จัดเต็ม! PM 2.5 คืออะไร ป้องกันยังไง และนโยบายภาครัฐควรทำอย่างไรกับมัน

เชื่อว่าใครหลายคนคงได้ข่าวเรื่องฝุ่นละออง PM 2.5 ที่คลุ้งอยู่ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งบางคนนั้นก็อาจจะสงสัยอยู่ว่าเจ้า PM 2.5 คืออะไร มีโทษอย่างไรบ้าง และ มีสาเหตุมาจากไหนอะไร วันนี้ทางเรา Estopolis.com ได้นำคำตอบมาให้แล้วในบทความนี้

PM 2.5 คืออะไร

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า PM นั่นเป็นตัวอักษรย่อของ Particulate Matter ที่แปลตรงตัวได้ว่า 'อนุภาคฝุ่นละออง' ส่วนตัวเลข 2.5 เป็นขนาดซึ่งมีหน่วยเป็น ไมครอน มีค่าเท่ากับ 1 ใน 1,000,000 เมตร

เพราะฉะนั้น PM 2.5 จึงหมายถึง อนุภาคฝุ่นละออง ที่มีขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ถ้ายังนึกภาพไม่ออกว่าเล็กขนาดไหน ให้ลองจิตนาการถึงเส้นผ่าศูนย์กลางเส้นผมคนเราดู เล็กแล้วใช่ไหม!? PM 2.5 เล็กกว่านั้นอีกเยอะ เพราะ PM 2.5 มีขนาดประมาณ 1 ใน 25 เส้นผ่านศูนย์กลางเส้นผม ทำให้ PM 2.5 สามารถลอยผ่านขนจมูกไปได้ง่ายๆ แถมยังเข้าสู่กระแสเลือดและซึมสู่อวัยวะอื่นๆ ได้อีกด้วย

โทษของ PM 2.5

แน่นอน! เนื่องจาก PM 2.5 เป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กและเข้าสู่กระแสเลือดได้ จึงเกิดโทษมากมายต่อร่างกายเรา แถมเว็บไซต์ Greenpeace Thailand ระบุว่า PM 2.5 เป็นพาหะนำสารอื่นติดมาด้วย เช่น แคดเมียม ปรอท โลหะหนัก ไฮโดรคาร์บอน และสารก่อมะเร็งจำนวนมากจนทางองค์การอนามัยโลก หรือ WHO จัด PM 2.5 ให้อยู่กลุ่มที่ 1 ของสารก่อมะเร็ง

นอกจากนี้การศึกษาของ Institute for Health and Evaluation มหาวิทยาลัยวอชิงตัน เปิดเผยว่ามลพิษทางอากาศรวมถึง PM 2.5 ที่สะสมในร่างกายนั้นเป็นสาเหตุของโรคร้ายแรงต่างๆ มากมาย ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดในสมอง โรคติดเชื้อเฉียบพลันระบบหายใจส่วนล่าง ซึ่งมีรายงานมาอีกด้วยว่าโทษของ PM 2.5 นี้ส่งผลให้เกิดการตายก่อนวัยอันควรในบ้านเรามากถึง 50,000 รายต่อปีโดยประมาณ

แหล่งกำเนิด PM 2.5 มาจากไหน

เว็บไซต์ Thai PBS รายงานว่าแหล่งกำเนิดของ PM 2.5 มาจากการเผาในที่โล่ง 54% อุตสาหกรรมการผลิต 17% การคมนาคมขนส่ง 13% การผลิตไฟฟ้า 9%  และการประกอบกิจกรรมในที่อยู่อาศัยหรือธุรกิจการค้า 7%

โดยมีตัวเลขสถิติจาก State of Global Air ระบุว่าในปี 2016 มลพิษทางอากาศจากการเผาไหม้ซึ่งเป็นสาเหตุใหญ่สุดในการเกิด PM 2.5 ทำให้คนตายทั่วโลกมากถึง 2.6 ล้านคน

วิธีการป้องกัน PM 2.5

ต้องบอกแบบนี้ก่อนว่าหน้ากากอนามัยแบบธรรมดาไม่สามารถป้องกัน PM 2.5 ได้ เนื่องจาก PM 2.5 มีขนาดที่เล็กมาก ซึ่งหน้ากากที่ป้องกันได้จะเป็นหน้ากากอนามัยชนิด N95 ที่สามารถซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป มีราคาตั้งแต่หลักสิบจนถึงหลักร้อย

วิธีการอื่นๆ ในการป้องกัน PM 2.5 ที่อาจฮาไม่ออก

หลังจากมีช่วงหนึ่งที่ฝุ่นคลุ้งทั่วกรุงเทพฯ ก็มีรายงานจาก Thai PBS ว่าทางกรุงเทพฯ ได้ฉีดละอองน้ำเพื่อลดฝุ่นและจะเพิ่มความถี่ในการล้างทำความสะอาดโดยเฉพาะใต้สถานีรถไฟฟ้า

นอกจากนี้เว็บไซต์ ข่าวสด ยังระบุอีกด้วยว่า กทม. วอนร้านปิ้งย่างใช้เตาลดมลพิษ ซึ่งจริงๆ แล้วถือเป็นสาเหตุในการเกิด PM 2.5 ประมาณ 7% จากทั้งหมด

วิธีแก้ไขปัญหา PM 2.5 ของประเทศอื่นๆ 

เกือบทุกประเทศทั่วโลกล้วนประสบปัญหา PM 2.5 กันทั้งนั้นไม่ใช่แค่ไทยประเทศเดียว ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละประเทศก็ได้ดันนโยบายหรือกฎต่างๆ มาเพื่อป้องกัน PM 2.5 อย่างเช่น รัฐแคลิฟอร์เนียที่ตั้งเป้าเปลี่ยนรถเมล์ทั้งหมดให้เป็นรถพลังงานไฟฟ้าที่ปล่อยมลพิษ 0% ภายใน 2040

นอกจากนี้เพจ TAP-Magazine ยังรายงานอีกด้วยว่าทางจีนนั้นก็หันมาเข้มงวดการคมนาคมที่เป็นสาเหตุอันดัน 3 ในการเกิด PM 2.5 เช่นกัน โดยมีแนวคิดแบ่งวันวิ่งรถเลขคู่เลขคี่ซึ่งดูจากเลขท้ายทะเบียน ไม่เพียงเท่านั้น! ทางรัฐบาลจีนยังเปลี่ยนรถโดยสารเป็นรถไฟฟ้าคล้ายกับที่แคลิฟอร์เนีย โดยตั้งเป้าเปลี่ยนให้ถึง 10,000 คันภายในปี 2020

กลับมาวิเคราะห์การแก้ปัญหา PM 2.5 ของไทยอีกครั้ง

สำหรับการแก้ปัญหา PM 2.5 ที่เกี่ยวข้องกับการคมนาคมนั้น ทางประเทศไทยเองก็ไม่น้อยหน้าเพราะตอนนี้มีนโยบายนำรถเมล์ไฟฟ้ามาใช้แล้ว เหลือเพียงจัดซื้อ นอกจากนี้ยังเคยมีแนวคิดห้ามรถเก่า 7-10 ปีขับในกรุงเทพด้วย ถึงแม้กฎหมายนี้จะถูกต่อต้านจนต้องพับไป แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายิ่งรถเก่ามากเท่าไร มลพิษร้ายรวมถึง PM 2.5 ยิ่งถูกปล่อยมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งเราก็ต้องดูกันต่ออีกว่าในไทยเราจะมีมาตรการหรือแนวคิดอื่นๆ ในการป้องกับ PM 2.5 หรือไม่