เก็บให้เรียบ!!! เปลี่ยนห้องรกๆ ให้เป็นระเบียบได้ด้วยตัวเอง
11 July 2560
'การจัดห้องขนาดเล็ก' ดูจะเป็นเรื่องชวนปวดหัวสำหรับคนอยู่คอนโดไม่น้อย เพราะการจัดเก็บของที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นไม่ใช่เรื่องง่าย กว่าจะหาวิธีที่ลงตัวก็ต้องรื้อต้อง จัดระเบียบ กันอยู่หลายรอบ แต่ในวันนี้ Estopolis ของเราจะมาช่วยแก้ปัญหาห้องรกๆ ของคุณให้ดูน่าอยู่และเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้นกับ การจัดห้องขนาดเล็ก แบบประหยัด และน่าอยู่ ตามสไตล์ญี่ปุ่น มาดูกันเถอะว่า MHEESKA จาก pantip.com จะมีวิธีการจดห้องตามแบบฉบับผู้หญิงตัวคนเดียวยังไงบ้าง
การจัดห้องขนาดเล็ก แบบประหยัด และน่าอยู่ ตามสไตล์ญี่ปุ่น
เมื่อเวลาผ่านไปข้าวของภายในห้องก็ดูจะมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งถ้าใครไม่มีเวลาเก็บห้องสวยๆ ก็กลายเป็นห้องรกๆ ได้ง่ายๆ อย่างเช่นห้องเราที่เมื่อเวลาผ่านไป ซื้อของเข้าห้องทุกเดือนๆ ของก็เยอะขึ้นค่ะ รกกว่าเดิมเยอะเลย แต่เรามีวิธีจัดการเลยอยากจะมาแชร์วิธีแต่งห้องขนาดเล็ก และวิธีเก็บของให้เป็นระเบียบ ซึ่งเราได้แรงบันดาลใจมาจากการที่ได้ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นและเลือกจองที่พักจาก Airbnb ได้พักห้องพักของคนญี่ปุ่นจริงๆ เลยเก็บเกี่ยววิธีการจัดของจากคนญี่ปุ่นมาบ้าง แล้วนำมาปรับใช้กับตัวเอง
ขอเกริ่นสักนิดนะคะว่า เราอาศัยอยู่ในบ้านกับครอบครัว แต่ชีวิตส่วนใหญ่จะอยู่แต่ในห้องนอนเป็นหลักค่ะ และที่สำคัญ เราเลี้ยงแมวด้วยค่ะ ทำให้ปัญหาเรื่องฝุ่น ขนแมว ค่อนข้างมีเยอะ แต่เรามีวิธีจัดการ โดยการใช้กล่องแบบมีฝาซะเยอะ รวมถึงกวาดห้องดูดฝุ่นทุกวัน ส่วนถูบ้าน ถ้าไม่ยุ่งก็จะ 2-3 วันครั้ง ถ้างานยุ่งก็จะสัปดาห์ละครั้ง
จัดโซนเตียงนอนให้เป็นระเบียบและน่านอน ด้วยของตกแต่งน่ารักๆ
สำหรับโซนเตียงเราเลือกจัดห้องให้เข้ากับสีของเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเลือกมาเป็นไม้สีบีช ทำให้ห้องดูอบอุ่น เหมาะกับการพักผ่อน เลยเลือกสีชมพูอ่อนๆ มา และเป็นคนนอนกับแมวด้วย เลยต้องมีที่นอนสำหรับแมวนิดนึง
(ตุ๊กตาคุมะบนหนังสือการ์ตูน ตั้งใจเอามาเป็นหมอนข้างค่ะ แต่...โดนแมวยึด)
ช่วงนี้ติดการ์ตูนหนักมากค่ะ เราเลยเอาการ์ตูนส่วนหนึ่งที่อยากอ่านซ้ำๆ จัดไว้ตรงหัวเตียง เผื่อกลางคืนนอนไม่หลับ ก็หยิบมาอ่านได้สะดวก
มี Tips เล็กๆ ในการแต่งห้องใส่ไปในภาพบ้างนะคะ อย่างเช่นในภาพพูดถึงเรื่องหมอน
เราเป็นคนหนุนหมอน 2 ใบ เมื่อก่อนก็ใช้หมอนธรรมดา 2 ใบซ้อนกัน แต่ไปเดินสำเพ็งเจอหมอนตุ๊กตา น่าสนใจดี
เลยนำมาหนุนให้ 2 Layers มันแตกต่างกันหน่อย ดูไม่จำเจ
ปกติเป็นคนไม่ชอบนอนในห้องมืดค่ะ ต้องมีแสงไฟสักนิด ไปเจอโคมไฟน่ารักที่สำเพ็งอีกเช่นกัน เอาไว้เปิดเวลานอน เวลาสะดุ้งตื่นจะได้ไม่ตกใจที่ห้องมืด หนังสือที่ตอนนี้กำลังอ่านอยู่ เราแยกออกมาจากกองรวม เพื่อที่จะได้หยิบสะดวกขึ้น
การจัดห้องแบบนี้สะดวกต่อการหยิบใช้ และเป็นการจัดห้องให้เป็นระเบียบด้วยการใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า แต่อาจจะต้องขยันทำความสะอาดกันหน่อยนะคะ เพราะห้องจะมีฝุ่นสะสมให้ต้องปัด กวาด เช็ด ถู กันหลายจุดเลย
นอกจากจะเน้นการจัดห้องให้เป็นระเบียบแล้ว เรายังไม่ลืมที่จะตกแต่งห้องให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้นด้วย ของตกแต่งห้องน่ารักๆ ตามแบบฉบับญี่ปุ่น เราไปเจอธงกิ๊บเก๋ที่งาน Container Market ที่จัดทุกๆ ฤดูหนาว เห็นว่าน่ารักดี ราคาไม่แพง แถมให้ห้องดูสดใสขึ้นด้วย เลยสอยมาแต่งห้องซะเลย นาฬิกาสีขาวด้านบนจับฉลากได้มาจากงานปีใหม่ค่ะ แต่เห็นว่ามีขายที่เดอะมอลล์นะ
จัดห้องให้เป็นระเบียบแบบญี่ปุ่นคือ เน้นการใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วให้คุ้มค่า
จะสังเกตเห็นนะคะว่า ของเรามีเยอะมาก แต่เราใช้วิธีการจัดห้องให้เป็นระเบียบและน่าอู่มากขึ้น ด้วยการใช้ชั้นวางของ และจัดของให้ชิดกับผนังด้านหนึ่ง เพื่อให้เหลือทางเดินผ่านได้สะดวก
เจาะลึกตรงโซนเครื่องแต่งตัว, ครีมประทินผิว กันสักนิด เราจัดว่า เป็นคนที่เครื่องประดับกับของประทินผิวน้อยกว่าผู้หญิงคนอื่นนะคะ ของเลยมีแค่นี้ ลิ้นชักเลือกใช้ลิ้นชักพลาสติกที่มองเห็นของด้านในได้ จะได้ไม่ต้องจำว่าชั้นไหนเป็นอะไร มองผ่านๆ ก็รู้แล้วว่าต้องเปิดชั้นไหน ส่วนด้านบนลิ้นชัก วางครีม แป้ง โลชั่นต่างๆ ให้หยิบได้ง่ายขึ้น
เราจัดห้องให้เป็นระเบียบด้วยการแยกประะเเภทของออกจากกันให้ชัดเจน ไม่เว้นแม้เเต่ในลิ้นชักเราก็ใช้กล่องเล็กๆ วางลงไปอีก เพื่อแยกประเภทของได้ชัดเจน จะได้ไม่ต้องวางรวมๆ กันแล้วรก เก็บง่าย หยิบง่าย
บนชั้นวางหนังสือ คือพื้นที่ๆ สามารถเก็บของได้คุ้มและเป็นระเบียบสุดๆ กล่องบนชั้นเราซื้อจาก Komonoya (โคโมโนยะ เซนทรัลพระราม 9) และ B2S ค่ะ
ชั้นวางหนังสือ ตอนนี้คือเต็มแน่นเอี๊ยดแล้ว เราใช้วิธีการวางซ้อน 2 แถวด้วย หนังสือเล่มไหนมีความกว้างน้อย เราก็รวมประเภทแล้วแยกออกมา จะได้วางอยู่ด้วยกันได้ ดูเป็นระเบียบและน่าหยิบมาอ่านดีด้วยค่ะ
เราจะมีช่องเอาไว้วางของจุกจิก เช่น มือถือ เวลากลับมาบ้านเราไม่ชอบเอามือถือไว้บนเตียง เพราะนอนกลิ้งไปมาแล้วจะหาไม่เจอ เลยจะวางไว้ที่จุดนี้ก่อนค่ะ ส่วนบนหนังสือถ้าว่างๆ ก็วางของอย่างอื่นได้ แต่ถ้ามีเวลาเหลือ แนะนำให้เก็บของเข้าที่ดีกว่านะคะ ตรงนี้เป็นแค่จุดพักของเท่านั้น
ถัดมานิดหนึ่งตรงบริเวณประตู เราใช้ที่แขวนหระเป๋าจากอีเกียในราคา 99 บาทเท่านั้น ขอบอกว่ามันทำให้เก็บของได้คุ้มค่ามากค่ะ เน้นแขวนกระเป๋าที่ใช้บ่อยๆ ทำให้หยิบใช้ของง่ายและจัดเก็บได้เป็นระเบียบ น่ามองมากขึ้นเยอะทีเดียว
ส่วนตู้เสื้อผ้า เราเลือกใช้ตู้เสื้อผ้าที่มีกระจกติดอยู่เลยค่ะ จะได้ไม่ต้องใช้โต๊ะเครื่องแป้ง ยืนแต่งตัวไม่ลำบาก แถมส่องได้ครึ่งตัวด้วย (ก็เพียงพอแล้วล่ะ) ที่สำคัญ กระจกนี้ทำให้ห้องเราดูกว้างขึ้นด้วยค่ะ จริงๆ ห้องเล็กมากๆ แต่ได้กระจกช่วยให้ดูสบายตา ด้านบนตู้เสื้อผ้า ซื้อลังพลาสติกมาเก็บของต่างๆ ได้อีกมุมนึงด้วยค่ะ
จัดโต๊ะทำงาน ให้เป็นระเบียบ เพื่อเพิ่มพลังในการทำงาน
จัดเป็นโซนที่เราชอบมากที่สุดในห้องเลยค่ะ สำหรับมุมของโต๊ะทำงาน เรามีคติอยู่ว่า ถ้าจะต้องมีมุมทำงานในห้อง มุมนั้นต้องน่ารักที่สุด และหยิบใช้ของได้สะดวกที่สุด
ชั้นต่างๆ ซื้อจากตลาดนัดรถไฟ, ไดโซะ, โคโมโนยะค่ะ เลือกซื้อชั้นไม้ที่มีสีคล้ายคลึงกับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่น ทำให้ห้องสไตล์ไม่หลุดจากกัน และจัดการเก็บอุปกรณ์ที่ใช้บ่อยๆ แยกออกจากกันให้หยิบใช้งานได้ง่ายๆ โดยซื้อชั้นไม้สีเข้ากับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นๆ มาใช้ค่ะแต่ที่ภูมิใจนำเสนอสุดๆ จะเป็นลิ้นชักม้ขวามือซื้อที่ไดโซะสาขาสีลมคอมเพล็กซ์ค่ะ 1 เซ็ต คือ 3 ชิ้น (ลิ้นชัก 2 + กล่องไม้ 1 = 180 บาท) ราคาไม่แพงแถมสีสวยด้วย
อุปกรณ์ประดิษฐ์ประดอย งาน craft ต่างๆ เราเลือกใช้ลิ้นชักใสในการเก็บค่ะ เพราะแต่ละชั้นเราสามารถแยกประเภทได้ และหยิบได้ง่ายเพราะมองเห็นจากข้างนอกด้วย ที่สำคัญ ดูสวย ไม่แพง และไม่หลุดจากสไตล์ของห้องค่ะ นอกจากนั้นก็เลือกของตกแต่งห้องในสไตล์ญี่ปุ่นมาเสริมอีกหน่อย ทำให้ห้องดูน่ารักขึ้นเป็นกอง
และเรื่องสุดท้ายที่เราจะพูดถึงคือ เรื่องตากผ้าค่ะ เราใช้ด้านหลังพนักพิงเก้าอี้เป็นพื้นที่ตากผ้า โดยใช้ตะขอตัวเล็กมาแขวน ทำให้เราแขวนผึ่งเสื้อผ้าได้ด้วย แต่ก็เป็นแบบชั่วคราวสไตล์เด็กหอ หรือคนอยู่คอนโดขนาดเล็กค่ะ
โดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นไอเดียในการจัดแต่งห้องขนาดเล็กให้ดูเป็นระเบียบ และน่าอยู่มากขึ้น ด้วยการใช้เฟอร์นิเจอร์เข้าช่วย และเน้นการใช้งานในทุกพื้นที่ให้คุ้มค่า โดยทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับพื้นฐานการจัดการและราคาเป็นหลัก ก็หวังว่าจะเป็นไอเดียที่ช่วยทำให้ชาวคอนโดจัดห้องให้เป็นระเบียบ น่าอยู่ และประหยัดได้มากขึ้นไม่มากก็น้อย
ส่วนใครที่สนใจบทความด้านการตกแต่งด้านอื่นๆ อีกล่ะก็...สามารถติดตามต่อได้ที่ https://www.estopolis.com