รูปบทความ การตรวจรับคอนโดฯ เองได้ ไม่ให้พลาด ! ทั้งมือหนึ่งและมือสอง

การตรวจรับคอนโดฯ เองได้ ไม่ให้พลาด ! ทั้งมือหนึ่งและมือสอง

เพราะคอนโดมิเนียมไม่ใช่ราคาถูก ๆ บางห้องซื้อมาราคาหลายล้านบาท จึงควรจะมีการตรวจสอบให้แน่ใจเสียก่อนว่าห้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่มีตำหนิบกพร่อง ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายภายหลังได้ เพราะหากเราขนของเข้ามาอยู่เลย โดยไร้ซึ่งการตรวจสอบให้ถี่ถ้วน วันใดที่มีปัญหาขึ้นมาคงทำให้ปวดหัวน่าดู นอกจากจะยุ่งยากเรื่องการซ่อมแซมภายหลังแล้ว อาจเสียเงิน เสียเวลา แล้วยังเสียความรู้สึกอีกด้วย




ข้อดีของการตรวจรับคอนโด 

  1. มั่นใจได้ว่าห้องที่ได้อยู่ในสภาพเสร็จสมบูรณ์ ปลอดภัยในการเข้าอยู่อาศัย คุ้มค่าราคาเงินที่จ่าย ไม่เสียความรู้สึกภายหลัง
  2. ลดโอกาสการเกิดปัญหาภายหลัง ที่อาจไม่เป็นไปตามข้อตกลง เช่น การถูกโถมโปรโมชั่นแรง ๆ เพราะผู้ขายต้องการปิดการขายโดยเร็ว แต่เมื่อมีปัญหาตามมาทีหลังจริง กลับมีเงื่อนไขรัดกุมมากมายจนหน่ายใจ ไม่เป็นไปตามสัญญา
  3. รักษาสิทธิในฐานะผู้ซื้อ ผู้บริโภค เรามีสิทธิได้รับสินค้าและบริการที่ดีที่สุด มีสิทธิเรียกร้องหากเกิดเหตุการณ์ไม่เป็นธรรม




หากอยู่ในช่วงที่ยังไม่ได้เซ็นรับโอนกรรมสิทธิ์ เรายังมีสิทธิที่จะท้วงติงความไม่ชอบธรรมกับโครงการหรือผู้ขายได้

แต่เมื่อเราทำการเซ็นรับเรียบร้อย จ่ายเงินครบถ้วนกระบวนความ ภาระทั้งหมดจะตกมาเป็นของเราโดยทันที และหากเรารับสินค้ามาทั้งที่ยังเต็มไปด้วยภาระคั่งค้าง แน่นอนว่าเราอาจจะต้องเป็นคนรับผิดชอบมันแต่เพียงผู้เดียว


เช็กลิสต์อุปกรณ์สำหรับตรวจรับห้อง



อุปกรณ์สำหรับการตรวจห้อง ฉบับ “ ฉันทำเองได้ ” อุปกรณ์หาได้ง่าย แต่ได้ประสิทธิภาพ

  • กระดาษโน้ต มีกาว แปะได้ สติกเกอร์สีเด่น ๆ - สำหรับ มาร์คจุดแก้ไข
  • ตลับเมตร - สำหรับ วัดความยาว ความสูง ขนาดของห้องหรือสิ่งของ
  • ลูกแก้ว ลูกปิงปอง - สำหรับ วัดระดับพื้น
  • ถังน้ำ - สำหรับ รองน้ำ
  • เงินเหรียญ - ไว้เคาะตรวจความหนาแน่นของกระเบื้อง
  • ที่ชาร์จไฟ - หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สะดวกแก่การพกพา
  • ถุงเท้า - สวมถุงเท้าถูไปกับพื้นเพื่อตรวจสอบขอบคมของพื้นห้อง ความเรียบในงานไม้ (หากมี)
  • ผ้า - สำหรับ เช็ดทำความสะอาด เคลียร์พื้นที่ที่ต้องการตรวจสอบความชื้น การรั่วไหลซึมของท่อ
  • ไฟฉาย - สำหรับ ใช้ส่องบริเวณมุมอับ มุมมืด แสงสว่างไม่พอ ใช้ส่องผนัง
  • อุปกรณ์ที่บันทึกภาพได้ เช่น โทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูป - เพื่อถ่ายภาพเป็นหลักฐานจุดที่มีการเน้นย้ำการแก้ไข


วิธีการตรวจห้อง ต้องตรวจอะไรบ้าง

งานเพดาน


ตรวจดูด้วยตาเปล่า หรือการสัมผัส
  • เพดานต้องราบเรียบ เสมอกัน ไม่เป็นแอ่งท้องช้าง ไม่เป็นคลื่น
  • ไม่มีคราบน้ำ คราบเหลืองหรือดำ สกปรก
  • โคมไฟบนฝ้าเพดานติดตั้งอย่างแข็งแรงหรือไม่ อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องสมควรแล้วหรือยัง
  • เซนเซอร์ตรวจจับควันไฟ มีติดตั้งในตำแหน่งที่ควรมีแล้วหรือไม่ แต่ละตำแหน่งติดตั้งแข็งแรงเพียงใด 


งานผนัง



สังเกตได้ด้วยตาเปล่า ตรวจสอบด้วยเงินเหรียญ ตลับเมตร


  • ผนังต้องไม่มีรอยแตก รอยร้าว ไม่หลุดลอก ความสูงจากพื้นถึงเพดานถูกต้องตามสัญญาระบุไว้
  • ผนังต้องดิ่งลงพื้น ตั้งฉาก ไม่ลาด ไม่เอียง การเข้าไปยืนดูใกล้ ๆ หรือเอาลำตัวเข้าแนบจะตรวจสอบได้ชัดเจนกว่าการยืนมองด้วยตาเปล่า
  • การฉาบปูนต้องเต็ม เสียงดัง ปึก ๆ ลองใช้เหรียญหรือมือเคาะดู หากด้านในมีความเป็นโพรง จะเป็นเสียงแปลก ๆ แทน
  • หากมีการทาสีผนัง ต้องสม่ำเสมอ ไม่เป็นรอยด่าง
  • ต้องสามารถติดวอลเปเปอร์ได้อย่างเรียบสนิท ไม่มีฟองอากาศ
  • ตรวจสอบบัวพื้น รอยต่อระหว่างผนังกับพื้น หรือกับเพดาน ต้องอยู่ในสภาพเรียบร้อย เชื่อมติดสนิท ไม่กลวง


งานพื้น

พื้นห้อง



ใช้อุปกรณ์ เงินเหรียญ ลูกแก้วหรือลูกปิงปอง ถุงเท้า ตลับเมตร


  • วัดพื้นห้อง ตรวจสอบว่าได้ขนาดเนื้อที่ตามในสัญญาหรือเปล่า
  • เดินลากเท้าอย่างช้า ๆ ไปทีละจุด หากพื้นถูกปูไม่ดี ไม่เสมอกัน มีขอบเผยอ หรือมีขอบคม ถุงเท้าจะเกี่ยวติดบริเวณจุดที่มีปัญหา สังเกตได้ง่าย
  • เดินลากเท้า ใช้สัมผัสในการตรวจสอบความราบเรียบของพื้น ควรจะเรียบเสมอกัน
  • ใช้เหรียญเคาะตามพื้น กระเบื้อง เสียงต้องหนักแน่นจึงจะถือว่าใต้กระเบื้องมีการลงพื้นอย่างดี หากเสียงแปลกไปแสดงว่ากลวง พื้นไม่เต็ม
  • ใช้ลูกแก้วหรือลูกปิงปองวางไว้มุมห้อง หากเรียบราบไปเสมอกันอุปกรณ์จะอยู่ที่เดิม หากมีการไหลเร็วไปข้างใดข้างหนึ่งแปลว่าเอียง หรือหากไหลมากองรวมกันแสดงว่าพื้นเป็นหลุมแอ่ง


พื้นห้องน้ำ



ใช้อุปกรณ์ ถังน้ำ ลูกแก้วหรือลูกปิงปอง


  • การตรวจคล้ายกับการตรวจพื้นห้องทั่วไป เรื่องความแน่นหนาของพื้น เนื้อที่ ขนาด หรือขอบคม
  • แต่ พื้นห้องน้ำจะต่างออกไป ตรงที่ลูกแก้วหรือลูกปิงปองควรไหลลงไปรวมกันที่บริเวณ จุดระบายน้ำ จึงจะมั่นใจได้ว่าน้ำจะไม่ขัง
  • ใช้ถังน้ำรองน้ำจนเต็ม เทบนพื้นจุดที่ ไกล รูระบายน้ำมากที่สุด สังเกตการไหลระบายของน้ำ ต้องระบายได้เร็ว ไม่ขัง ไม่กองเป็นแอ่ง


งานระบบน้ำ

ส่วนห้องครัว



ใช้อุปกรณ์ ผ้า และใช้การสังเกตดูด้วยตาเปล่า การสัมผัส


  • ท่อเดินน้ำ รูระบาย ต้องไม่มีการรั่วซึม
  • ใช้ผ้าเช็ดท้องอ่างและท่อให้แห้ง เปิดน้ำใส่อ่างล้างจานให้เต็ม โดยปิดรูระบายน้ำเอาไว้ แล้วดูใต้อ่างส่วนที่เป็นท้องอ่างและท่อเดินน้ำ สังเกตดูว่ามีการรั่วซึมไหม มีความชื้นเล็ดลอดออกมาจุดไหนหรือเปล่า
  • เปิดน้ำให้ระบายออก ลองเปิดก๊อกน้ำดูให้สุดแรง ทดสอบระบบฉีดของน้ำ และสังเกตท่อระบายน้ำอีกครั้งระหว่างปล่อยน้ำไหลลงรูระบาย 


ส่วนห้องน้ำ



ใช้อุปกรณ์ ผ้า กระดาษชำระ และใช้การสังเกตดูด้วยตาเปล่า การสัมผัส


  • บริเวณอ่างล้างหน้าให้ทำแบบเดียวกับอ่างล้างจานในห้องครัว
  • ก๊อกน้ำทุกตัวในห้องน้ำ ลองเปิด-ปิด ตรวจสอบหลาย ๆ ครั้ง เปิดเบาสุด-แรงสุด ดูว่าการไหลของน้ำแรงไหม หากมีฝักบัว น้ำควรไหลออกจากฝักเป็นเส้นระเบียบ ไม่แตกแถว และไหลแรงตามมาตรฐานหัวฉีด
  • ตรวจดูรูระบายน้ำในห้องน้ำ ควรจะระบายได้รวดเร็ว ตรวจสอบให้ดีว่าภายในท่อระบายน้ำไม่มีเศษดินปูนหรือขยะอุดตัน
  • หากโครงการมีการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นให้ โปรดตรวจสอบเรื่องการติดตั้งสายดิน ระบบการใช้งาน เช็กให้ละเอียดที่สุด เพราะเป็นเรื่องอันตราย
  • ส้วม ชักโครก สามารถกดลงระบายได้ดีหรือไม่ ทดสอบโดยการใช้กระดาษชำระโยนลงไป รอให้พองตัวเนื่องจากน้ำก่อนแล้วลองราดหรือกดลง ต้องสามารถกดลงได้ทั้งหมด หากไม่หมดต้องมาร์คเป็นเรื่องแก้ไขสำคัญ ๆ เลยทีเดียว
  • เช็กมิเตอร์น้ำ ต้องไม่มีการหมุนเดินในขณะที่ทุกก๊อกปิดหมด หากเป็นเช่นนั้นแสดงว่ามีน้ำรั่ว


งานระบบไฟ



ใช้อุปกรณ์ สายชาร์จ ที่ชาร์จไฟ
  • เปิด-ปิดไฟทุกดวง หลาย ๆ ครั้ง เช็กตำแหน่ง และความแข็งแรงของการติดตั้ง
  • ดูตำแหน่งของปลั๊กไฟ เหมาะสมกับจุดต่าง ๆ ในห้องแล้วหรือไม่ เพียงพอต่อการใช้งานหรือเปล่า
  • ตรวจสอบการเดินของกระแสไฟฟ้า ปลั๊กไฟทุกปลั๊กสามารถใช้งานได้ตามปกติหรือไม่ โดยการนำที่ชาร์จไฟ อาจจะเป็นสายชาร์จโทรศัพท์มือถือ สายชาร์จแบ็ตเตอร์รี่สำรอง หรือไดร์เป่าผมตัวเล็กที่สามารถพกพาได้ มาเสียบเปิดใช้ทุกจุด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไฟฟ้าใช้งานได้ตามปกติ
  • ตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอัน ทุกชิ้น ที่มีติดตั้งภายในห้อง ลองเปิดไฟทุกดวง เปิดแอร์ เสียบปลั๊กชาร์จไฟ ทดสอบระบบไฟฟ้าว่าหากใช้พร้อมกันจะสามารถทำได้ไหม มีปัญหาอะไรหรือเปล่า


ประตู หน้าต่าง ภาพรวมของห้อง



ตรวจสอบได้ด้วยตาเปล่า และการสัมผัส


  • ประตูต้องเปิดปิดได้สนิท ไม่มีเสียงเอียดอาด
  • วงกบอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ติดตั้งอย่างเรียบร้อย
  • กลอน กุญแจ ระบบล็อค และบานพับใช้งานได้ดี ไม่ขัดข้อง ปิดได้สนิทพอดี
  • หากประตูหรือหน้าต่างเป็นแบบบานเลื่อน ต้องเลื่อนได้ลื่น เกาะรางดี ไม่ตกราง ไม่ฝืด
  • หากประตูหรือหน้าต่างเป็นกระจก ตรวจสอบความแข็งแรง รอยแตกร้าวต้องไม่มี
  • ช่องใต้ประตูขึ้นมาสูงมากเกินไปหรือไม่ ตาแมวใช้งานได้สมบูรณ์ไหม


ความเรียบร้อยโดยรวม



ตรวจพวกรอยเปื้อย จากปูน ยาแนว สี ตรวจดูว่าเก็บงานละเอียดเรียบร้อยแล้วหรือไม่ ความเลอะเทอะตามพื้น ผนัง หรือเฟอร์นิเจอร์ในห้อง ทบทวนอีกครั้ง


มือหนึ่งยังไม่เท่าไหร่ ถ้าเป็น “ มือสอง ” ล่ะ ควรจะตรวจตรงไหนเพิ่มดี ?


จริง ๆ แล้ว วิธีที่พวกเรา Estopolis ได้นำเสนอไปนั้น สามารถนำมาใช้ตรวจรับห้องก่อนโอนได้ทั้งมือหนึ่งและมือสองเลย แต่ถึงอย่างไร ความ “ มือสอง ” ก็เป็นที่น่ากังวลมากกว่าอยู่แล้ว แถมบางทีมือสองก็ไม่ได้แปลว่าราคาจะเป็นรองที่สองลงมาด้วย ยิ่งอยู่ในย่านสุดฮิต การตกแต่งโก้หรูดูมีคลาสเข้าหน่อย ราคาก็เจ็บไม่น้อยเหมือนกัน



เป็นเช่นนั้นแล้ว เรามีข้อควรระวัง โน้ตเล็ก ๆ พิเศษ มาติวเข้มให้คนที่กำลังจะซื้อต่อคอนโดฯ ตรงไหนที่ควร เน้นย้ำเป็นพิเศษ เช็กให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้

  1. ต้องพึงเข้าใจก่อนว่า ห้องมือสอง ก็คือ ห้องที่เคยใช้งานมาแล้ว อาจมีรอยเปื้อน ความเก่า ผุพัง ตามอายุการใช้งาน
  2. กระเบื้อง สุขภัณฑ์ ที่ใช้งานหนัก ดูสภาพว่ายังเรียบร้อยดีหรือไม่ หรือเสื่อมโทรมไปเท่าไหร่ มีวิธีซ่อมแซมไหม
  3. เน้นตรวจย้ำเรื่องระบบน้ำ โดยเฉพาะการระบายน้ำในห้องน้ำ ชักโครก หรือท่อระบายน้ำในห้องครัวด้วยเช่นกัน และงานระบบไฟ โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้า ตรวจเช็กสภาพและการยังใช้งานได้ให้ละเอียด
  4. ผนังห้องที่อาจหมองเก่า มีรอยร้าวหรือรอยแตก รอยเจาะ รอยกาวติดวอลเปเปอร์ สีซีด ลอกร่อน ฯลฯ
  5. เพดาน ฝ้า ระวังเรื่องคราบน้ำ รอยเหลือง รอยดำ ที่อาจเกิดจากน้ำรั่ว ความชื้น จากชั้นบน

ประมาณนี้สำหรับเรื่องที่พอจะเน้นตรวจได้หากต้องซื้อคอนโดฯมือสอง เพราะเป็นจุดที่สมควรจะอยู่อย่างดีที่สุดก่อนส่งต่อมือเจ้าของคนใหม่



หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้แก่ผู้ที่กำลังหาข้อมูลเรื่องการตรวจรับห้องก่อนโอน และผู้ที่ต้องการอยากมีคอนโดฯเป็นของตัวเอง แต่ยังลังเลเรื่องมือหนึ่งหรือมือสองอยู่ อาจใช้ข้อมูลจากบทความนี้ประกอบการตัดสินใจได้ไม่มากก็น้อย


ข้อแตกต่างระหว่างมือหนึ่งมือสอง เห็นจะเป็นความสดใหม่ ไม่เคยมีใครได้ใช้งานมาก่อน ก็แล้วแต่ว่าใครจะซีเรียสมากน้อยกับเรื่องนี้ บางทีมือสองสภาพดี ๆ การตกแต่งสวย ๆ ราคาถูกกว่าครึ่งต่อครึ่งก็มีอยู่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับทำเล งบประมาณ การใช้งาน และความถูกใจของผู้ซื้อ


บทความที่เกี่ยวข้อง

รู้ไว้ใช่ว่า คิดจะซื้อคอนโดทั้งทีต้องจ่ายค่าอะไรบ้าง

คอนโดใหม่มือหนึ่ง VS คอนโดมือสองที่เห็นสภาพ แบบไหนใช่สำหรับคุณ

ห้องแบบ Fully Furnished VS Fully Fitted แบบไหนน่าลงทุน

ช่วยลดความเสี่ยงอีกนิดด้วย หลักวิเคราะห์ทำเลทำเงิน

ทำความรู้จักเบื้องต้นกับ ‘สัญญาซื้อ-ขายคอนโดฯ’

เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?

Related Stories

Esto Talks

See All >

Living out loud

Living out loud : VANA RESIDENCE พระราม 9 - ศรีนครินทร์