าบัญชีเงินฝากประเภทฝากประจำให้อัตราดอกเบี้ยสูงที่สุด แต่ทั้งนี้อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด เงื่อนไขหลักๆของบัญชีประเภทนี้ คือไม่สามารถถอนเงินออกมาก่อนครบกำหนดระยะฝากได้เพื่อเป็นการออมเงินในระยะยาว
ปัจจุบันบัญชีเงินฝากทั้งห้าประเภทได้เปิดให้บริการหลากหลายรูปแบบมีบริการเสริมและสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่แตกต่างกันออกไปเพื่อแข่งกันดึงลูกค้ากับธนาคารอื่น เช่นบัญชีที่มีประกันอุบัติเหตุร่วมด้วย หรือบัญชีเงินฝากที่ปลอดภาษี เป็นต้น การเลือกเปิดบัญชีประเภทใดประเภทหนึ่งนั้น นอกจากเรื่องของอัตราดอกเบี้ยแล้ว ต้องพิจารณาเงื่อนไข ความสะดวก และความมั่นคงของสถาบันการเงินเพิ่มเติมด้วยทุกครั้ง