เดินหน้า ท้ารถติด พิชิตไฟแดง! ด้วย 3 แอปพลิเคชัน ที่จะทำให้การเดินทางในกรุงเทพเป็นเรื่องง่าย

รถติด!!! ปัญหาที่อยู่คู่เมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯมานานนมจนเราแทบจะจำไม่ได้แล้วว่า...เคยเห็นถนนโล่งสุดตอนไหน โดยเฉพาะโซน CBD และ New CBD ที่มีการเข้าออกของประชากรตลอดทั้งวัน

จากสถิติเว็บไซต์ INRIX ได้บอกไว้เมื่อปี 2017 ว่ากรุงเทพฯ เป็นเมืองรถติดอันดับ 1 ของเอเชีย และอันดับ 16 ของโลก โดยเฉลี่ยแล้วจะมีจำนวนรถทั้งหมดประมาณ 7 ล้านคัน หากนำมาเรียงต่อกันก็นับว่ายาวกว่า เส้นถนนถึง 4 เท่า!! ยิ่งวันไหนต้องเผชิญกับการจราจรแสนติดขัดของช่วง Rush Hours ด้วยแล้ว ยิ่งน่าเบื่อ

แต่ปัจจุบันนี้ก็มีหลากหลายแอปพลิเคชั่นกำลังพัฒนา เพื่อให้การเดินทางในกรุงเทพฯ ดูเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น พร้อมตอบโจทย์คนอยู่คอนโดโดยเฉพาะ ด้วยช่องทางการเดินทางที่สะดวกที่สุด ทำให้ชีวิตของเราราบรื่นพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ อยู่เสมอ

ใช้ชีวิตสมาร์ทด้วย 3 แอปพลิเคชัน

ที่ทำให้การเดินทางในกรุงเทพดูเป็นเรื่องง่าย

ปัจจุบันกรุงเทพฯ มีรูปแบบการเดินทางให้เลือกใช้หลากหลายช่องทาง เริ่มที่การเดินทางสุดฮิตของชาวคอนโดอย่างการขนส่งระบบราง BTS และ MRT ตลอดจนการสัญจรบนท้องถนนที่มีตั้งแต่บริการขนส่ง สาธารณะรถตู้และรถเมล์โดยสาร , แท็กซี่ และรถยนต์ส่วนตัว วันนี้เราจึงจะมาแนะนำ 3 แอปพลิเคชันเด็ด ที่จะช่วยให้คนอยู่คอนโดเดินทางได้สะดวกสบายยิ่งขึ้นกว่าเดิม

1. อยู่คอนโดก็นั่งรถเมล์ได้ง่ายๆ ด้วย VIABUS

ใครที่เคยหงุดหงิดกับการรอรถเมล์นาน ๆ อยู่ล่ะก็ รีบหยิบมือถือขึ้นมาโหลดแอปฯ Viabus กันได้เลย  เพราะแอปฯ นี้จะช่วยให้เราวางแผนในการเดินทางได้ง่ายขึ้น สามารถเช็คตำแหน่งรถเมล์ได้แบบเรียล
ไทม์ด้วยระบบ GPS แถมยังบริหารเวลาเดินทางได้ในตัว

และหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบขึ้นรถเมล์ผิดสายบ่อยๆ ก็สบายใจได้ เพราะแอปฯ Viabus มีฟังก์ชันหาสายรถประจำทางและรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับสถานที่, เส้นทาง, ป้ายหยุดรถ และเวลาเดินรถแต่ละรอบ จึงเหมาะสำหรับคนที่ยังไม่ค่อยเข้าใจการใช้รถเมล์สักเท่าไรนัก แค่เราเปิดเมนูเข้าไปดูเส้นทางการเดินรถแต่ละสาย แต่ละคันเพื่อไปยังจุดหมายที่ต้องการ

อีกหนึ่งความสามารถของ Viabus ที่จะทำให้เราใช้ชีวิตได้สมาร์ทยิ่งขึ้น ก็คือ การตรวจสอบสภาพการจราจรบนท้องถนน โดยจะมีสัญลักษณ์รูปไฟจราจรให้เราแตะเพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชัน เท่านี้เราก็จะรู้ได้ทันที ว่าเส้นทางที่กำลังจะไปเป็นอย่างไร ติดขัดมากน้อยแค่ไหน ช่วยวางแผนและปรับเปลี่ยนการเดินทางได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งหน้าตาแอปนี้ก็จะคล้ายๆ กับ Google Map ที่เราต่างรู้จักกันดี

ด้วยฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ชีวิต Smart Lifestyle บวกกับรูปแบบการใช้งานที่ไม่ยุ่งยากนี่เอง ที่ทำให้ Viabus กลายมาเป็นแอปพลิเคชันที่ได้รับความนิยม มีผู้ใช้งานหลายคนต่างยืนยันว่า...ใช้แล้วช่วยให้ชีวิตดีขึ้นอย่างที่ต้องการ แม้บางครั้งจะเกิดการคาดเคลื่อนไปบ้างก็ตาม

2. รู้ทันทุกเหตุการณ์ผ่านแอปฯ JS100

สำหรับใครที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นประจำ คงคุ้นหูกับสถานีวิทยุ จส100 กันพอสมควร โดยจุดเด่นของคลื่นนี้จะคอยรายงานข่าว, การเกิดอุบัติเหตุ และสถานการณ์ต่างๆ บนท้องถนน แต่ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ก็คือตอนนี้ จส100 เขาได้มีแอปพลิเคชันแล้ว

หน้าตาของแอปพลิเคชันดูแล้วเป็นมิตร ใช้งานง่าย ภายในมีหลายฟีเจอร์ให้เลือกใช้ตามต้องการ ทั้งการแจ้งเหตุฉุกเฉินกับทาง จส.100 ได้โดยตรง, การรับและแจ้งเหตุของหาย และข่าวสารเกี่ยวกับการเดินทางที่ผู้ใช้รถใช้ถนนควรรู้ 

แต่ความโดดเด่นของ JS100 คือ “ฟีเจอร์แผนที่” ที่สามารถรายงานอุบัติเหตุบนท้องถนน และจุดเกิดเหตุต่างๆ ที่อาจก่อให้เกิดการจราจรล่าช้าได้ด้วย ซึ่งจะช่วยให้เราวางแผนการเดินทางก่อนออกจากบ้านในแต่ละวันได้อย่างสมาร์ท พร้อมบอกเส้นทางที่ปิดถนน , โค้งอันตราย , พื้นที่ห้ามจอด ตลอดจนพื้นที่เสี่ยงอันตรายจากมิจฉาชีพ นับเป็นแอปพลิเคชันที่ครอบคลุมเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน สำหรับคนยุคใหม่เลยทีเดียว

3. ตามหาสิ่งที่มากกว่าเส้นทางด้วย Google Maps

เชื่อว่าหลายคนคงรู้จัก Google Maps กันมาบ้างแล้ว แต่วันนี้ Estopolis จะมาขอแชร์ฟีเจอร์ดีๆ ที่นอกเหนือจากความแม่นยำด้านเส้นทางและสภาพการจราจร

ที่มา: https://unsplash.com

โดยสิ่งที่ทำให้ Google Maps ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของแอปพลิเคชันด้านเดินทาง ก็คือ ความ All Around The World ของฟีเจอร์ ที่รวบรวมข้อมูลให้เราค้นหาสถานที่ต่างๆ ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร, สถานที่ราชการ , โรงพยาบาล และสถานที่ท่องเที่ยวสุดชิลล์ เป็นต้น

แต่ความ All Around ของ Google Maps ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะภายในยังมีฟีเจอร์มากมายซ่อนอยู่ เช่น การให้รายละเอียดเกี่ยวกับป้ายหยุดรถและสายรถเมล์ที่แม่นยำ , การค้นหาสถานที่จำเป็นในชีวิตประจำวันอย่าง ปั๊มน้ำมันหรือตู้ ATM รวมถึงสาเหตุของรถติดบนถนนอีกด้วย!!

มาเอาใจสายเที่ยวกันบ้าง โดย Google Maps ก็ตอบโจทย์ความสะดวกสบายของการท่องเที่ยวไว้ด้วยฟีเจอร์ Your Place ให้เราได้วางแผนออกทริปด้วยการสร้างแผนที่ส่วนตัวของตัวเอง คราวนี้เราก็จะรู้ได้ว่า ต้องเดินทางผ่านเส้นทางไหน สภาพการจราจรเป็นอย่างไร และยังสามารถแชร์โลเคชันร่วมกับเพื่อนร่วมทริปให้รู้ว่าเราอยู่ตรงไหนได้อีกด้วย

และถึงแม้เราจะแก้ไขปัญหารถติดเองไม่ได้ แต่เราก็มีหันทางและตัวช่วยมากมายมาช่วยให้ชีวิตคล่องตัวขึ้น อย่าง 3 แอปพลิเคชันเพื่อการเดินทางสุดสมาร์ท ที่เราได้นำเสนอไปในวันนี้ ส่วนใครที่มีแอปดีๆ อยากมาแบ่งปันก็อย่าลืมบอกต่อกันได้เลย